ขับเคลื่อนเพลงด้วยมิตรภาพ 'พลพล' ร้อง-รุ่นน้องทำ

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-ถือเป็นพี่ใหญ่ในวงการเพลง สำหรับ “พลพล พลกองเส็ง” ศิลปินรุ่นใหญ่จากค่าย “จีนี่ เรคคอร์ด” ซึ่งช่วงหลังๆ ที่ผ่านมานักร้องผู้คร่ำหวอดในวงการเพลงมากว่าครึ่งชีวิต หันมาทำงานร่วมกับน้องๆ พี่ๆ ในแวดวงการมากยิ่งขึ้น อย่างล่าสุดกับเพลง “ไม่ไหวอย่าฝืน” ที่โด่งดังเป็นพลุแตก ซึ่งเพลงนี้ พลพล ได้ร่วมงานกับ “ปู๋” ปิยวัฒน์ มีเครือ มือกีตาร์วง “25hours” ที่มาเขียนเนื้อร้องเพื่อสื่อถึงการปล่อยวาง โดยในส่วนของดนตรีก็ได้ “เบนซ์” กัณฑ์กณัฐ อังคณาจีรธิติ โปรดิวเซอร์ประจำวง “โปเตโต้”  มาช่วยดูแลในส่วนดนตรี แถมได้ “กานต์ อ่ำสุพรรณ” มือของวงวง “โปเตโต้” มาเล่นให้อีกด้วย 

   โดย พลพล ได้เล่าถึงการมาทำงานร่วมกับพี่ๆ น้องๆ ว่า “พูดถึงเพลง ไม่ไหวอย่าฝืน เริ่มจากการที่น้องเบนซ์ โปเตโต้ อยากทำเพลงให้พี่พลพลร้อง เราก็บอกเขาไปว่าเรามีคอนเซ็ปต์ว่า ไม่ใช่ที่ของเราอย่าไปพยายาม ไม่ต้องพยายาม ไม่ไหวอย่าฝืน พอพูดไปแล้วน้องเขาเข้าใจทันที เลยได้ประโยคนี้และคอนเซ็ปต์นี้มา แล้วน้องเขาก็ถามเราว่าอยากจะได้ใครมาเขียนเพลงนี้ เราก็บอกเขาว่าเราไม่รู้จัก เพราะทีมเราก็จะมีคนเก่าๆ ที่เขียน แต่ภาษาก็อาจจะไม่ใหม่เท่าน้องๆ อยากให้มันใหม่ขึ้นมาหน่อย เขาก็เลยติดต่อไปที่น้องปู๋  25hours ซึ่งน้องปู๋ได้เขียนเพลงนี้ออกมาได้โดนมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้เนื้อมาคือมันใช่มากเลย เล่าเรื่องไปแล้วมันโดน เราเองไม่เคยทำงานร่วมกับปู๋เลย”

   การทำงานร่วมกันกับรุ่นน้องในค่ายเริ่มจากช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการคุยกับผู้บริหารค่าย “จีนี่ เรคคอร์ด” ว่าอยากให้น้องๆ ทำแล้วพี่พลร้อง นักร้องหนุ่มชื่อดังเริ่มเล่าก่อนจะขยายความว่า “มันเป็นคอนเซ็ปต์ที่ชื่อว่าพี่ร้องน้องทำ แต่ให้มีกลิ่นอายของแต่ละวงที่มาทำ อย่างก่อนหน้านี้ทำงานร่วมกับวงค็อกเทล ก็ร้องแบบค็อกเทล แต่เป็นพลพลร้อง ทำงานร่วมกับน้องๆ วงเคลียร์ ก็เป็นการทำเพลงในแบบเคลียร์ แต่ร้องแบบพลพล ลาบานูนก็ร้องสำเนียงลาบานูนเลย (หัวเราะ) ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่สนุกดี และแฟนเพลงก็เริ่มสนุกกับการที่เรามีเพลงอะไรแปลกๆ ให้เขาฟังบ้าง”

   พี่ใหญ่ของวงการคนนี้ยังบอกต่ออีกว่าการทำงานร่วมกับน้องรุ่นใหม่ๆ ทำให้เห็นเลยว่าศิลปินรุ่นใหม่ๆ เก่งมาก คือฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นใหญ่ๆ ที่เคยทำงานด้วยมาเมื่อ 20 ปีที่แล้วเลย “จริงๆ การทำงานไม่ว่าเวลาจะผ่านไปยังไง ความตั้งใจของคนทำงานมีเหมือนๆ กันหมด แต่ฝีไม้ลายมือไอเดียใหม่ๆ ซาวด์ อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ทันสมัยมากขึ้น และน้องๆ ก็ทำกันเก่งมาก เขามีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่เขาทำ ทำงานกันได้รวดเร็ว เขามีไอเดียโลดแล่นกันอยู่ตลอดเวลา”

   “อยากเล่าอย่างหนึ่ง คือเราเหมือนคนแก่เลย น้องเขาส่งเมลเพลง และเมโลดี้มาให้เราที่บ้าน และเขาก็บอกว่าให้ร้องและส่งให้เขา เราก็ถามว่าร้องที่บ้านได้เลยเหรอ เขาก็บอกว่าได้เลยพี่ อัดใส่โทรศัพท์มา แล้วส่งกลับไปให้เขาไปเป็นไกด์ เขาก็ไปทำกระบวนการแล้วส่งกลับมา แล้วพออะไรพร้อมเราค่อยไปร้องมาสเตอร์อีกครั้งหนึ่งในห้องอัด อย่างสมัยก่อนไม่ใช่แบบนี้ไง (หัวเราะ) เราต้องทำทุกขั้นตอนในห้องอัด แม้กระทั่งเดโมก็ร้องทั้งหมดที่ห้องอัด แต่เดี๋ยวนี้บ้านใครบ้านมันเลย ซึ่งทำงานสะดวกมากขึ้น และน้องๆ เก่งกันมาก การได้ทำงานกับน้องๆ แบบนี้ทำให้เราเห็นหลายอย่างมาก เห็นว่าวงการเพลงเปลี่ยนไปแค่ไหน เห็นว่าน้องๆ รุ่นใหม่เขามีศักยภาพมากแค่ไหน และที่สำคัญเราเห็นมิตรไมตรี สำหรับเรามันคุ้มมากๆ”