ข่าว

อุโมงค์ลับทำร้ายภูเขาน้ำแข็งขั้วโลก

อุโมงค์ลับทำร้ายภูเขาน้ำแข็งขั้วโลก

21 มี.ค. 2558

เวิลด์วาไรตี้ : อุโมงค์ลับทำร้ายภูเขาน้ำแข็งขั้วโลก

 
            ความลับของธรรมชาติยังมีอีกมากมายที่มนุษย์ค้นไม่พบ เนื่องด้วยความรู้ เทคโนโลยีของเหล่ามนุษยชาติยังห่างชั้นกับธรรมชาติของโลกใบนี้ที่ก่อกำเนิดมานานนับหมื่นล้านปีมากนัก ดังนั้นสิ่งที่มนุษย์ยังไม่รู้จึงกลายเป็นเรื่องลับๆ ของธรรมชาติที่จุดประกายการค้นหากันต่อไป
 
            อย่างเช่นกรณีที่นักวิทยาศาสตร์ค้นหาและค้นพบว่าสาเหตุของการเกิดน้ำแข็งขั้วโลกละลายนั้น ไม่ได้มาจากปัจจัยของการเกิดสภาวะโลกร้อนเพียงประการเดียว แต่ยังมีปัจจัยทางธรรมชาติที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายได้อีกทาง
 
            นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบว่าภูเขาน้ำแข็งแข็งทอทเทนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแอนตาร์ติกาตะวันออก (ขั้วโลกใต้) ที่มีความกว้างถึง 30 กิโลเมตร ยาว 120 กิโลเมตร (ราวกรุงเทพถึงมวกเหล็ก) นั้นมีช่องทางลับที่ซ่อนอยู่ และเป็นสาเหตุที่ทำให้กระแสน้่ำอุ่นจากภายนอกไหลผ่านเข้าไปข้างในภูเขาน้ำแข็งมหึมาก้อนนี้ ก่อให้เกิดการละลายอย่างรวดเร็วเกินคาด
 
            ช่องทางลับที่ว่านั้นมีความกว้างถึง 5 กิโลเมตร และลอดผ่านภูเขาน้ำแข็งก้อนนี้ไปทั่ว แถมยังเจาะช่องทางเป็นอุโมงค์ให้กระแสน้ำอุ่นไหลผ่านได้อีกหลายทาง
 
            ผู้ที่ทำการศึกษาพฤติกรรมของภูเขาน้ำแข็ง อย่างนายเจสัน โรเบิร์ตส์ นักภูเขาน้ำแข็งวิทยา แห่งสำนักงานแอนตาร์กติกแห่งออสเตรเลีย อธิบายว่า ที่น่าแปลกใจคือ ภูเขาน้ำแข็งยักษ์แห่งนี้ละลายเร็วที่สุดในเขตแอนตาร์ติกาตะวันออก และเป็นระดับการละลายที่มากกว่าอัตราการละลายเฉลี่ยจากผลกระทบของภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งเมื่อศึกษาลึกลงไปก็พบสาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากอุโมงค์ใต้ก้อนน้ำแข็งนี่เอง
 
            นอกจากนั้นยังพบด้วยว่าตัวการที่ทำลายก้อนน้ำแข็งก้อนนี้ คือ น้ำทะเลที่อยู่โดยรอบทอทแทม กลาเซียร์นั้น อุ่นกว่าน้ำทะเลในบริเวณอื่นถึง 1.5 องศาเซลเซียส นั่นหมายความว่าส่วนต่างอุณหภูมิที่เกิดขึ้นนั้น สามารถละลายน้ำแข็งออกไปได้เป็นจำนวนมหาศาล
 
            ที่น่ากลัวก็คือ ถ้าก้อนน้ำแข็งทอทเทนละลายหมดเพียงก้อนเดียว จะทำให้ระดับน้ำทะเลบนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ ยกระดับสูงขึ้นถึง 3.5 เมตรเป็นอย่างน้อย แต่ข่าวดีก็คือ ทอทเทน กลาเซียร์ จะละลายจนหมดในอีกหลายศตวรรษ โดยเป็นการยืนยันจากยามิน กรีนเบาว์ม นักศึกษาดุษฎีบัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยเทกซัส ที่ทำการศึกษาในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามกรีนเบว์ม บอกว่าถ้ากระบวนการละลายนั้นเกิดขึ้นแล้ว ก็จะไม่สามารถหยุดยั้งได้
 
            พูดง่ายๆ ก็คือ เราไม่สามารถทำให้ก้อนน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลายแล้ว ก่อตัวเป็นก้อนน้ำแข็งได้อีกครั้ง และหากก้อนน้ำแข็งเริ่มละลายอย่างรวดเร็วในศตวรรษนี้ ลูกหลานของเราในอีกหลายศตวรรษหน้าก็จะได้รับความเดือดร้อนนั่นเอง