นครนิวยอร์กตกลงจ่ายค่ายุติคดีความ 6.25 แสนดอลลาร์สหรัฐให้คุณแม่หลังคลิปว่อนโซเชียล
( คลิป Facebook / Monae Sinclair )
แจซมิน เฮดลีย์ คุณแม่ชาวอเมริกันวัย 24 ปี จะได้รับค่าเสียหายจากทางการนครนิวยอร์ก จำนวน 6.25 แสนดอลลาร์ (ประมาณ 18.9 ล้านบาท ) เป็นค่ายุติคดีความหลังจากที่เธอยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้อับอายและกระทบกระเทือนจิตใจ จากคลิปว่อนโซเชียลเมื่อธันวาคม 2551
เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นที่สำนักงานสวัสดิการในบรูคลิน เฮดลีย์ไปที่นั่นกับลูกชายวัย 18 เดือน เริ่มต้นจากเฮดลีย์นั่งบนพื้น เพราะไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปบอกให้เธอลุกขึ้นยืน แต่เธอปฏิเสธ รปภ.จึงเรียกตำรวจ
คนที่เห็นเหตุการณ์บันทึกนาทีโกลาหลและโพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่พยายามดึงลูกชายวัยเตาะแตะจากอ้อมแขนแม่ ทั้งที่เธอประท้วงว่าพวกเขากำลังทำร้ายลูกของเธอ มีจังหวะหนึ่ง ตำรวจถึงกับชักปืนไฟฟ้าออกมา ขณะคนที่ดูเหตุการณ์อยู่ตะโกน ว่าเธออุ้มลูกอยู่นะ
หลังคลิปนี้แพร่ออกไป ตำรวจถูกประณามทำเกินกว่าเหตุ เฮดลีย์ถูกแจ้งข้อหาขัดขืนการจับกุม กระทำการอันสุ่มเสี่ยงทำให้เด็กบาดเจ็บ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงาน ทำให้เธอต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำถึง 4 วัน ก่อนที่อัยการเขตบรูคลิน เอริค กอนซาเลซ ถอนข้อหา โดยเขาแถลงในตอนนั้นว่า ไม่ว่าใครที่ดูการจับกุม แจซมิน เฮดีย์ ก็ต้องตกใจกับความรุนแรง เขาก็เช่นกัน ไม่จำเป็นที่เจ้าหน้าที่จะต้องใช้วิธีการแบบนั้น
เมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ เฮดลีย์ได้เข้าให้การต่อสภาเทศบาลนิวยอร์ก ซึ่งสภาฯได้กล่าวขอโทษ พร้อมผ่านเทศบัญญติมุ่งแก้ไขปรับปรุงการปฏิบัติต่อประชาชนที่สำนักงานสวัสดิการ และทำให้ระบบมีความโปร่งใสมากขึ้น
ถึงอย่างนั้น เฮดลีย์ก็ตัดสินใจยื่นฟ้องทางการนิวยอร์ก อ้างว่าลูกชายของเธอได้รับความกระทบกระเทือนทั้งร่างกายและจิตใจจากเหตุการณ์วันนั้น ทั้งยังทำให้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเธอ ต้องผูกติดกับประสบการณ์รุนแรงและความบอบช้ำทางใจไปตลอด
ในที่สุด สำนักงานกฎหมายของนิวยอร์ก ตัดสินใจเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าจะจ่ายค่าเสียหาย 6.25 แสนดอลลาร์ ให้แก่เธอ ทนายของเฮดลีย์ กล่าวว่า ลูกความของเธอยืนยันว่า เหตุการณ์แบบในคลิป ไม่ใช่เฉพาะเธอ แต่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีของผู้หญิงทุกคนทุกผิวสีที่หาเลี้ยงครอบครัวด้วยความรักและการทำงานหนักในโลกที่ยากลำบาก
มีรายงานว่า รปภ. 2 คนที่รับมือกับเฮดลีย์ ถูกสั่งพักงาน 30 วันโดยไม่ได้รับเงินเดือนหลังเกิดเหตุเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง