ข่าว

ข้อมูลใหม่ไวรัสโคโรน่า อาจฟักตัว 24 วัน-คาดพีคติดเชื้อ 5 แสน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผลศึกษาใหม่ชี้ว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่รู้ เกี่ยวกับไวรัสชื่อย่อ  2019-nCoV  



กว่าหนึ่งเดือนนับตั้งแต่มีการยืนยันโรคอุบัติใหม่จากไวรัสโคโรน่าที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของจีน และแพร่ลามในไม่ต่ำกว่า 25 ประเทศ มีผู้เสียชีวิตกว่า 900 คน ติดเชื้อกว่า 4 หมื่น ผลศึกษาที่ออกมาเป็นระยะ สรุปว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่รู้ เกี่ยวกับไวรัสชื่อย่อ  2019-nCoV “คมชัดลึกออนไลน์” รวบรวมข้อมูลใหม่น่าสนใจที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้    

 


ผลเป็นลบ 3 ครั้งก่อนยืนยันติดเชื้อ 


ไชนา เดลีย์ รายงานเมื่อวาน (10 ก.พ.) กรณีผู้ป่วยรายหนึ่งในกรุงปักกิ่งที่ผลตรวจหาสารพันธุกรรมไวรัสในตัวอย่างสวอบคอ ผลออกมาเป็นลบ 3 ครั้ง  ก่อนจะยืนยันติดเชื้อได้ผ่านการเก็บตัวอย่างจากท่อหายใจส่วนล่าง กรณีนี้เพิ่มความวิตกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส อาจหลุดรอดคัดกรองและแพร่เชื้อต่อไป 


กัวะ ซานเฉิง หัวหน้าแผนกดูแลผู้ป่วยวิกฤติและทางเดินหายใจ โรงพยาบาลประชาชน มหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อความแม่นยำในการตรวจนิวคลิโอไทด์ หรือ NAT  ( nucleic acid testing ) เช่น ความรุนแรงของอาการ พัฒนาการอาการป่วย วิธีการเก็บตัวอย่างและสภาพแวดล้อมในห้องแลบ การตรวจนิวคลิโอไทด์หาสารพันธุกรรมไวรัสชนิดอื่นก็ไม่ได้ให้ผลแม่นยำเต็มร้อยเช่นกัน แต่การตรวจด้วยวิธีการนี้ยังคงเป็นวิธีการยืนยันเชื้อที่ยังไม่มีอะไรมาแทน 

 

ด้าน หวัง เฉิน ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินหายใจ และประธานสมาคมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกซีซีทีวี สัปดาห์ก่อนว่า แม้ขีดความสามารถในการตรวจ ปรับปรุงดีขึ้นเรื่อยๆ แต่อาจมีเคสติดเชื้อจำนวนมาก ที่แสดงผลตรวจเป็นลบ

 

มีบางเคส เชื้อฟักตัว 24 วัน  


ผลศึกษาโดยทีมนักวิจัยกว่า 30 คนนำโดยนายแพทย์ จง หนานซาน นักระบาดวิทยาผู้ค้นพบไวรัสโคโรน่าสาเหตุคโรคซาร์ส เมื่อ 17 ปีก่อน อ้างอิงข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 1,099 คน ในจีน พบว่าระยะฟักตัวของโรคในผู้ติดเชื้อบางกรณี อาจใช้เวลานานถึง 24 วัน นานกว่าที่คิดถึง 10 วัน ขณะที่การกักโรคในปัจจุบัน อยู่ที่ 14 วัน อิงจากระยะเวลาฟักตัวของไวรัสเมอร์ส     

( ผลศึกษานี้ เผยแพร่บนเวบไซต์คลังข้อมูลการแพทย์ออนไลน์ ที่ยังไม่มีการตีพิมพ์ หรือ peer review การพิจารณาตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ หัวข้อ  ‘Clinical characteristics of 2019 novel coronavirus infection in China’ )  
 

 

พบหมอครั้งแรก มีไข้ไม่ถึงครึ่ง 


จากผลศึกษาเดียวกันนี้ พบว่า ผู้ติดเชื้อที่รับการตรวจตอนแรก มีไข้เพียง 43 %  แต่ต่อมา ถึงมีไข้ 87.9%   


การพบผู้ติดเชื้อ 2019-nCOV ไม่มีไข้ พบบ่อยกว่าโรคซาร์ส และผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์ส หมายความว่า ผู้ป่วยในส่วนนี้อาจหลุดนิยามเฝ้าระวังที่มุ่งใช้เกณฑ์ตรวจไข้   

 

น้อยมากสัมผัสสัตว์ป่า 


ผู้ป่วยกลุ่มตัวอย่างเดียวกันในผลศึกษานี้จากโรงพยาบาล 552 แห่งใน 31 มณฑล ช่วงวันที่ 1-29 ม.ค. มีเพียง 1.18 % เท่านั้น ที่สัมผัสแตะต้องโดยตรงกับสัตว์ป่า ที่คาดการณ์กันว่าอาจเป็นต้นตอของโรค แต่ผู้ติดเชื้อเกือบ 1 ใน 3 เคยไปอู่ฮั่น และ 71.8% สัมผัสติดต่อกับบางคนจากอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาด ตอกย้ำการแพร่เชื้อจากคนสู่คนเป็นหลัก ผลศึกษาสอดคล้องกับรายงานพบการติดเชื้อจากการรวมญาติและการแพร่จากคนไม่มีอาการ 

 


จอมแพร่ไวรัส 


ผลศึกษาไม่ตัดความเป็นได้ว่าอาจมี จอมแพร่ไวรัส หรือ "super-spreaders” คนกลุ่มเล็กๆที่แพร่เชื้อได้มากกว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ 


เมื่อครั้งซาร์สระบาดในปี 2546 หมอคนหนึ่งที่รักษาผู้ป่วยซาร์สในกวางตุ้ง แพร่เชื้อให้กับคนอื่น 16 คน เมื่อเดินทางไปร่วมงานแต่งงานญาติในฮ่องกง เมื่อแขกเหล่านั้นเดินทางไปยังประเทศอื่น เชื้อซาร์สก็แพร่ไปทั่วโลก 


การแพร่เชื้อผ่านช่องทางนี้อาจมีส่วนให้เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ระบาดรวดเร็วเช่นกัน 

 


คาดว่าติดเชื้อ 5 แสนในอู๋ฮั่นเมื่อระบาดถึงขีดสุด 


รายงานอีกฉบับที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ นักวิจัยคาดการณ์ว่า การระบาดของไวรัสโคโรน่า น่าจะแตะขีดสุดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และเมื่อถึงตอนนั้น ยอดติดเชื้อสะสมในเมืองอู่ฮั่น น่าจะสูงอย่างน้อย 5 แสนคน 


นักวิทยาศาสตร์คณะเวชศาสตร์เขตร้อนและสุขลักษณะ ลอนดอน สกูล ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยในเมืองคัมเดน ประเทศอังกฤษ ใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์วิเคราะห์การแพร่ระบาดในอู่ฮั่น นำมาสู่การประเมินว่าไวรัสโคโรน่า อาจพุ่งถึงขีดสุดกลางถึงปลายเดือนก.พ. 


ยังมีความไม่แน่นอนทั้งเรื่องของเวลาและการระบาดจะพีคแบบไหน แต่เมื่อประเมินจากสมมติฐานว่าเชื้อไวรัสใหม่ มีระยะฟักตัวมาตรฐาน 5.2 วัน และประชากรอู่ฮั่น อยู่ที่ราว 10 ล้านคน ไวรัสน่าจะระบาดในประชากรราว 5% ของประชากรอู่ฮั่น หรือ 1 ในทุก 20 คนในเมือง จึงตีเป็นตัวเลขที่ราว 5 แสนคน  
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ