สตรีฟลอริดาซึ่งเป็นบุคลากรการแพทย์ พร้อมเพื่อน 15 คน ติดไวรัสโคโรน่าหลังออกไปเที่ยวผับ ฉลองยกเลิกล็อกดาวน์ ยอมรับประมาท
เอริคา คริสป์ สตรีอเมริกันในรัฐฟลอริดา ยอมรับแบบไม่หลบเลี่ยงว่า เป็นความผิดพลาด และเสียใจที่ไปเที่ยวผับ หลังจากทำทุกอย่างถูกต้องมาตลอด เธอติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและป่วยนาน 8 วัน ส่วนเพื่อนอีก 15 คนก็ติดไวรัสเช่นกันนอกจากนี้ ยังมีลูกค้าอีก 20 คนที่เธอไม่รู้จักแต่เข้าไปเที่ยวในผับเดียวกัน ส่งข้อความไปบอกเธอว่า พวกเขาติดไวรัส
คริสป์ ซึ่งเป็นบุคลากรการแพทย์วัย 40 ปี บอกกับ News4Jax สื่อท้องถิ่นว่า เธอกับเพื่อนรักษาระยะห่างทางสังคม และไม่ออกไปข้างนอกเป็นเวลาหลายเดือน กระทั่งเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ตัดสินใจออกมาพบปะสังสรรค์กัน ที่ผับ ลินช์ส ไอริช ในแจ็คสันวิลล์ บีช หลังจากที่บาร์และร้านอาหารในรัฐฟลอริดาเริ่มเปิดบริการอีกครั้ง
สถานบันเทิงที่คริสป์กับเพื่อนนัดรวมตัวสังสรรค์ Lynch’s Irish Pub ปิดบริการโดยสมัครใจเมื่อคืนวันศุกร์ เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ หลังทราบว่ามีลูกค้ารายหนึ่งติดไวรัส ผลตรวจพนักงานทั้งหมดกับคนงานในร้านอีก 7 คน ออกมาเป็นบวกเช่นกัน คีท โดเฮอร์ตี ผู้จัดการใหญ่ของร้าน กล่าวว่า ไวรัสแพร่ลามเหมือนไฟป่า บาร์อีกหลายแห่งในพื้นที่ก็ปิดบริการเช่นกันเมื่อคืนวันอาทิตย์หลังลูกติดโควิด-19
คริสป์ วัย 40 ปี กล่าวว่า อาจเป็นคนที่ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ที่แพร่ไวรัสแบบไม่รู้ตัว เธอยอมรับว่าควรระมัดระวังตัวมากกว่านี้ พวกเธอประมาท ออกไปในสถานที่สาธารณะทั้งที่ไม่ควรทำ และอยากให้เป็นบทเรียนสำหรับทุกคน “เราควรสวมหน้ากาก ควรรักษาระยะห่างทางสังคม เร็วเกินไปที่จะเปิดทุกอย่างในตอนนี้”
ฟลอริดาเป็นรัฐแรกๆในสหรัฐ ที่อนุญาตให้เปิดธุรกิจหลังปิดยาว 3 เดือน แต่ผ่านไปสัปดาห์เดียว บาร์อย่างน้อย 6 แห่งทางเหนือและกลางของฟลอริดา ต้องปิดอีกรอบ ขณะทางการสาธารณสุขฟลอริดายืนยันว่าเมื่อวานว่า มีผู้ติดเชื้อกว่า 2,000 รายสองวันติด เป็นสถิติใหม่นับจากไวรัสเริ่มระบาดในเดือนมีนาคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง