ชีวิตเรียบง่ายตามสไตล์"เอ๊ะ"อิศริยา

ผลงานปัจจุบัน

กระแสตอบรับ ละครเรื่อง “จงกลกิ่งเทียน” เป็นอย่างไรบ้าง

 ดี ไปไหนมาไหน ก็มีคนเรียกคุณเทียน แต่แรกๆ ก็มีคอมเมนท์เหมือนกัน ว่าทำไมซื่อจัง ยอมง่ายจัง ทำไมไปเชื่อเขา เพราะตอนแรกเราเล่นเป็นเทียนกัณยา พอเปลี่ยนชื่อเป็นบัวเทียน คนก็เรียกตามชื่อในตัวละคร ก่อนหน้านี้เราเล่นร้ายใน "กุหลาบซ่อนหนาม" แอบกลัวเหมือนกัน ว่าคนดูอาจติดภาพที่เราเล่นร้าย มาเรื่องนี้เรากลับมาเล่นเป็นคนที่เรียบร้อยมาก พอฉายก็โอเคเพราะเป็นละครเป็นพีเรียด ได้ใส่ชุดไทย อาจจะเป็นที่คุ้นตาของคน คนดูก็เลยไม่ติดภาพที่เล่นร้ายของเรามา

หลังจากละครจงกลกิ่งเทียน มีผลงานอะไรต่อจากเรื่องนี้

 ถ้าเป็นละครช่วงนี้ก็ยัง  ส่วนที่มีติดต่อมา คุณแม่จะเป็นคนคุย แล้วก็มีงานพิธีกรเวทีไทยกับแซดทีวี แล้วก็มีเป็นอาจารย์ด้วย เป็นอาจารย์สอนพิเศษไม่ได้รับผิดชอบทั้งวิชา สอนที่ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ แล้วก็ ม.ธรรมศาสตร์ บ้าง คือไปช่วยอาจารย์สอน
ว่าด้วยเรื่องเรียน

ได้ข่าวว่า เอ๊ะ อยากเรียนต่อถึงปริญญาเอก

อยากเรียน คือคิดว่าชีวิตนี้ทั้งชีวิต เกิดมาทั้งที เราก็อยากเป็นดอกเตอร์ แต่ไม่รู้ว่าเราจะทำได้หรือเปล่า ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ที่เราอยากเรียนให้ได้ ที่เล็งๆ ไว้ก็คงเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับที่เราเรียน เพราะเอ๊ะเรียนตรีทางด้านกฎหมาย เรียนโททางด้านสื่อสาร มันก็จะมีคณะที่เอากฎหมายกับการสื่อสารมาลิงก์กัน แต่น่าจะเป็นปีหน้าที่จะเริ่มดู เพราะเราไม่ได้ซีเรียส ว่าจะต้องจบดอกเตอร์ภายใน อายุ 32-33 ปี คือเราขอเรียนตามจังหวะที่เหมาะสมดีกว่า แล้วคุณแม่ก็อยากให้เรียน เป็นอีกความฝันของคุณแม่ แล้วก็ของเอ๊ะด้วย เพราะเอ๊ะเรียนอะไรก็รู้สึกมีความสุขไปหมด เพราะรู้สึกสนุกดี เวลาเราไปเรียน แล้วก็รู้สึกชอบอาจเป็นเพราะเราได้ไปเจอเพื่อน ได้เรียนรู้อะไรแปลกๆ ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน

ว่าด้วยเรื่องในวงการ

เอ๊ะมองวงการบันเทิงเป็นอย่างไร

 บางครั้งเราอาจได้ยินอะไรในสิ่งที่เอ๊ะไม่ได้เห็นด้วย อย่างคำพูดที่ว่าวงการบันเทิงทำให้คนหลงระเริง  แต่สิ่งที่เอ๊ะเจอมา คิดว่ามันไม่ได้เลวร้าย มันเป็นวงการที่โอเคมาก ทุกวันนี้ยังคุยกับคุณแม่อยู่เลย ว่าทำไมบางคนเขามีมุมมองกับวงการบันเทิงไม่ค่อยดี แต่สิบกว่าปีที่เราเจอมา ก็โอเค มันก็มีดีไม่ดีบ้าง จะบอกว่าดี 100 เปอร์เซ็นต์ก็คงไม่ใช่ แต่เท่าที่เจอมาเอ๊ะว่าแค่ 10-20% เท่านั้นที่ไม่ดี เอ๊ะว่าวงการนี้ให้อะไรเอ๊ะเยอะมาก

อยู่วงการมานาน ได้อะไรจากวงการบันเทิงบ้าง

โห... เยอะมากเลย อย่างแรกที่สำคัญมาก คือเงิน (หัวเราะ) แล้วก็อาชีพ คือปีนี้เป็นปีที่ 12 แล้วที่เอ๊ะอยู่วงการนี้  ยังคิดว่าเราอยู่มาไกลขนาดนี้เลยหรือ แรกๆ เข้าวงการเพราะคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ถ้าเราเล่นเรื่องนี้แล้วไม่ได้เล่นเรื่องต่อไปเราก็ไปเรียน แต่นี่ผ่านมา 12 ปีแล้ว ก็ยังมีงานดีๆ ทำ มีบทละครที่เราอยากจะเล่น และมีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน แฟนๆ ก็ให้การตอบรับที่ดี เอ๊ะถือว่านี่เป็นโชค และตั้งแต่เข้าวงการมาข่าวเสียๆ ในวงการก็ไม่ค่อยมี ข่าวที่ทำให้เราท้อยังไม่เคยเจอเลย

แล้วคิดอย่างไรกับวิธีสร้างข่าวสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเองของดาราบางคน

จริงๆ แล้วเอ๊ะโชคดีมาก เพราะคนจะสนใจช่วงที่เอ๊ะมีงาน โดยเฉพาะช่วงมีละคร คือถ้าไม่มีละคร เราก็จะไม่มีอะไรให้เขาติดตาม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราต้องการให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ทุกวันนี้มีคนเรียกคุณเทียนหรือว่าบัวเทียน หรือพูดถึงฟีดแบ็กละครจะรู้สึกภูมิใจ ในทางกลับกัน ถ้าเรามีงานละครอยู่ แต่มีคนถามว่าเอ๊ะเป็นแฟนกับคนนี้จริงหรือเปล่า เอ๊ะคงเสียใจ น้อยใจ ถามว่าข่าวจำเป็นไหมสำหรับวงการนี้ มันก็จำเป็นมากๆ ข่าวก็ช่วยให้เรามีชื่อเสียงมากขึ้น แต่ข่าวก็เหมือนดาบสองคม ถ้ามีในทิศทางที่ไม่ดี ก็อาจจะทำให้เรารู้สึกแย่มาก

คิดอย่างไรกับเรื่องดาราย้ายค่าย

เอ่อ...ไม่อยากคอมเมนท์มาก เพราะว่าตัวเองก็ย้ายมา (ยิ้มเขินๆ) อย่างที่บอก เราไม่ได้เป็นเขาเราไม่รู้หรอก เราไม่รู้เหตุและผลที่เขาตัดสินใจ ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร เอ๊ะเชื่อว่าการย้ายค่ายไม่ใช่เรื่องเลวร้าย สำคัญสุดอยู่ที่ไหนให้รักงาน เพราะเรื่องแบบนี้ มันเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน มันพูดยากจริงๆ และตัวเอ๊ะก็เคยเจอมากับตัวเอง รู้สึกเลย ว่าช่วงนั้นทำไมไม่มีใครเข้าใจเราเลย ที่เขาไม่เข้าใจเพราะเขาไม่รู้เหตุผลเรา และเราก็ไม่สามารถบอกเหตุผลกับทุกคนได้ คือมันก็นานมาแล้ว 5-6 ปีได้แล้ว แล้วทุกวันนี้ คนก็จะมองเอ๊ะในภาพของดาราช่อง 3 มากกว่า

หลักการในการดำเนินชีวิตในวงการ

 ผ่านมา 12 ปีในวงการบันเทิง ตัวเอ๊ะเองไม่เคยตั้งเกณฑ์ปฏิบัติ ว่าต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้ มันทำมาเรื่อยๆ เราก็ยังเป็นตัวของตัวเอง ทุกวันนี้ใช่ว่าไม่มีข่าวแล้วคนจะไม่ติเลย ก็ยังมีทั้งติและชมนะ ถือว่าเรายังมีข้อดีข้อเสียให้เขาติและชมได้ต่างกันไป เอ๊ะว่านี่เป็นเสน่ห์ของนักแสดง เพราะอะไรก็ตามที่มันเพอร์เฟกท์ 100 เปอร์เซ็นต์ วางไว้เป็นแนวทางปฏิบัติ และทำตามเป๊ะๆ  มันจะดูไม่ใช่มนุษย์ ทุกวันนี้เราก็ทำในสิ่งที่เราเป็น

ดูสนิทกับคุณแม่มาก ท่านสอนอะไรบ้าง

 สนิทมาก คุณแม่เป็นคนมองอะไรๆ ด้วยความสวยงาม ท่านสอนให้เรามองทุกสิ่งสวยงาม แต่ต้องระวังตัว ให้เรามีความสุขกับตัวเอง อย่าไปเปรียบเทียบกับคนอื่น อันนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก มันทำให้เราสบายใจ เพราะไม่ว่าคนนั้นจะแย่ คนนี้จะดีกว่า มันก็เป็นชีวิตของเขา คุณแม่ท่านสอน ว่าอย่าว่าคน อันนี้สำคัญมาก เราไม่ควรที่จะว่าใคร เพราะว่าสิ่งที่เราติวันนี้ วันหนึ่งเราอาจจะทำเองก็ได้ ไม่ให้ไปตัดสินคนอื่น และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด และเราไม่ควรมองใครในแง่ร้าย เพราะว่าเราไม่ได้เป็นเขา เราก็ไม่รู้เหตุผลหรอก มันเลยทำให้เราเป็นคนสบายๆ ไม่มองใครในแง่ร้าย เอ๊ะชอบเข้าไปในสังคมที่คนดูยิ้มแย้มรักกัน เป็นมิตรแก่กัน เหมือนการทำงานถ้าเข้าไปในกองถ่ายไหนคนดูสบายใจ ให้กำลังใจกัน เอ๊ะจะชอบอารมณ์นั้นมาก

มองอนาคตของตัวเองไว้อย่างไร

 ถ้าเป็นในวงการก็อยากทำต่อไปเรื่อยๆ มีบทดีๆ ติดต่อเข้ามาและมีฟีดแบ็กดีๆ เหมือนที่ผ่านมา ให้คนรู้สึกว่าเราเป็นนักแสดงมากกว่าดารา ส่วนที่ว่าจะเป็นนักแสดงอีกกี่ปีนั้นอันนี้ตอบไม่ได้เลย เพราะเราไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ แฟนละคร จะสนับสนุนเราถึงขั้นไหน แต่ถ้าวันหนึ่งไม่ใช่ มันก็คือไม่ใช่ แต่ทุกวันนี้ยอมรับ ว่ามีความสุขดีอยู่แล้ว กับ 12 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยคิด ว่าเราจะทำงานวงการได้นานขนาดนี้
หัวใจของ "เอ๊ะ" ที่ยังไร้คู่

ตอนนี้มีหนุ่มที่เล็งๆ อยู่หรือยัง

 ตั้งแต่เข้าวงการมา เอ๊ะจะเจอคำถามเรื่องนี้มาตลอด ก็ยังนึกอยู่ว่าจะเบื่อถามกันไหม เพราะถามอะไรมาคำตอบก็ยังเหมือนเดิม  แต่ความจริงมันก็เป็นแบบนี้ คือเป็นคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องความรัก เราอยู่อย่างนี้มาตลอด แล้วเราก็อยู่ได้ แล้วก็ชิลๆ กับเรื่องนี้ แต่บางคนอาจมองว่าแปลก เพราะด้วยวัยของเอ๊ะนั้นน่าจะมีแฟน ก็มีคนเข้ามา แต่เรายังไม่รู้สึกว่าใครที่แบบใช่เลย เราชอบเราจะคบ ก็เลยยังเรื่อยๆ อยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเลย และทุกครั้งที่ไหว้พระ ก็ไม่เคยขอเรื่องนี้

ยังไม่มีตัวจริง แล้วสเปกหนุ่มๆ ที่คิดไว้ล่ะ

 ไม่มีสเปก อยู่ที่ว่าเราดูละครเรื่องอะไรอยู่ ว่าชอบพระเอกคาแรกเตอร์อย่างไร (หัวเราะ) จริงๆ แล้วชอบคนที่โตกว่า เป็นผู้ใหญ่ หน้าตาไม่ซีเรียสเลยขอแบบไม่น่ากลัว คุณแม่เคยพูดๆ ถึงบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นแนะนำ เพราะท่านชอบให้ลูกเป็นแบบนี้ ท่านเคยพูดอยู่ครั้งหนึ่ง ว่าเอ๊ะอยู่แบบนี้แหละ เหมาะสำหรับเอ๊ะ เพราะท่านรู้จักเราดีที่สุด แต่เคยมีหนุ่มๆ เข้ามาทางคุณแม่เหมือนกัน คุณแม่ก็พูดไปตรงๆ ว่าคงไม่รอด (หัวเราะ) คือท่านคงมองออก ว่าคนนี้คงไม่สามารถดูแลเอ๊ะได้ ให้เป็นพี่เป็นน้องกันดีกว่า ถ้าเป็นแฟนคงไม่รอด

ท่าทางคุณแม่หวง ท่านห่วงไหมถ้าต้องอยู่คนเดียวจริงๆ

 ไม่หวงหรอก ท่านชอบให้เราเป็นแบบนี้ ถ้าเอ๊ะมีแฟนแม่คงมองว่ามันยังไม่ใช่ เขาก็สนับสนุนให้อยู่ตัวคนเดียว แต่ถ้าวันหนึ่งเรามีคนที่คลิกลงตัว เขาก็บอกเราว่าเขาไม่ห้าม คนที่คลิกลงตัวตอนนี้คงเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำ ด้วยความที่เอ๊ะอยู่กับคุณแม่มา แล้วเอ๊ะทำงานมาตั้งแต่เด็ก คนก็มองว่าเป็นคนเก่งดูแลตัวเองได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่หรอก เราชอบที่จะเป็นผู้ตาม พรุ่งนี้จะทำอะไรยังไม่รู้เลยค่ะ ต้องให้คุณแม่บอก อยากได้คนที่ดูแลเราได้แบบคุณแม่

ชื่อ "เอ๊ะ" อิศริยา สายสนั่น (เกียรติญา สายสนั่น)

วันเกิด 5 พฤศจิกายน 2525
การศึกษา
ปริญญาตรี จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปริญญาโท คณะวารสาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงานก่อนหน้านี้ สาปภูษา ปี่แก้วนางหงษ์ กุหลาบซ่อนหนาม ฯลฯ
ผลงานล่าสุด ละครจงกลกิ่งเทียน งานพิธีกรเวทีไทยกับแซดทีวี

เรื่อง : เสาวลักษณ์ ปึงทมวัฒนากูล
ภาพ : วริศรา วุฒิกุล