พรากชีวิตน้องหมาเพราะเจ้าของระบุในพินัยกรรมให้ฝังไปพร้อมกัน 

ความประสงค์สุดท้ายของเจ้าของสุนัขคนหนึ่งในเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนียก่อนตาย กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่เพิ่งเป็นที่เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้  

เอมมา สุนัขลูกผสมพันธุ์ชิสุ ถูกพาไปอยู่ในความดูแลของศูนย์สงเคราะห์สัตว์เขตเชสเตอร์ฟีลด์ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม หลังจากเจ้าของเสียชีวิต 

สองสัปดาห์ต่อมา ผู้จัดการพินัยกรรมของเจ้าของเอมมา ไปรับมันจากศูนย์โดยแจ้งว่าต้องกระทำการุณยฆาต  ตามที่เจ้าของระบุไว้ในพินัยกรรมว่าให้ฝังเอมมาไปพร้อมกับเธอ  

แคร์รี โจนส์ ผู้จัดการของสำนักงานฯ บอกเอ็นบีซีว่า ทางศูนย์ตกตะลึง และพยายามโน้มน้าวผู้จัดการพินัยกรรมว่าอย่าฆ่าเอมมา และการหาหาบ้านใหม่ให้กับมัน ไม่ใช่เรื่องยาก 

แต่ผู้จัดการพินัยกรรมเลือกทำตามคำสั่งเสียของเจ้าของผู้ล่วงลับ มีรายงานว่าเอมมาถูกพาไปให้สัตวแพทย์คนหนึ่ง ช่วยทำให้มันสิ้นลมอย่างสงบ ก่อนนำซากไปเผาบรรจุกระดูกใส่โกศฝังไปกับเจ้าของ 

ตามกฎหมายรัฐเวอร์จิเนีย สุนัขเลี้ยงถือเป็นทรัพย์สินส่วนตัว จำหน่ายจ่ายแจกได้ การุณยฆาตตามพินัยกรรมในกรณีนี้จึงไม่ผิดกฎหมาย แต่สัตวแพทย์จะดำเนินการให้หรือไม่แล้วแต่ดุลพินิจทางศีลธรรม 

ชาวสังคมออนไลน์วิจารณ์กันหนัก ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งประณามว่า เป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว และน่าละอาย บางคนประณามทั้งเจ้าของที่เสียชีวิตแล้วโดยทิ้งพินัยกรรมกระอักกระอ่วน ผู้จัดการพินัยกรรม และสัตวแพทย์ที่ช่วยจัดการให้ 

สตรีอีกคนเขียนว่า เลวร้ายที่สุด สุนัขยังแข็งแรงดี ควรได้มีชีวิตอยู่ต่อไปและอย่างมีความสุขได้