บันเทิง

"ต่าย อรทัย" ผันตัวเองเป็นแม่ค้าออนไลน์ ตอนนี้เข้าใจหัวอกคนตกงาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จากซุปเปอร์สตาร์ลูกทุ่งมาขายของออนไลน์ ทำให้ ต่าย อรทัย เข้าใจหัวอกคนตกงาน ผันตัวมาเป็นแม่ค้า กว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทไม่ง่าย

 

ส่วนไวรัสที่โจมตี ก็ทำให้ ต่าย อรทัย รู้สึกสงสาร "มนุษย์รายวัน" ที่ตกงานขาดรายได้ จะอยู่กันยังไง ขนาดคนมีเงินเก็บยังคิดมาก

 

 "ต่าย อรทัย" ผันตัวเองเป็นแม่ค้าออนไลน์ ตอนนี้เข้าใจหัวอกคนตกงาน

 

 

ต่าย อรทัย บอกว่า รู้สึก "สะเทือนใจ"ที่ผู้ติดเชื้อไม่สามารถเข้าถึงเตียงในโรงพยาบาลได้ ล้มตายราวกับใบไม้ร่วง ในขณะที่กลุ่มอาชีพศิลปินก็ได้รับผลกระทบหนัก เป็นด่านแรกๆ ที่ต้องหยุดงาน เพราะสถานบันเทิงต่างๆ ถูกสั่งปิด คอนเสิร์ต อีเวนต์ ถูกเลื่อน หรือยกเลิก ส่งผลให้ไม่มีรายได้

 

ล่าสุด ต่าย อรทัย ก็ต้องผันตัวมาเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ เป็นอาชีพเสริมสร้างสภาพคล่อง เริ่มจากขายเสื้อผ้านักร้อง และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในชีวิตประจำวันจนกลี้ยงตู้ ก่อนปักหลักขายน้ำพริกกากหมู ขนมปั้นขลิบ

 

ที่ต่ายบอกว่า มีพ่อแม่มีครอบครัว มีทีมงาน บางคนอาจมองว่าต่ายไม่ลำบาก แต่ในมุมของเรา เราก็มีภาระหน้าที่ ที่เราต้องรับผิดชอบ ของต่ายเองก็ไม่ได้ต่างจากทุกคน ก่อนโควิดมารอบแรกได้ทำบ้าน ก่อนหน้านั้นก็ลงทุนเรื่องของการทำโชว์หมดไปก้อนใหญ่ หวังว่าโควิดรอบแรกหมดไป เราจะมีงานคอนเสิร์ตได้ทุนคืนกลับมา แต่สุดท้ายแล้วมันพังหมดเลย

 

เมื่อมาเป็นแม่ค้า ต้องพูดเพิ่มแรงจูงใจในการซื้อให้ลูกค้า ต่ายยอมรับว่า ช่วงแรกๆ รู้สึกขัดกับบุคคลิก เป็นคนพูดน้อย แต่หลังจากขายบ่อยขึ้น พูดบ่อยขึ้น เริ่มสนุกกับอีกบทบาทที่เธอเป็นคนเลือกเอง นอกจากนี้ เมื่อมาเป็นแม่ค้าทำให้มีความเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ค้า ต้องใช้พลังมากขนาดไหนกว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาท แถมตอนนี้ก็มีคนตกงานผันตัวมาขายของ โดยเฉพาะของกินกันเยอะมาก

 

 "ต่าย อรทัย" ผันตัวเองเป็นแม่ค้าออนไลน์ ตอนนี้เข้าใจหัวอกคนตกงาน

 

 


ยอมรับ รายได้จากการขายของออนไลน์ ได้ไม่เท่ากับที่ได้รับจากงานวงการบันเทิง แต่ก็พอใจกับผลตอบแทนที่ได้รับช่วยชะลอการนำเงินเก็บออกมาใช้ได้ ถามว่าเงินเก็บที่มี ใช้ดำรงชีวิตโดยไม่ต้องทำงานได้อีกนานแค่ไหน ต่ายตอบว่าน่าจะได้ประมาณ 10 ปี แต่ต้องใช้แบบประหยัดที่สุด ระยะเวลา 10 ปี หลายคนอาจจะดูว่านาน แต่ในสถานการณ์ที่ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ มีบ้างที่รู้สึกเครียดและกังวลกับเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึง และกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะถ้าใช้เงินเก็บอย่างเดียว มันจะหมดสักวันหนึ่งแน่นอน 

 

ต่าย อรทัย ยังแสดงความรู้สึกห่วงใย "มนุษย์รายวัน" เธอหมายถึง ลูกจ้างรายวัน คนหาเช้ากินค่ำ สู้ทำมาหากินสุจริตแต่รายได้ไม่พอเก็บ เป็นกลุ่มที่น่าสงสาร "ขนาดเรายังเครียด" เจอวิกฤตโรคระบาด วิกฤตเศรษฐกิจ เถ้าแก่บอกเลิกจ้าง ไม่มีงานทำ เจ้าหนี้มาทวงแล้วไม่มีเงินจ่าย อย่าว่าแต่เงินผ่อนรถผ่อนบ้าน เงินจะกินข้าวยังไม่รู้จะหาจากไหน "เขาจะอยู่กันยังไง"

 

 "ต่าย อรทัย" ผันตัวเองเป็นแม่ค้าออนไลน์ ตอนนี้เข้าใจหัวอกคนตกงาน

 

 "ต่าย อรทัย" ผันตัวเองเป็นแม่ค้าออนไลน์ ตอนนี้เข้าใจหัวอกคนตกงาน

 

 "ต่าย อรทัย" ผันตัวเองเป็นแม่ค้าออนไลน์ ตอนนี้เข้าใจหัวอกคนตกงาน

 

 "ต่าย อรทัย" ผันตัวเองเป็นแม่ค้าออนไลน์ ตอนนี้เข้าใจหัวอกคนตกงาน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Sanook.com

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ