เอฟบีไอสอบหลังนักบินสองคนแจ้งพบเห็นคนบินด้วยเจ็ทแพ็คที่ความสูง 3  พันฟุต

หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) กำลังสอบสวน หลังจากนักบินสองคนแจ้งพบเห็นชายสวมเจ็ทแพ็ค เครื่องยนต์ที่ช่วยให้คนบินได้ เหนือสนามบิน ลอสแอนเจลิส โดยคนแรกเป็นนักบินอเมริกา แอร์ไลนส์ เที่ยวบิน1997 กำลังนำเครื่องบินลงจอดสนามบินแอลเอ  เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 30 ส.ค. วิทยุแจ้งหอควบคุมการบินว่า เห็นคนบินด้วยเจ็ทแพ็คห่างจากฝั่งซ้ายเครื่องบิน 300 หลา (274เมตร) ความสูง 3,000 ฟุต ( 914 เมตร)  ราว 10 นาทีต่อมา  นักบินสกายเวสต์ แจ้งหอบังคับการบิน “เราเพิ่งเห็นคนในชุดเจ็ทแพ็กผ่านเรามา”  

หอบังคับการบิน จึงได้แจ้งเตือนนักบินเจ็ตบลู ว่าให้ใช้ความระมัดระวังมนุษย์เจ็ทแพ็ค ที่พบเห็นห่างจากสนามบินแอลเอ ทางใต้ 300 หลา ความสูงราว 3 พันฟุต  ขณะนักบินเจ็ตบลู แจ้งว่า “เราได้ยินแล้วและกำลังมองอยู่" เจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน ระบุว่า "คุณไม่ได้ยินเรื่องแบบนี้ทุกวันแน่ๆ มีแต่ในแอลเอ”

สำนักงานการบินพลเรือนสหรัฐ (เอฟเอเอ) แจ้งว่า ได้ส่งรายงานให้กับตำรวจแอลเอแล้ว  แต่ถึงขณะนี้ ยังไม่พบชายคนใดในชุดเจ็ทแพ็ค ใครหรืออะไรที่เข้าใกล้เครื่องบินยังคงเป็นปริศนา การสอบสวนยังดำเนินอยู่ ด้าน เอฟบีไอในพื้นที่ ก็กำลังสอบสวนเช่นกัน 

เจ็ทแพ็กบางแบบ ทำความสูงในระดับที่นักบินแจ้งพบเห็นได้ ตัวอย่าง เจ็ทแพ็ค ของมาร์ติน แอร์คราฟต์ บริษัทนิวซีแลนด์ ที่ออกแบบและทดสอบว่าบินขึ้นสูงถึง 5,000 ฟุต เมื่อปี 2554 แต่แผนการขายด้วยราคากว่า 1 แสนดอลลาร์ ยังไม่ประสบความสำเร็จ 

สตีฟ โคเวลล์ ผู้เชี่ยวชาญการบินบอก ฟอกซ์11 กล่าวว่า การบินด้วยเจ็ทแพ็คด้วยความสูงระดับนั้นเป็นไปได้ แต่ได้ในเวลาสั้นๆ ต่อให้เป็นรุ่นล้ำที่สุดก็ตาม คนคนนี้อาจบินขึ้นไปแล้วก็ลงมา ขณะรอส ไอเมอร์ อดีตนักบิน กล่าวว่า หากรายงานนี้เป็นจริง ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็นับว่าโชคดี ที่มนุษย์เจ็ทแพ็กไม่ได้ถูกเครื่องยนต์เครื่องบินดูดเข้าไป 
ชาวโซเชียลบางคนคิดว่า อาจเป็นการแสดงโลดโผนของใครบางคนเพื่อโพสต์โซเชียล