"ธัญญ่า" เปิดหมดปมแยกบ้าน-ฟ้องน้อง อ. พร้อมเผยเหตุผลที่หลายคนถามทำไมทนอยู่ไม่เดินออกมา

 

จากกระแสดราม่าร้อนฉ่า "ธัญญ่า" ธัญญาเรศ เองตระกูล เจ้าของฉายา "เมียหลวงลวงสังหาร" ได้ออกมาปฏิบัติการเชือด "อิงอิง อิงณภัสร์" สาวคนสนิท "เป๊ก" สัณชัย เองตระกูล จนสะเทือนไปทั้งวงการ แถมยังเตรียมฟ้องอีกฝ่ายที่คุกคามลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน "น้องลียา" ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

อ่านข่าว "แม่อิงอิง" เปิดใจดราม่าลูกเป็นบ้านเล็ก ซัดกลับพวกถล่มด่าเตรียมตัวรับกรรม

 

ล่าสุดวันนี้(3 ก.ย.63) เมียหลวงยืนหนึ่ง "ธัญญ่า" ธัญญาเรศ ได้มาออกรายการโหนกระแส ของทางช่อง 3 เมื่อเวลา 12.35 น. ที่มี "หนุ่ม" กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยมี "ทนายเจมส์" นิติธร แก้วโต มาร่วมรายการด้วย

 

 

 

ที่มาที่ไปคุณธัญญ่ารู้เรื่องนี้มานานมากแล้ว?

ธัญญ่า : ค่ะ ก็อย่างที่บอกไป 3 ปีกว่า

 

เคยมีการพูดคุยกับตัวน้องคนนี้มั้ย?

ธัญญ่า : เคยค่ะ ก็ตั้งแต่แรกเลยที่เรารู้ว่าเป็นคนดูแลพี่เป๊ก ก็เลยบอกพี่เป๊กนัดมาคุยสิ มาแนะนำตัว ก็คุยกันเรียบร้อย จริงๆก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ก็แค่ถามว่าเป็นยังไง ดูแลพี่เป๊กโอเคมั้ย ไม่อยากแต่งงานหรอ แค่นั้นแหละค่ะที่คุยกัน

 

มีคนมองว่าคุณธัญญ่าใจกว้างเกินไปหรือเปล่า?

ธัญญ่า : ไม่นะพี่หนุ่ม คือเหมือนว่าเราหาจุดที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากกว่า ทั้งตัวญ่าเองและพี่เป๊กเอง ด้วยความที่เราทะเลาะกันมาตลอดเรื่องผู้หญิง พี่(หนุ่ม กรรชัย)ก็คงเข้าใจนะคะ พี่เคยผ่านความเจ้าชู้มาก่อน (หัวเราะ) อารมณ์ความรู้สึกมันก็คงไม่ต่างกัน เราทำความเข้าใจกับมัน เพราะว่าที่ผ่านมาเราทะเลาะเรื่องนี้ตลอด แล้วเราไม่สามารถยุติปัญหานี้ได้ เราเลยเปลี่ยนทัศนคติตัวเองใหม่ว่า ถ้าเกิดว่าเราจะยังอยู่เป็นครอบครัวเราก็คงต้องอยู่เป็นครอบครัวต่อไป แต่ทัศนคติของเราต้องเปลี่ยนไป อย่าไปจับผู้หญิงอะไรที่มันมั่วซั่วตลอดเวลา มันจะประสาทกินเอาค่ะ ต้องแบบวันนี้ไปไหน อยู่กับใคร ทำอะไร คือเราไม่ได้เป็นคนราวีผู้หญิง ก็จะเป็นคนราวีสามีเรา จะไปโวยวายทะเลาะกับเขา ซึ่งบ่อยๆก็ไม่ดี แต่ที่ผ่านมาพอเราเปลี่ยนทัศนคติตัวเราเองก็เป็นชีวิตที่สงบสุขมาก ไม่ได้มีปัญหาเรื่องผู้หญิงให้มันวอแวใจ มีความสุขกับลูก ทำกิจกรรมไปรับส่งลูก โฟกัสที่ลูก ส่วนพี่เป๊กเราก็จะปรึกษาในเรื่องธุรกิจ การกึงหวงในเชิงชู้สาวเนี่ยไม่มีแล้ว ไม่มีจริงๆ

 

กรณีแบบนี้ลักษณะความรู้สึกมันเหมือนอยู่กันเป็นเพื่อนหรือเปล่า?

ธัญญ่า : ใช่ อยู่เป็นเพื่อน เป็นพ่อของลูก และเป็นเหมือนคู่ชีวิตที่มันมีความผูกพันกันมา ธัญญ่าเข้าใจเลยนะผู้หญิงที่อยู่กับสามีจนแก่เฒ่าแต่ปล่อยให้สามีไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย มันเป็นความรู้สึกแบบนี้ ที่พอเราดำเนินชีวิตไป ณ อายุนึงเราก็ทำใจเรื่องนี้ได้เอง โดยที่เราก็เปลี่ยนโฟกัส ถ้าไม่มีลูกเราเลิกไปนานแล้ว เราก็เดินหน้าชีวิตเราใหม่

 

ชีวิตที่อยู่ทุกวันนี้เป็นเพื่อนที่มีความเอื้ออาทรห่วงหา แต่เรื่องความรักที่สดใสสมัยก่อนอาจลดทอนไปหมดแล้ว?

ธัญญ่า : ธัญญ่าเชื่อว่าอาจไม่ทุกคู่ แต่เกือบๆทุกคู่ที่อยู่กันไปสักระยะนึง ที่มีปัญหาบ่อยๆ ความรักเชิงชู้สาวมันจะค่อยๆ ลงลง แต่จะเป็นความผูกพัน ความเป็นพ่อและแม่ เหมือนแบบธุรกิจครอบครัว ทุกอย่างตอนนี้ทั้งคุณพ่อคุณแม่พี่เป๊ก น้องสาวพี่เป๊ก เราคุยกันตลอดในเรื่องปัญหาที่เกิด เรื่องธุรกิจหรืออะไรก็ตามแต่ คือคุยกันตลอด

 

แบบนี้ยังใช้คำว่าคู่ชีวิตอยู่มั้ย?

ธัญญ่า : คู่ชีวิตค่ะ แต่อาจไม่ใช่คู่ชีวิตที่เป็นสามีภรรยาที่สวีทวี้ดวิ่ว แต่เรามีปัญหาอะไรเรานึกถึงเขาเป็นคนแรก เวลาเขามีปัญหาอะไรที่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเขา ที่ปรึกษาเราไม่ได้ เขาก็มาปรึกษาเรา

 

คนพูดส่วนหนึ่งว่ามีแบบนี้ด้วยเหรอ คุณธัญญ่าเข้าใจสามี?

ธัญญ่า : มีดาราหลายท่านที่เป็นรุ่นใหญ่ที่ได้ยินการสัมภาษณ์ว่า ให้สามีตัวเองไปซื้อกินได้เพื่อความสุขของสามี เวลาเราฟังสัมภาษณ์ว่าภรรยาปล่อยสามีไปซื้อกินโดยที่ภรรยาไม่ว่า แต่ทางฝั่งเราพี่เป๊กไม่ชอบเที่ยวแบบเสียเงิน เป็นคนชอบความผูกพันเชิงดูแลกันไป ส่วนเรื่องแบบนั้นมันสำคัญขนาดไหนธัญญ่าไม่รู้

 

พอเป็นประเด็นขึ้นมาน้องลียาก็รับรู้ได้ กลัวในมุมนี้มั้ยตัวน้องเองจะรู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขา?

ธัญญ่า : คือตัวธัญญ่ากับลียาเราคุยกันตลอดเวลา เราก็ปูพื้นฐานเหมือนฉีดวัคซีนลูกไว้เหมือนกันว่าวันนึงถ้าลูกโตขึ้นและไปเห็นข่าวเก่าๆที่มันเคยเกิดขึ้นระหว่างกับพ่อกับแม่ จะเล่าให้เขาฟัง แล้วเขากก็โตมาและเจอข่าวนั้นจริงๆ เขาก็เข้าใจด้วยความที่เราบอกว่าพ่อเขาเท่ หล่อ ผู้หญิงชอบเยอะ เขาก็เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น บางทีเขาก็จะบอกธัญญ่านะว่าผู้ชายก็งี้แหละหม่ามี๊ ไม่ต้องไปเชื่อมาก เขาก็โกหกอย่างนี้แหละ เขามีความคิดที่แบบมันชิล ธัญญ่าก็ดีใจที่มีลูกแบบชิล ไม่ได้เครียด ร้องไห้

 

 

น้องลียาบอกคุณว่าถ้าสองคนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขาจะไม่อยู่กับใครเลย?

ธัญญ่า : บอกตามตรงตัวธัญญ่ากับพี่เป๊กเราค่อนข้างที่จะมีสเปซอยู่เยอะพอสมควร เรามีปัญหาอะไรอะไรกันมามากมาย เราก็หาจุดที่ดีสำหรับเรา ธัญญ่าก็มีบ้านตัวเอง พี่เป๊กก็อยู่บ้านของเขาที่เป็นบ้านที่ครอบครัวอยู่

 

คนจะเข้าใจว่าแยกกันอยู่เหรอ?

ธัญญ่า : มันก็ประมาณนั้น แต่มีบางวันที่เราต้องมารวมกันเป็นครอบครัว วันไหนที่พี่เป๊กอยู่กรุงเทพฯ เราก็ไปสิงสถิตย์อยู่บ้านนั้น แต่วันไหนที่พี่เป๊กไปต่างจังหวัดหรือมีปาร์ตี้ที่บ้าน เราก็เอาลูกมานอนบ้านเรา มันมีสเปซที่เกิดขึ้น และตัวลียาเองเขาก็เข้าใจสิ่งที่เป็นมาตั้งแต่เล็กจนถึงวันนี้ เขารู้ว่าการที่พ่อแม่อยู่ด้วยกันเยอะๆแล้วทะเลาะกัน เวลาที่เราห่างกันมากกว่าที่เราจะคิดถึงกัน และก็มันมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกว่า เราก็อธิบายให้ลูกเข้าใจ ซึ่งลูกก็โอเคค่ะ

 

กลัวมั้ยมุมนึงจะไปตกที่คุณเป๊กด้วย ลักษณะแบบทัวร์ไปลงที่คุณเป๊ก มีคนไปต่อว่าต่อขานสามี?

ธัญญ่า : จริงๆก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าจะมีก็เป็นช่วงนึง แต่ด้วยความที่ตัวพี่เป๊กเองเขาก็ชินกับข่าวแล้ว เขาโดนมาจนไม่รู้จะยังไงแล้ว เป็นครอบครัวที่เราสองคนคุยกันเข้าใจ แล้วเราก็ ok กับสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะว่ามันมีการล้ำเส้นเกิดขึ้น ซึ่งเราไม่ได้โมโหเรื่องมายุ่งกับพี่เป๊ก เรารู้อยู่แล้ว เราเปิดโอกาสให้เลยจะมีกี่คนก็ไม่ว่า แต่ขอให้รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่อย่าล้ำเส้น อย่ามายุ่งกับธัญญ่าและลูกนะ ซึ่งทุกคนที่ผ่านมาไม่ได้เกิดขึ้น แต่คนนี้มันเกิดขึ้นบ่อย

 

กรณีเขาถ่ายรูปกับคุณแล้วไปเปลี่ยนแคปชั่นว่า เหม็น เนี่ยเคยถามเขามั้ย?

ธัญญ่า : ไม่เคยค่ะ เพราะรูปนี้ถ่ายมาปี 18 เป็นการเลี้ยงปีใหม่ที่บ้าน ก็เจอกันและมีการถ่ายรูปกัน ซึ่งน้องเขาเคยแคปชั่นว่าถ่ายกับคุณแม่ แต่เราไม่รู้ว่าเขาไปเปลี่ยนแคปชั่นอันนี้ตอนไหน แต่เรามาเห็นตอนมีคนส่งมาให้ดูหลังจากที่มีการส่งข้อความมาหาลียา เราก็ไปโวยทางพี่เป๊กว่าจะให้เขาส่งข้อความหาลูกทำไม พี่ต้องจัดการนะ เราก็เลยไม่รู้พี่เป๊กไปจัดการเขา แล้วเขาเลยโมโหเรา จนมาเปลี่ยนแคปชั่นหรือเปล่า อันนี้เราก็ไม่รู้

 

วันนี้ยังพูดคุยกับพิ้งกี้อยู่มั้ย ก่อนหน้านี้เห็นทำงานด้วยกัน?

ธัญญ่า : คือถ้าพูดคุยในการทักทายไลน์หรือทางโทรศัพท์ไม่มี จบแค่การทำงาน แต่ทางไอจียังกดไลค์ กดติดตามกันค่ะ ไม่มีอะไรกัน เพราะเรื่องจบไปนานแล้ว

 

หลังจากแถลงข่าวมีทวิตเตอร์ชื่ออิงอิง ตัวจริงหรือตัวปลอมไม่รู้บอกว่าอายุเยอะ มาดน่าเชื่อถือ ไม่ได้แปลว่าจะพูดความจริง เฮ้อ อ่านแล้วอยากพูดเรื่องจริงบ้างจัง แต่ขออยู่เงียบๆก่อน เขาอยากพูดเรื่องจริงอะไร?

ธัญญ่า : ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่หนุ่ม โทรเลยมั้ย (หัวเราะ)

 

กรณีแบบนี้ถือว่าเป็นการท้าทายมั้ย?

ธัญญ่า : คือที่ผ่านมาน้องเขาก็ท้าทายอยู่แล้วตลอดเวลา อย่างที่บอกเราเตือนคนของเรามานานแล้วกับเรื่องที่เขาแขวะตลอดเวลา เราก็จะเตือนว่าดูแลหน่อย จัดการหน่อย อย่าให้ทนไม่ไหว พูดอย่างนี้หลายรอบมากเลย

 

 

 

เคยถึงขั้นที่อยากจะเจอและเคลียร์กันมั้ย?

ธัญญ่า : หลังจากเจอกันครั้งแรก เราก็มีเจอกันครั้งที่สอง แต่จำไม่ได้ว่าตอนนั้นเรื่องอะไร ประมาณเคลียร์เรื่องที่ผ่านมาที่แขวะกันนี่แหละ ก็มีการขอโทษขอโพยกัน ก็ไม่เป็นไร ดำเนินชีวิตต่อไป เป็นผู้ดูแลต่อไป แต่หลังจากนั้นมันก็มีมาอีก ธัญญ่าว่าด้วยความต้องการของน้องเขา ธัญญ่าคาดว่าเขาอยากจะมาแทนที่หรือเปล่า อันนี้คิดเองนะ เพราะเราเปิดขนาดนี้ เขาไม่น่าที่จะไม่ชอบเราหรือเปล่า

 

น้องเขาอาจรู้ว่าความสัมพันธ์คุณกับคุณเป๊กเหมือนเพื่อน ไม่ใช่คู่ชีวิต เลยพยายามมาแทรก?

ธัญญ่า : อาจเป็นไปได้ ก็ไม่ว่าเรื่องการที่เขาจะดูแลพี่เป๊กยังไง 3 ปีกว่าเนี่ยเราก็ ok มาตลอด เราก็คอยเตือนตลอด บอกพี่เป๊กช่วยดูหน่อย ทำไต้องมาแขวะเราตลอดเวลา รำคาญใจ คนแคปมาให้ดูตลอดเวลา เขาอาจไม่ได้เอ่ยชื่อแต่เราก็รู้ จนวันที่เขามายุ่งกับลูกนี่แหละ เราไม่อยากให้ข้อความอะไรส่งไปถึงลูกเรา เราไม่รู้ว่าอนาคตเขาจะโมโหแล้วส่งอะไรให้ลูกเราหรือเปล่า

 

สังคมอยากรู้ที่เขาบอกว่าอยากพูดความจริง ความจริงคืออะไร คุณสงสัยมั้ย มีอะไรเหนือความจริง?

ธัญญ่า : ก็ไม่รู้ เขาอาจจะมีความลับอะไรหรือเปล่าที่เขาอาจจะรู้ แต่เราไม่รู้หรือเปล่า ก็ไม่รู้จริงๆ

 

อีกเรื่องนึงที่คุณแม่เขาไปสัมภาษณ์สื่อๆนึงว่าแม่ไม่รู้เรื่อง แม่น้องเค้าไม่น่าจะรู้จริงๆใช่มั้ย?

ธัญญ่า : (หัวเราะ) เราก็ไม่อยากไปตอบแทนเขาค่ะ

หนุ่ม กรรชัย : แม่น้องเขาบอกว่าไม่รู้เรื่องนี้ ขอไปคุยกับลูกก่อน แต่การที่ทัวร์ไปลงเขาก็อยากให้กลับไปดูครอบครัวตัวเองให้ดีซะก่อน ผมไม่รู้ว่าหมายถึงใคร หมายถึงคนที่ไปว่าเขา หรือคนที่ออกมาแถลงข่าว

ธัญญ่า : เหรอ (หัวเราะ) ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ไม่เป็นไร ถ้าเขาหมายถึงธัญญ่า ก็โอเค เราก็ดูแลลูกเราดี

หนุ่ม กรรชัย : เพราะลูกคุณมายุ่งกับลูกเรา เราก็เลยเป็นอย่างนี้ ถูกมั้ย

 

ถามทนายเจมส์ เรื่องนี้มาถึงข้อกฎหมาย 3 ข้อ 1.หมิ่นประมาท 2.คุกคามเด็ก 3.ฟ้องชู้ เข้าอะไรมั้ย?

ทนายเจมส์ : ในส่วนที่ผมไปเจอพี่ธัญญ่าวันนั้น สองประการที่พี่ธัญญ่าปรึกษาผมคือเรื่องคุกคามเด็ก กับอันที่สองคือโพสต์ข้อความในลักษณะหมิ่นประมาท เพราะพี่ธัญญ่าไม่สบายใจ ไอ้คำว่าเหม็นนี่แหละ เพราะพี่ธัญญ่าเป็นพรีเซ็นเตอร์น้ำหอม พอเป็นพรีเซ็นเตอร์น้ำหอมอย่างหนึ่งเลยข้อสัญญาศิลปินแสดงแบบ ห้ามทำตัวในลักษณะที่ทำให้เสื่อมเสียภาพพจน์ต่อผลิตภัณฑ์ของเขา ซึ่งคำว่าเหม็นส่งผลกระทบแน่นอน เขาก็เลยเอ๊ะจะทำอะไรได้มั้ย

อันที่สองพี่ญ่าก็เปิดข้อความให้ดูในลักษณะข้อความที่ส่งมาให้น้อง ผมก็อธิบายให้ฟังแล้วว่าถ้าข่มขู่คุกคามก็ชัดเจน ไม่ต้องแปลความอะไรกันเยอะ แต่ข้อความในลักษณะหวังดีแต่ประสงค์ร้าย หรือให้เด็กเป็นเครื่องมือกระทำการอย่างอื่นนั้นเนี่ยเจตนาของเขาต้องไปพิสูจน์อีกที แต่รูปแบบนึง สมมติมีคนส่งสติ๊กเกอร์หาพี่หนุ่มทุกวันจะรำคาญมั้ย สมมติอย่างโทรมาอวยพรตอนเช้าทุกวัน เราอาจไม่ต้องการก็ได้ เป็นการเดือดร้อนรำคาญขึ้นมา กรณีนี้ก็จะทำให้เด็กไม่สบายใจ ทีนี้มี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เป็นการทารุณกรรมด้านร่างกายและจิตใจ เด็กเนี่ยบางทีเขาไม่ชอบให้ส่งข้อความมาหาเขา แต่ด้วยพ่อแม่เขาสอนมาดีเขาก็ตอบกลับไปว่า ค่ะ ขอบคุณค่ะ การตอบกลับไปแบบนั้นไม่ได้หมายความว่าเด็กชอบ เพราะฉะนั้นการที่คุณไปคุยอะไรกับเด็กที่ไม่บรรลุนิติภาวะควรต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครองเขาก่อน ที่เขามีอำนาจปกครองอยู่ อย่าถือวิสาสะเพราะอาจสร้างความไม่สบายใจให้กับเด็ก

 

 

ฟ้องชู้?

ทนายเจมส์ : ประเด็นฟ้องชู้จะมี 2 ข้อ ข้อที่หนึ่งคือผู้หญิงคนนั้นจะต้องรู้ก่อนว่าผู้ชายคนนี้มีภรรยาที่จดทะเบียนโดยชอบด้วยกฎหมาย ถ้าเขาไม่รู้ก็เกิดจากสาเหตุหลายสาเหตุ เช่น ผู้ชายไปหลอกว่าโสด มีเมียแต่หย่ากันแล้ว หรือมีเมียแต่แยกกันอยู่ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ทำให้ผู้หญิงไม่ได้คิดจะแย่งผู้ชายจากภรรยาที่มีทะเบียนสมรสนะแต่ถูกหลอก

อันที่สองคือ แสดงตนโดยเปิดเผย การแสดงตนโดยเปิดเผยเช่นไปไหนมาไหนด้วยกัน แม้มีคนไปด้วยกันเยอะๆ การแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับสามีผู้อื่น อันนี้มีความผิด อีกรูปแบบนึงที่ต้องไปพิสูจน์คือเรื่องของการอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาหรือไม่ มีการเปิดคอนโด เช่าห้องอยู่ด้วยกัน ไม่จำเป็นจะต้องไปจับได้คาหนังคาเขาขณะมีเพศสัมพันธ์แบบนั้นไม่จำเป็นเลย ใช้พยานหลักฐานเหล่านี้มาประกอบและฟ้องชู้ได้ แต่ภรรยาต้องไม่ยินยอมนะ ถ้าภรรยายินยอมให้บ้านเล็กไปอยู่ในบ้านสามี อันนั้นจะฟ้องชู้ไม่ได้

 

ดูคลิปอิงอิงเขาบอกว่าชอบคนแก่ ยิ่งแก่ยิ่งดี เหมือนปลากระป๋อง เปิดปุ๊บกินเลย?

ทนายเจมส์ : เอามาเป็นองค์ประกอบได้ แต่จะใช้ข้อความนี้ตัดสินว่าเขาแสดงตัวเปิดเผยคงไม่ได้ขนาดนั้น ยังไม่ได้ ผมเคยทำคดีลักษณะแบบนี้ จับไม่ได้คาหนังคาเขาแต่มีภาพถ่ายไปหลายคน ทำอะไรคู่กันตลอด เล่นเฟซบุ๊กคู่กัน เขาเล่นเกมอะไรผู้หญิงก็เล่นแบบนั้น ใส่กำไล รองเท้าคู่กัน ผมก็จะจับคู่แบบนี้มาให้ศาลท่านดูว่ามีเจตนาอย่างอื่นนอกเหนือจากเพื่อนร่วมงานนะ

 

เห็นว่าหลังมีปัญหา ธัญญ่าสร้างวัดทำบุญเลย?

ธัญญ่า : ใช่ค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงใจกว้าง เราไปพึ่งธรรมะเยอะก็ทำให้เราใจเย็นลง อันนี้ช่วยได้จริงๆ อยากบอกบรรดาเมียหลวงทั้งหลายแหล่ ใครมีสามีเจ้าชู้ก็ลองดูค่ะ ทำบุญ ทำให้เราใจเย็นลงได้เยอะเลย

 

ถ้าเกิดน้องเขาดูอยู่ธัญญ่าอยากจะบอกอะไร?

ธัญญ่า : จริงๆเมื่อวานก็บอกไปนะแต่ว่าเอาวันนี้ จากการที่เราได้คุยกับนักข่าวไปเมื่อวานนี้และก็จากน้องที่มาโพสต์ก็คือจริงๆอยากจะบอกให้น้องใจเย็นๆ คือถ้าเกิดว่าเราเงียบๆซะ เดี๋ยวมันก็เงียบ แต่การที่เรายิ่งไปตอบโต้มันจะทำให้ทุกอย่างมันเริ่มรุนแรงขึ้น เรื่อยๆแล้วข่าวมันจะไม่จบสักที คือตัวเราอ่ะ เราโมโหแป๊บนึงแล้วเราก็โพสต์ของเราแล้วพอมันเป็นข่าว เราก็ต้องเตรียมยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิด แต่ว่า ณ ตอนนี้ถ้ามันเงียบเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เราจะได้เสียชื่อเสียงกันน้อยที่สุด

 

 

กับคุณเป๊กได้คุยกันมั้ยเรื่องนี้?

ธัญญ่า : เชื่อมั้ยว่าตั้งแต่ธัญญ่าถามเขาในวันนั้นจนถึงวันนี้เราไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันอีกเลย เขาก็ทำตัวปกติ เงียบ จบแล้วมั้ยอันนี้ธัญญ่าไม่ทราบ แต่เขาบอกว่ามายุ่งกับลูกขนาดนี้ถ้าเขาไม่เลิกก็โง่แล้ว

 

แล้วที่ธัญญ่าบอกว่าถ้าเกิดพี่เป๊กไม่ออกมาจากตรงนั้น คุณก็จะเป็นคนออกไปเอง พูดจริงใช่มั้ย?

ธัญญ่า : อันนี้พูดจริง ธัญญ่าพูดกับพี่เป๊กจริงๆว่าถ้าพี่ยังจะคบผู้หญิงคนนี้ต่อ พี่ต้องบอกธัญญ่าและบอกลูก ธัญญ่าก็จะออกมาบอกเลยว่า ok ธัญญ่าไม่ได้อยู่ในฐานะที่อยู่ในครอบครัวแล้วนะ ธัญญ่าเป็นคนนอกแล้ว คือทุกวันนี้เรายังอยู่กันแบบครอบครัว เราทำธุรกิจ อย่างที่บอกเราดูแลลูกกัน มีอะไรปรึกษาหารือกัน แต่ถ้า ณ วันนึงเขาอยากที่จะคบคนนี้แล้วอยากจะเปิดเผย ok เราจะถอยเอง

 

เป๊กกลัวเมียมั้ย?

ธัญญ่า : ธัญญ่าว่าเขามีความเกรงใจ อาจจะไม่ได้แบบกลัวขนาดนั้น แต่ว่าเขาเป็นคนที่ดูแลครอบครัวดีนะคะ คืออย่างที่ธัญญ่าบอกว่าด้วยความที่เขาดูแลดีและก็ครอบครัวเขาทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งน้องสาวเขาเป็นคนน่ารักแล้วก็ซับพอร์ตเราทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเราก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องก้าวออกมาจากครอบครัวนี้