โรงแรมในญี่ปุ่นเลิกจ้างหุ่นยนต์บางส่วนก่อภาระมากกว่าลดงาน 

 

โรงแรม “เฮนน นะ โฮเทล” ( Henn na Hotel ) ที่เปิดทำการในเมืองนางาซะกิ เมื่อปี 2558และได้รับการรับรองจากกินเนสบุ๊กออฟเรคคอร์ด ว่าเป็นโรงแรมแห่งแรกในโลกที่ใช้หุ่นยนต์เป็นพนักงาน 

 

แต่หลังจากได้รับร้องเรียนไม่หวาดไม่ไหวจากทั้งพนักงานและลูกค้า  โรงแรมได้ตัดสินใจลอยแพหุ่นยนต์เกือบครึ่งหนึ่งจากที่มีทั้งหมด 243 ตัว เนื่องจากไม่สามารถตอบสนองงานแบบอัตโนมัติได้ กลับเพิ่มงานมากกว่าลด 

 

YouTube / Michał Mazur

 

หุ่นยนต์ที่โดนปลดระวางรายแรก ได้แก่  Churi พนักงานเสมือนจริงแต่หน้าตาเหมือนไข่สีชมพู ที่ติดตั้งอยู่ในแต่ละห้อง แต่ไม่สามารถทำงานได้เหมือนระบบสั่งการอัจฉริยะ  Siri และ Alexa ดั่งที่หวัง   เช่น ไม่สามารถตอบคำถามแขกได้เรื่องเวลาเปิดปิดของสถานที่ต่างๆในพื้นที่ 

นอกจากนี้หุ่นยนต์ที่อยู่ในข่ายปลดระวาง ยังได้แก่ 

 

 

เวโลซีแรปเตอร์ 2 ตัว  ที่ประจำอยู่เคาน์เตอร์เช็คอิน เพราะพนักงานต้องเข้ามาทำหน้าที่ถ่ายสำเนาหนังสือเดินทางให้กับแขกที่เข้าพักเอง 

หุ่นยนต์หิ้วกระเป๋า 2 ตัว ที่ไปได้แค่ 24 ห้องจากกว่า 100 ห้อง และทำงานไม่ได้เวลาฝนตกหรือหิมะตก นอกจากนี้ ยังมักติดขัดขณะเดินผ่านกันและกัน 

หุ่นยนต์บริการลูกค้า ที่อาจให้พักยาวอีกหนึ่งตัว เพราะตอบคำถามพื้นๆเกี่ยวกับตารางบินและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงไม่ได้ จนพนักงานที่เป็นคน ต้องไปทำแทน 

 

 

“ดีขึ้นแล้วตอนนี้ เราไม่ได้ถูกแขกเรียกตัวบ่อยๆเพื่อไปช่วยแก้ปัญหากับหุ่นยนต์” พนักงานคนหนึ่งที่ทำงานมานาน 3 ปีบอกวอลล์สตรีทเจอร์นัล 

 

โรงแรม Henn na  ที่มีอยู่ 8 แห่งทั่วประเทศ ทุกแห่งมีหุ่นยนต์เป็นพนักงาน บางส่วนเป็นไดโนเสาร์ บ้างหน้าตาคล้ายกับมนุษย์  โรงแรมเปิดตัวโดยใช้หุ่นยนต์ราว 80 ตัว และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในไม่ช้า แต่แขกบ่นว่าเสียบ่อยมาก 

 

 

แขกคนหนึ่งร้องเรียนว่า หุ่นยนต์ในห้องเอาแต่ปลุก เหตุเพราะเสียงกรนของเขาไปกระตุ้นให้ทำงาน  ขณะอีกคนที่เคยเข้าพักในปี 2560 กล่าวว่า หลังหัวเสียกับ Churi  เขาตัดสินใจจะต่อสายถึงฝ่ายต้อนรับ ก่อนมารู้ว่าในห้องไม่มีโทรศัพท์เลย เพราะโรงแรมหวังให้ตัวช่วยอย่าง Churi  จัดการให้ 

ฮิเดโอะ ซาวาดะ เจ้าของโรงแรม บอกวอลสตรีทเจอร์นัล  ยอมรับว่า Churi ทำโรงแรมเสื่อมเสียชื่อเสียง และว่าเมื่อใดนำหุ่นยนต์มาใช้งานจริง คุณจะตระหนักว่ามีหลายสถานที่ที่พวกเขาไม่จำเป็น หรือก่อความรำคาญ