นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ จี้รัฐบาลอินโดนีเซียรักษาสัญญา แบนการค้าเนื้อหมาแมวสุดทารุณ คลิปเผยทุบ-เผาทั้งเป็นโผล่
( คมชัดลึกออนไลน์ 12 ก.ย.) แนวร่วมอินโดนีเซียปลอดเนื้อสุนัข (ดีเอ็มเอฟไอ) ระบุเมื่อไม่นานมานี้ว่า การทารุณสุนัขและแมว ที่ตลาดเอ็กซ์ตรีม เมืองโตโมฮอน จังหวัดสุลาเวสีเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย ยังดำเนินต่อไป ทั้งที่รัฐบาลสัญญาสั่งห้ามในเดือนสิงหาคม
คลิปแสดงให้เห็นว่า สุนัขและแมวยังมีชีวิตอยู่ขณะถูกลากถูลู่ถูกังไปตามพื้น ก่อนถอดขนด้วยการพ่นไฟเผาผิวหนัง และชำแหละกลางตลาดที่มีผู้คนจอแจ ทั้งชาวบ้าน นักท่องเที่ยวและเด็ก นอกจากนี้ยังมีภาพคนงานใช้ท่อนไม้ขนาดใหญ่ทุบลงไปที่หัว
ตลาดโตโมฮอน เปิดขึ้นมาเพื่อเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่จะเห็นการซื้อขายเนื้อสัตว์แปลกเพื่อการบริโภค เช่น เนื้องู สุนัข ค้างคาว แมว และหนู แต่กลุ่มสิทธิสัตว์ระบุว่าการปฏิบัติต่อสุนัขและแมวที่นำมากิน โหดร้ายทารุณ อีกทั้งยังผิดกฎหมายสุขอนามัย ทำให่ผู้บริโภคเสี่ยงติดเชื้อพิษสุนัขบ้า โรคระบาดที่รัฐบาลจาการ์ตาประกาศจะขจัดให้หมดไปภายในปี 2563
ดีเอ็มเอฟไอ ซึ่งประกอบด้วยองค์กรช่วยเหลือสัตว์ทั้งในและต่างประเทศ เคยนำเสนอรายงานเชิงสอบสวนเจาะลึกตลาดโตโมฮอนครั้งแรกเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว จุดกระแสประท้วงทั่วโลก บุคคลผู้มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศกว่า 90 คน ร่วมกันลงชื่อในจดหมายถึงประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ให้สั่งห้ามค้าเนื้อสุนัขและแมว ส่วนในคำร้องของแนวร่วมอินโดนีเซียปลอดเนื้อสุนัข มีผู้ร่วมเข้าชื่อเกือบ 1 ล้านคน
รัฐบาลประกาศว่าจะสั่งห้าม แต่จากคลิปใหม่ล่าสุดของพันธมิตรกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสวัสดิภาพ เป็นสิ่งพิสูจน์ว่ายังไม่มีความคืบหน้า
โลลา เวบเบอร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิเปลี่ยนแปลงเพื่อสัตว์ หนึ่งในแนวร่วม กล่าวว่าสภาพตลาดแห่งนี้ คือความโหดร้ายทารุณที่สุดเท่าที่เคยประสบมาในรอบ 10 ปี และเป็นการกระทำต่อหน้าต่อตาเด็กเล็ก
ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า อินโดนีเซียบริโภคเนื้อสุนัขแต่ละปีจำนวนเท่าใด แต่กระทรวงเกษตรเคยอ้างผลวิจัยในปี 2558 ว่ามีสุนัข 7.3 แสนตัวที่ถูกส่งจากชวาตะวันตกเข้าไปในกรุงจาการ์ตาเพื่อการบริโภค
( คำเตือน : คลิปมีภาพที่อาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจ )
ข่าวที่เกี่ยวข้อง