อดีตมือล่า"เอลชาโป"ชี้ควรจับ"ฌอน เพนน์"เข้าคุก

 

แจ็ค ไรลีย์ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐ (ดีอีเอ) และได้ขึ้นเป็นเบอร์สองของดีอีเอขณะเกษียณ ได้เขียนหนังสือ Drug Warrior: Inside the Hunt for El Chapo and the Rise of America’s Opioid Crisis  บอกเล่าความพยายามร่วม 30 ปีในการแกะรอย ฆัวกิน กุซมาน หรือ เอล ชาโป หัวหน้าแก๊งยาเสพติดชื่อกระฉ่อนแห่งเม็กซิโก ที่ขึ้นชื่อเรื่องหนีการจับกุมและหลุดเงื้อมมือทางการทุกครั้งที่ทางการเชื่อว่าใกล้จะได้ตัว 

 

 

 

ไรลีย์ วัย 60 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2558 นาวิกโยธินเม็กซิกันกำลังเข้าใกล้แหล่งกบดานบนเนินเขาของเอลชาโป ในหมู่บ้านลา ทูนา แต่ขณะรอคำสั่งบุกที่กำลังจะออกมาไม่กี่นาที ปรากฎว่ามีคนนอกสองคนเดินทางไปที่นั่นโดยที่พวกเขาไม่รู้มาก่อน 

 

สองคนนั้นก็คือ ฌอน เพนน์ ดาราออสการ์ และ เคท เดล กาสตีโญ ดาราทีวีเม็กซิโก ที่เดินทางไปสัมภาษณ์ เอล ชาโป  โดยนักแสดงหญิงเม็กซิกันสนใจสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับราชายาเสพติด ส่วนเพนน์ ไปสัมภาษณ์เพื่อเขียนบทความลงในนิตยสาร "โรลลิง สโตน" 

ทีมปฏิบัติการเกรงว่าเพนน์กับเดล กาสตีโญ จะถูกลูกหลงหากมีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จึงชะลอแผนบุกจับกุม 

หลังจากนักแสดงทั้งสองออกจากบ้านหลังนั้น ทหารเม็กซิกันยกเลิกแผนบุกทางเท้า แต่ใช้เฮลิคอปเตอร์ แต่เอลชาโปก็หลบหนีออกไปได้ ไรลีย์ กล่าวว่า ฌอน เพนน์ ทำให้หลายคนตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะการกระทำโลดโผน สมควรถูกจับเข้าคุก 

 

 

 

ไรลีย์พยายามโน้มน้าวผู้บังคับบัญชา ที่กระทรวงยุติธรรม ดำเนินคดีกับเพนน์ ฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรม แต่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วย เนื่องจากเพนน์เข้าไปสัมภาษณ์ในฐานะนักข่าว การเข้าไปสถานที่นั้น จึงได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย 

 

อดีตมือล่าเอลชาโป กล่าวว่า เขาผิดหวังมาก ได้แต่ปฏิญาณว่าจะพยายามให้มากกว่าเดิมเพื่อให้ได้ตัวอาชญากรรายนี้ ต่อให้ฌอน เพนน์ ปรากฎตัวมาอีก ก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งพวกเราได้ 

 

 

เพนน์ แสดงความเสียใจในเวลาต่อมา โดยระบุว่า การเข้าไปสัมภาษณ์เอลชาโป มีเป้าหมายเพื่อเปิดการถกเถียงสงครามยาเสพติด นอกจากนี้ ยังกล่าวหารัฐบาลเม็กซิกันว่า ทำให้ชีวิตเขาตกอยู่ในอันตราย ด้วยการอ้างว่าการไปพบกับเอลชาโป นำไปสู่การจับกุมตัวเขาในที่สุด 

เอลชาโป ถูกจับกุมในปีถัดมา ก่อนถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สหรัฐ ขณะนี้ คดีอยู่ในชั้นหารือของคณะลูกขุน