ข่าว

"ทวีปอเมริกา" จ่อขึ้นแท่นศูนย์กลางโควิด-19 ระบาด ต่อจากยุโรป

"ทวีปอเมริกา" จ่อขึ้นแท่นศูนย์กลางโควิด-19 ระบาด ต่อจากยุโรป

24 เม.ย. 2563

องค์การอนามัยโลกเตือนศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำลังเคลื่อนตัวจากทวีปยุโรปไปสู่ทวีปอเมริกา

 

              เม็กซิโก ซิตี, 22 เมษายน 2563 (ซินหัว) - เมื่อวันพุธ (22 เมษายน 2563) คริสเตียน มอเรลส์ เฟอริมานน์ (Cristian Morales Fuhrimann) ผู้แทนองค์การอนามัยแห่งภูมิภาคอเมริกา และองค์การอนามัยโลก (PAHO/WHO) ในเม็กซิโก ประกาศเตือนว่าศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) “กำลังเคลื่อนตัวจากทวีปยุโรปไปสู่ทวีปอเมริกา”

อ่านข่าว - สหรัฐฯ พบ "แมว" ป่วย "โควิด-19" คาดติดจากคนเลี้ยง - คนป่วยนอกบ้าน

 

 

 

              มอเรลส์ เผยว่า ทวีปอเมริกามี “เวลาเพิ่มอีกเล็กน้อยในการเตรียมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะมาถึง” โดยทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมกันอยู่ที่ 925,291 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว 44,000 ราย

              “สิ่งที่เราหนีไม่พ้นคือเรากำลังจะเผชิญกับช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของการแพร่ระบาดในภูมิภาคนี้และในเม็กซิโก” มอเรลส์ กล่าว

              เขา เสริมว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมระบบ (CSSE) ของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) รายงานว่า เม็กซิโก มียอดผู้ป่วย 10,544 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 970 ราย เมื่อนับถึงวันพุธ (22 เมษายน 2563) โดยประชาชนจะต้องร่วมมือกันเว้นระยะห่างทางสังคมและปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขอนามัย เพื่อช่วยลดปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล

 

 

 

              ส่วนในทวีปอเมริกาใต้ ประเทศชิลีรายงานการตรวจพบผู้ป่วย 11,296 ราย และพบผู้ป่วยเสียชีวิต 160 ราย หลังจากตรวจพบผู้ป่วยเพิ่ม 464 ราย ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 13 ราย โดยทางการชิลีได้ประกาศในเบื้องต้นว่าจะเปิดเศรษฐกิจและโรงเรียนในเดือนพฤษภาคม

              ขณะที่ยอดผู้ป่วยและผู้ป่วยเสียชีวิตในเปรู รวมอยู่ที่ 19,250 และ 530 ราย ตามลำดับ โดยมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 1,413 ราย

              “ไวรัสตัวนี้แพร่กระจายได้ง่ายมากและสามารถติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน ดังนั้นจำเป็นต้องระมัดระวังให้ดีสำหรับกิจกรรมใดๆ ที่จะกลับมาสู่ภาวะปกติ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการติดต่อสัมผัสระหว่างกันเกิดขึ้น” วิกเตอร์ ซาโมรา (Victor Zamora) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปรู กล่าวพร้อมเสริมว่า รัฐบาลระมัดระวังอย่างมากเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการปิดเมือง

 

 

 

              ทั้งนี้ เปรูมีกำหนดปิดเมืองจนถึงวันที่ 26 เมษายน 2563 แต่วิทยาลัยการแพทย์แห่งเปรู (Medical College of Peru) แนะนำให้ขยายเวลาปิดเมืองออกไปอีก 2 สัปดาห์

              ขณะที่บราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคลาตินอเมริกา รายงานการตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจาก 43,079 ราย มาอยู่ที่ 45,757 ราย ส่วนยอดผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 2,741 ราย เป็น 2,906 ราย โดยมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 6.4

              สื่อท้องถิ่นบราซิลรายงานว่า ริโอ เดอ จาเนโร เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลให้โรงพยาบาลขาดแคลนเตียงผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยหนัก

              ด้าน มาเรีย พอลลา โรโม (Maria Paula Romo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในเอกวาดอร์ เผยในการแถลงข่าวประจำวันว่าเอกวาดอร์ตรวจพบประชาชนที่มีผลทดสอบโรคโควิด-19 เป็นบวก 10,850 ราย และผู้เสียชีวิต 537 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตอีก 952 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19

 

 

 

--------------------

ที่มา : xinhuathai.com