บันเทิง

จากหนังรอบ"ปฐมทัศน์"หน้าจอถึงหนังหน้าโรงรอบ"สื่อมวลชน"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทุกวันนี้การเปิดตัวภาพยนตร์ในรอบสื่อมวลชน ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ที่บริษัทหนังให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ การเปิดตัวหนังสมัยนี้จะนิยมเชิญสื่อมวลชนมาร่วมทำข่าว พูดคุยกับนักแสดง ผู้กำกับการแสดง ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการร่วมชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว

 ย้อนไปราวๆ 30 ปีที่ผ่านมา ยุคที่ภาพยนตร์ไทยโดยเฉพาะภาพยนตร์เพลงเฟื่องฟู เรื่องใดที่คนสร้างมั่นใจ ว่าจะสามารถทำเงินได้มหาศาล ก็มักจะใช้วิธีทางการตลาดโดยจัดฉายรอบปฐมทัศน์ ก่อนที่จะฉายจริงเป็นรอบๆ ซึ่งการจัดงานก็คล้ายกันกับสมัยนี้แตกต่างกันที่สมัยก่อนรอบ "ปฐมทัศน์" จะสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล แต่รอบ "สื่อมวลชน" สมัยปัจจุบันผู้สร้างต้องจ่ายเงินก่อน ที่จะไปลุ้นรายได้ภายหลัง

 การฉายหนังรอบ "ปฐมทัศน์" หรือการฉายรอบแรกในสมัยก่อน จะมีการนำวงดนตรีวงดัง หรือเชิญนักร้องระดับแม่เหล็กมาโชว์ พร้อมกับนำพระเอก-นางเอกของเรื่อง และดาราดาวรุ่งที่เจ้าของหนังจะนำมาปั้นขึ้นโชว์ตัวบนเวที พบปะแฟนเพลงหนังแบบใกล้ชิดซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ดึงดูดให้คนดูแห่มาชมหนังรอบ "ปฐมทัศน์"

 ส่วนมากการจัดฉายหนังรอบ "ปฐมทัศน์" ดังกล่าวจะจัดขึ้นเพียงรอบเดียวในเวลาประมาณหนึ่งทุ่มตรง วงดนตรีพร้อมนักร้องดาราจะแสดงบนเวทีซึ่งมีฉากหลังเป็นจอภาพยนตร์ ไปจนถึงสี่ทุ่ม หลังจากนั้นจึงฉายหนังต่อไปอีกจนจบ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ประมาณ 2 ชั่วโมง และเลิกประมาณเที่ยงคืน

 โปรแกรมภาพยนตร์ที่มีการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง และอยู่ในกระแสความนิยม หรือมีดาราดังๆ นักร้องดังร่วมแสดงแฟนเพลงแฟนหนังก็จะพากันมาจับจองซื้อตั๋วกันตั้งแต่ช่วงเย็นๆ โดยรอบปฐมทัศน์นี้จะมีการจำหน่ายบัตรประมาณ 100 บาท ส่วนใหญ่คนดูจะล้นทะลัก จึงต้องมีการเสริมเก้าอี้ โดยรอบหนึ่งสามารถรับคนดูได้ถึง 1,000 ที่นั่ง

 นอกจากได้ประชาสัมพันธ์หนังแล้ว ผู้จัดยังมีเงินกำไรเหลือจากบัตรค่าชมเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว มีเงินเข้ากระเป๋าเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ซึ่งค่าตัวของดารา-นักร้องสมัยก่อนรวมกันไม่กี่หมื่นบาท 

 ภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่เป็นที่ฮือฮาประทับใจแฟนหนัง คือยุคปี 2520 จนเป็นประวัติศาสตร์อย่างหนึ่งในวงการหนังบ้านเราคือ รอบปฐมทัศน์หนังเรื่อง "มนต์รักแม่นํ้ามูล" (ปัจจุบันบริษัท "คำพอดี" นำมาสร้างเป็นละครอีกครั้ง) เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2520 ของบริษัท "ดวงกมลมหรสพ" เขียนบทและกำกับโดย ครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุขา ที่โรงหนัง "เพชรรามา" ประตูนํ้า โดยมีชมรมโฆษกอีสานเป็นผู้จัด มีการประชาสัมพันธ์ผ่านวิทยุ และรายการทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม และทางหนังสือพิมพ์อย่างกว้างขวาง

  "งานนั้นมีแฟนหนังแฟนเพลงหลั่งไหลมาจองบัตรตั้งแต่ห้าโมงเย็น จนทำให้การจราจรบนถนนเพชรบุรีช่วงประตูนํ้าติดขัดเลย สมัยนี้เวลาเปิดตัวหนังก็จะมีของที่ระลึกให้แก่สื่อมวลชน สมัยก่อนเขาก็มีเหมือนกัน ที่บริเวณหน้าโรงหนังเพชรรามา มีการแจกข้าวจี่อาหารพื้นบ้านอีสานให้แก่แฟนเพลงที่มาจองบัตร คิดดูคนเยอะมาก จนห้องขายบัตรที่ด้านหน้าเป็นกระจกแตก ได้รับความเสียหายเนื่องจากแฟนหนังเบียดเสียดแย่งกันซื้อตั๋ว เป็นครั้งแรกของโรงหนังดังกล่าวที่มีผู้เข้าชมจนเต็มทุกที่นั่ง ไม่เว้นกระทั่งทางเดิน" สุรินทร์ ภาคศิริ อดีตผู้ก่อตั้งชมรมโฆษกอีสาน (กรุงเทพ) กล่าว

  นอกจากนี้ สุรินทร์ยังได้เล่าความหลังเมื่อครั้งจัดงานฉายหนังรอบปฐมทัศน์เรื่อง "มนต์รักแม่นํ้ามูล"  นอกจากรูปแบบการจัดที่แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแล้ว ครูยังเล่าถึงบรรยากาศการฉายหนังในวันนั้นต่ออีก

 "บรรยากาศการเปิดหนังรอบปฐมทัศน์พอผ้าม่านในโรงภาพยนตร์เปิดออก เสียงเป่าปากปรบมือของแฟนหนังดังกระหึ่มก้องโรงหนังเลย คึกคักมาก ก่อนที่นักร้องระดับแถวหน้า ทั้งลูกทุ่ง ลูกกรุง อาทิ สนธิ สมมาตร ชรัมภ์ เทพชัย จะออกมาร้องเพลงคนละเพลง แฟนหนังแห่คล้องมาลัยกันจนชุลมุนไปหมด ช่วง สุริยา ชินพันธ์ ปิยทิพย์ คุ้มวงศ์ ดารานำแสดง ปิยะ ตระกูลราษฎร์ สมชาติ ประชาไทย ขึ้นโชว์ตัวบนเวทีพร้อมกลุ่มนักจัดรายการชื่อดัง แฟนเพลงได้สัมผัสกับดารา-นักร้องอย่างใกล้ชิด เรียกว่าบรรยากาศการเปิดตัวรอบปฐมทัศน์สมัยนั้นผู้ชมได้รับความคุ้มค่ามากเลย "

 ปัจจุบันการจัดฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ไทยเปลี่ยนไป โดยจะเป็นการฉายเพื่อให้สื่อมวลชน ผู้สนับสนุนและทีมงานได้ชมกันมากกว่า และขนาดของโรงภาพยนตร์ที่ถูกลดลงมาเป็นมินิเธียเตอร์ มีหลายโรงอยู่ในอาคารเดียวกัน ทำให้ขาดพื้นที่หน้าจอฉาย ซึ่งในอดีตจะทำเป็นเวทีใหญ่ สำหรับจัดคอนเสิร์ตได้ด้วย ซึ่งวงดนตรีลูกทุ่งหรือสตริงในยุคก่อน ก็มักเดินสายเช่าโรงหนังเปิดการแสดง

 ทว่ารอบปฐมทัศน์ ที่มีการแสดงดนตรี ทำกิจกรรม หรือเปิดตัวนักแสดง ในโรงฉายภาพยนตร์ ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว เพราะปัจจุบันมักจะใช้พื้นที่บริเวณลานโปรโมชั่นในคอมเพล็กซ์ ใช้เป็นสถานที่เปิดตัว

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ