ติเพื่อก่อ ประพรมน้ำ"บวงสรวงทับหลัง"ที่ได้คืน

เป็นบรรยากาศชื่นมื่น สำหรับพิธีบวงสรวงต้อนรับทับหลังสำคัญทั้ง 2 ชิ้น พร้อมวัตถุโบราณชิ้นอื่น ๆ ที่ได้คืนจากต่างประเทศหลังมีการร่วมมือระหว่างชาติในการขอคืนวัตถุโบราณ ซึ่งทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ถูกลักลอบนำออกนอกแผ่นดินไทย และนำไปจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย (Asian Art Museum) นครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อมีการตรวจสอบจนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของสหรัฐฯ และพิจารณาสิ้นสุดคดีแล้ว ปรากฏว่าโบราณวัตถุ ทั้ง 2 รายการ เป็นกรรมสิทธิ์ของไทย และเพิ่งจะได้คืนกลับมาในที่สุดหลังมีการดำเนินเรื่องนานกว่า 4 ปี 

โดยพิธีบวงสรวง ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว และวัตถุโบราณชื้นอื่น  ๆ นั้นถูกจัดขึ้นที่บริเวณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมี นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เป็นประธานพร้อมด้วยนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมเปิดหีบบรรจุทับหลัง 2 รายการ และมี ภัณฑารักษ์ และนักวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ ตรวจสภาพทับหลัง พร้อมบันทึกข้อมูลในเบื้องต้น 

สำหรับพิธีบวงสรวงมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เป็นประธานบวงสรวง และมีการแสดงระบำโบราณคดี ชุดลพบุรี ด้วย

แน่นอนว่าในพิธีใหญ่ระดับชาติครั้งนี้ ก็มีเหล่าสื่อมวลชนหลายสำนักออกมาเก็บภาพในช่วงต่าง ๆ ให้เห็นกันถึงวัตถุโบราณชิ้นสำคัญ แต่หลังจากพิธีเสร็จสิ้น ก็ไม่วายเกิดคำวิจารณ์ ให้แง่คิดว่า สำหรับพิธีความเชื่อที่มีการประพรมน้ำมนต์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ตามขนบธรรมเนียมที่ดีงามนั้น อีกแง่หลังจากมีการประพรมน้ำแล้ว เจ้าหน้าที่กลับต้องแร่ง นำผ้าแห้งมาซับน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมชำรุด  พร้มอมระบุข้อความว่า "เจ้าหน้าที่​ต้องรีบนำผ้ามาซับน้ำอบออก หลัง ‘รมต. และพราหมณ์’ พรมใส่ทับหลังปราสาทในพิธีบวงสรวงถูกพรากจากประเทศไป 50 ปี ยังกลับมาด้วยสภาพที่สมบูรณ์แบบ เพราะความเจริญด้วยปัญญาและเทคโนโลยีของประเทศเขา แต่กลับมาเมืองไทยไม่กี่วัน เจอพิธีเขลาๆไปเท่านั้นแหละ #พูดไม่ออก"

โดยทับหลังทั้ง 2 ชิ้น พร้อมกับวัตถุโบราณชิ้นอื่น ๆ ได้ถูกจักแสดงอย่างสวยงาม ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร  กำหนดจัดแสดงระยะเวลา 3 เดือน ทั้งนี้มีการวางแนวทางในการพิจารณาการดำเนิน การอนุรักษ์ต่อโบราณวัตถุ 2 รายการ ต่อจากนี้คือ เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่อยู่ใกล้กับตัวปราสาทแห่งนั้นๆ โดยที่ปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุรินทร์ ส่วนปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี และระหว่างที่โบราณวัตถุ 2 รายการจัดแสดงจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดูแล รักษาโบราณวัตถุให้ดีที่สุดต่อไป อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงประชาชนคนไทยให้ช่วยกันร่วมอนุรักษ์ดูแลโบราณวัตถุ มรดกของชาติ ให้เกิดการหวงแหนและภูมิใจในความเป็นไทยด้วย