'มาริโอ้' อ้อนให้มาดูหนังเยอะๆ 

         บันเทิง คมชัดลึก - สร้างกระแสฮือฮา หลังกลับมาเป็นพระเอกสายฮาอีกครั้ง ซึ่งหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ ได้บอกกล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ในรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง “ขุนแผนฟ้าฟื้น” ที่สยามพารากอนได้ความว่า

         "ก็ดีนะเพราะโอ้ก็ชอบเล่นละครหรือหนังที่มีความคอมเมดี้อยู่แล้ว เพราะโอ้รู้สึกว่ามันไม่เครียด สำหรับในส่วนการแสดงถึงแม้ว่าจะไม่เครียดแต่ก็ต้องใช้พลังเยอะ มันก็สนุกดี ผมก็อยากมอบความสุขและรอยยิ้มให้คนดูด้วย กับตัวอย่างหนังก็ค่อนข้างชัดเจนว่าอยากจะสื่ออะไรให้กับคนดู ถามว่าผมมาแนวนี้ตลอดไหม จริงๆ ผมก็ได้หลายแนวนะ เพียงแต่ผมมุ่งมาทางนี้ก่อน ถามว่าคาดหวังเรื่องรายได้ไหมผมก็อยากให้คนดูแล้วรักหนัง เพราะว่ามันค่อนข้างที่จะเหมาะกับช่วงนี้ เพราะว่าสถานะการณ์บ้านเมืองอาจจะมีเรื่องเครียดบ้าง ก็อยากให้คนดูได้ดูแล้วผ่อนคลายมีความสุข เพราะสามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย

         ถามว่าแนวนี้เข้าทางเราเลยไหม อาจจะด้วยผลงานที่ผ่านมาเราจะชอบเจอกับบทกวนๆ เพราะว่าตัวตนของเราก็มีความกวนๆ ด้วย แต่สำหรับขุนแผนฟ้าฟื้น ถึงแม้จะเฮฮาแต่ก็ความซีเรียสในเรื่องของฉากบู๊และแอคชั่นต่างๆ ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเราก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด อย่างฉากที่ต้องขี่ม้าตอนถ่ายผมก็มีตกม้าเหมือนกัน คือผมอาจจะตกม้าแค่ครั้งเดียว แต่มันก็เพียงพอแล้ว ครั้งนั้นมือซ้นเลยเพราะกลัว ผมก็งงเพราะเห็นน้องฟ้า (ยงวรี งามเกษม) และ ฟิลลิปส์ (ณัทธพล ทินโรจน์) เขาขี่กัน 4-5 คิวไม่เป็นไร แต่โอ้จับวันเดียวตกม้าเลย หนังเรื่องนี้ถ่ายผิดคิวตลอด อย่างฉากฟันดาบเขาต้องฟันดาบแต่ผมกลับไปฟันมือสตั๊นท์เพราะจำคิวผิด มือเขาก็แหก เราไม่เจ็บแต่เ่ขาเจ็บ คือเราไปกระทำให้เขาเจ็บเราก็เสียใจเพราะไม่อยากให้เขาเจ็บ ตอนนั้นก็มีการขอโทษ เรื่องนี้บทคอมเมดี้ค่อยข้างเยอะเลย คือพี่โขมเขาจะค่อนข้างปล่อยนักแสดง"

         เมื่อถามต่อถึงภาพยนตร์เรื่อง "พี่มากพระโขนง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกของชาติ ซึ่งนักแสดงหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้มว่า 

             "ก็ดีใจมาก ไม่คาดคิดว่าหนังของเราจะได้ ได้ยินมาว่าถูกรับเลือกมาจาก150 เรื่อง คือก่อนหน้านี้พี่โต้ง (บรรจง ปิสัญธนะกูล) ก็ส่งข้อความมาบอกกันว่าหนังเรามรดกของชาติเลยนะ คือตอนที่หนังทำเงินพันล้านผมก็ดีใจมากแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะดีใจอะไรไปมากกว่านี้แค่ไหน พอมันมาขนาดนี้เราก็ยิ่งปลื้ม ว่าหนังของเราเป็นมรดกของชาติ ในยุคหนึ่งมันเป็นกระเสที่ค่อนข้างพีคเลยทีเดียว ส่วนเรื่องกฏเกณฑ์การตัดสินนั้นโอ้ไม่ทราบเลย จากเท่าที่อ่านมาคือเลือกมาจากหนัง 150 เรื่องในประเทศเรา ซึ่งเขาจะดูจากกระแสที่ทำให้เกิดเสียงตอบรับที่ยิ่งใหญ่ไม่เคยมี หนังเรื่องนี้ทำให้คนรู้จักเราเพิ่มขึ้นไปอึก เรื่องนี้เด็กๆ จะชอบมาก แม้คำว่ามรดกชาติอาจจะดูยิ่งใหญ่ มันดูเหมือนเป็นโบราณวตถุที่ต้องถูกรักษาไว้ในห้องดีๆ พิเราได้เป็นหนึ่งในตำนานนั้นก็รู้สึกดีใจ แต่ผมไม่ได้คิดว่าเป็นเพราะผม แต่ผมคิดว่ามันเป็นเพราะทีมของเรามากกว่า เพราะหนังเรื่องหนึ่งมันจะสมบูรณ์แบบได้เพราะทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ผู้กำกับและทีมงาน ผมว่ามันเป็นรางวัลของทีมหนังทุกคน" มาริโอ้กล่าวแจง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ความท้าทายของ 'มาริโอ้'
-'มาริโอ้' ไม่หึง 'จันจิ'
-'มาริโอ้' ถูกนำชื่อไปแอบอ้างระดมทุนทำครีม
-'มาริโอ้' ฮอตมากที่กัมพูชา