ข่าว

มืด-เย็นจัด-ไร้ทางออก 39 ศพในรถบรรทุกคอนเทนเนอร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจอังกฤษเร่งสอบเบื้องหลังการลอบขนผู้อพยพที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่

 

ความคืบหน้าหลังการพบศพที่เชื่อว่าเป็นผู้อพยพ 39 รายอยู่ในรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ ที่นิคมอุตสาหกรรมวอเตอร์เกลด เขตเกรยส์ เมืองเอสเซ็กซ์ ริมแม่น้ำเทมส์ ห่างจากกลางกรุงลอนดอน ราว 32 กิโลเมตร เมื่อเช้ามืดของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น 

 

อ่านข่าวทีเกี่ยวข้อง  ตำรวจอังกฤษผงะพบ  39 ศพหลังรถบรรทุกคอนเทนเนอร์  ) 

 

 

 


เดิม เจ้าหน้าที่เชื่อว่า รถบรรทุกมรณะคันนี้มาจากบัลแกเรีย  เข้าอังกฤษผ่านทางด่านโฮลีเฮด แคว้นเวลส์ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ต.ค. แต่ล่าสุด ตำรวจเปิดเผยว่า คอนเทนเนอร์เดินทางมาแยกกัน ลงเรือจากท่าเรือ Zeebrugge ในเบลเยี่ยม ถึงท่า Purfleet ซึ่งอยู่ติดกับเขตเกรยส์ เวลาประมาณ 24.30 น. ก่อนมีรถเทรลเลอร์ไปรับในราว 35 นาที 

 


ภารกิจใหญ่ของโศกนาฏกรรมตายหมู่ผู้พยายามลอบเข้าเมือง  คือการพิสูจนเอกลักษณ์บุคคลของเหยื่อทั้ง 39 ราย ซึ่งเป็นวัยผู้ใหญ่ 38 ราย กับวัยรุ่น 1 ราย ที่ต้องจบชีวิตลงอย่างช้าๆในคอนเทนเนอร์

 


ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อุณหภูมิภายในคอนเทนเนอร์อาจต่ำสุดแตะ -25 องศาเซลเซียส กว่าจะเปิดประตูคอนเทนเนอร์ที่นิคมอุตสาหกรรมวอเตอร์เกลด เวลา 01.40 น. วันพุธนั้น พวกเขาต้องอยู่ภายในนั้นไม่ต่ำกว่า 15 ชม.มาแล้ว แต่ในความเป็นจริง น่าจะต้องอยู่ในโลงศพโลหะนานกว่านั้น 

 


แม้ตำรวจและหน่วยแพทย์รุดถึงที่เกิดเหตุหลังรับแจ้งในเวลาไม่กี่นาที แต่ก็พบว่าพวกเขากลายเป็นศพกองพะเนินไปแล้ว 

 

เหยื่อ 39 ราย พยายามเล็ดรอดเข้าอังกฤษผ่านท่าเรือ ซีบรุกเกอ อันพลุกพล่านของเบลเยี่ยม โดยคอนเทนเนอร์ขนคน ลงเรือสินค้าในวันอังคาร ( 22 ต.ค.) เรือออกประมาณ 14.00 น. ใช้เวลาราว 10 ชม. จึงเทียบท่าในเมืองเอสเซ็กซ์ เวลา 24.30 น. วันพุธ ( 23 ต.ค.) 

 

เวลานี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหยื่อ 39 ราย เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ หรือแข็งตาย 


ริชาร์ด เบอร์เน็ต ผู้อำนวยการสมาคมการขนส่ง Road Haulage กล่าวว่า ระบบคุมความเย็นอยู่นอกรถบรรทุก แต่หากเปิดใช้ตู้เย็น คนที่อยู่ภายในนั้น อาจเสียชีวิตในเวลาไม่นาน  


“ข้างในจะมืด สถานที่เดียวที่จะใช้ห้องน้ำได้ก็คือภายในคอนเทนเนอร์ ลองนึกภาพว่าถ้าพวกเขาต้องอยู่ในนั้นหลายวัน จะน่าอนาถมากทีเดียว” 

 

 

มืด-เย็นจัด-ไร้ทางออก 39 ศพในรถบรรทุกคอนเทนเนอร์

 


ด้านการดำเนินคดีกับคนขับรถบรรทุก ทราบชื่อแล้ว คือ นายมอริส หรือ โม รอบินสัน วัย 25 ปี  รับงานขนส่งสินค้าอิสระ อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ลอเรลเวล ในไอร์แลนด์เหนือ เขาขับรถบรรทุกจากท่าเรือ พร้อมกับ 39 ชีวิตในคอนเทนเนอร์ด้านหลัง ราว 35 นาที ไปที่นิคมอุตสาหกรรมวอเตอร์เกลด เวลาประมาณ 1.10 น.  

 

จากนั้นครึ่งชม. หน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้รับแจ้งเหตุ แต่ไม่มีการเปิดเผยว่า คนโทรแจ้งคือนายรอบินสันหรือไม่ แต่หลังตำรวจทราบเรื่องและรุดไปที่เกิดเหตุ ก็จับกุมนายรอบินสัน เป็นผู้ต้องสงสัยฆาตกรรม  ตำรวจยังคงสอบสวนว่าเขารู้หรือไม่ว่าอะไรอยู่ในคอนเทนเนอร์ 

 


รอบินสัน ลงรูปของตนเองกับภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ลูกแฝดบนเฟซบุ๊ก ก่อนออกจากบ้านราคา 3 แสนปอนด์ในเช้าวันเสาร์ ( 19 ต.ค.) เขาขับรถคันนี้ไปที่กรุงดับลินก่อนลงเรือข้ามฟากมุ่งหน้าโฮลีเฮด แต่ยังไม่ทราบว่าเขาทำอะไรในวันอาทิตย์ จันทร์ และอังคาร ก่อนไปรับคอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ Purfleet เช้ามืดวานนี้ 

 


ทางการบัลแกเรียระบุว่า รถเทรลเลอร์ที่รอบินสันขับ จดทะเบียนในบัลแกเรียจริง แต่ออกจากประเทศตั้งแต่สองปีก่อน และไม่เคยกลับไปที่นั่นอีก 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ