บันเทิง

ชีวิตงานและหัวใจของ 'ณเดชน์' ในวันนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ณเดชน์ คูกิมิยะ"  เผยปมควมคิดกับชีวิตในวันนี้ที่มีคนที่ใช่ข้างกาย 

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  เป็นพระเอกหนุ่มขวัญใจคนทั้งประเทศ สำหรับ “ณเดชน์ คูกิมิยะ" ที่ตอนนี้กำลังมีผลงานละครเรื่อง “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” ประกบคู่ “แมท” ภีรนีย์ คงไทย ซึ่งนำกลับมาทำใหม่ในเวอร์ชั่นไทย งานนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” สบโอกาสเหมาะได้มานั่งคุยกันชิลๆ ทั้งเรื่องอนาคตในวงการบันเทิง รวมทั้งแพลนชีวิตคู่กับ “ญาญ่า” อุรัสยา เสปอร์บันด์ ที่หลายคนกำลังฟินหนักกับหวานของทั้งคู่
 

    @@ ผลงานล่าสุด
    กับบทบาท “อชิระ” มนุษย์ต่างดาว ในละคร “ลิขิตรักข้ามดวงดาว”

    “เป็นเรื่องน่าสนใจที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา เพราะหนึ่งคือไม่ใช่มนุษย์โลกธรรมดา เป็นมนุษย์ต่างดาวที่อยู่บนโลกตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน เลยเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะมันมีระยะเวลาของตัวละครที่จะผ่านโลกผ่านอะไรมา ทุกๆ เรื่องมันก็ยากขึ้น เรื่องนี้ไปเวิร์กช็อปเกือบ 2 เดือน ได้เข้าไปเรียนกับคุณครู เพราะตอนนั้นที่เราเริ่มทำบทยังไม่เสร็จ บทค่อยๆ ทยอยลงมาเรื่อยๆ แล้วผมก็ไม่อยากจะไปดูเวอร์ชั่นเกาหลี เพราะกลัวไปติดแล้วก็ไปก๊อป ถ้าไม่ได้เท่าเขา เราก็จะมาเครียดตัวเองอีก เลยมาสร้างเป็นตัวละครตัวใหม่ที่ชื่อว่า อชิระ ขึ้นมา ก็เลยมองกลับไปว่าที่อยู่ดาวอยู่ดาวไหน ทำไมถึงต้องเดินทางมายังโลก อยู่บนดาวเป็นยังไง สังคมเป็นยังไง รับหน้าที่อะไร นิสัยใจคอเป็นยังไง เจอมนุษย์แล้วเป็นยังไง สิ่งมีชีวิตที่นี่เป็นยังไง มันเลยเป็นตัวละครที่เราเริ่มเข้าใจ มีชีวิตจริงๆ

 

        ต้องทำการบ้านอยู่ตลอดเวลา หนักใจมากกับการเป็นมนุษย์ต่างดาวทำยังไงจะได้เหมือน โชคดีที่ว่าสิ่งแวดล้อมคล้ายกันแต่ของเราพิเศษกว่าเท่านั้นเอง มันยากตรงที่ว่าเราเป็นคนมาตลอด ใช้ภาษากายค่อนข้างเยอะ เลยเอาคำว่านิ่งของพระเอกเกาหลีมาตีความต่อว่านิ่งยังไงที่จะเข้ากับตัวเราเอง เพราะด้วยภาษาพูดก็ไม่เหมือนกัน เอาเป็นว่าเราเริ่มจากการนิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ตอนที่มาอยู่บนโลก ผ่านมา 300 ปี คำว่า นิ่ง เปลี่ยนไป เพราะพฤติกรรมที่เราอยู่ในสังคม ถูกมนุษย์โลกกลืนกิน ฉะนั้นคำว่านิ่งของอชิระ ก็จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันตัวอชิระไม่ได้เก็บความรู้สึกตั้งแต่แรก แต่เป็นคนที่รู้สึกว่าใช้ความรู้สึกแล้วเป็นเรื่องไม่ปลอดภัย เป็นเรื่องอันตรายและเจ็บปวด เป็นเรื่องที่จะอิงกับพระพุทธศาสนา คือรู้สึกว่ามันไม่อยากอะไรกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนโลกนี่แล้ว ความรักก็ไม่อยากมี เพราะว่าเดี๋ยวก็สูญเสียอยู่ดี ประหนึ่งว่าเราเป็นอมตะไปแล้ว ตัวพี่ใหม่ (ภวัต ผู้กำกับ) ไม่ได้ห่วงอะไรมาก แต่พยายามอธิบายให้เห็นความเข้าใจของตัวละครแต่ละตัว ส่วนเรื่องอารมณ์ก็จะมีแนะนำด้วย อะไรที่ไม่ได้ พี่ใหม่จะคอยสอนตลอด”


    กระแสตอบรับในบท “อชิระ”
    “ดีนะ เพราะคนรู้สึกชอบอชิระ ก็ดีใจกับอชิระด้วย เพราะว่าคนก็คงชื่นชอบเวอร์ชั่นเกาหลีมากๆ อยู่แล้ว ก็ถือเป็นความโชคดีของผมด้วยที่คนยังให้โอกาสกับการทำรีเมกละครเกาหลีด้วย มันไม่ใช่การทำรีเมกละครไทย มันเป็นสิ่งที่พิเศษมากๆ”

 

    ความพิเศษของเรื่องนี้อีกอย่างคือไปฉายที่จีนพร้อมกับที่ไทย 
    “ถ้าถามว่ากดดันไหม ไม่กดดัน (ยิ้ม) จริงๆ ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะว่าละครเราได้ไปออนต่างประเทศ สำหรับผมมันเป็นโอกาสที่ดีที่คนจะได้รู้จักเรามากขึ้น แน่นอนมันทำให้ฐานแฟนคลับต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย หลังจาก ลิขิตรัก เดอะคลาวน์ปริ๊นเซส ออกไปก็มีมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้มากขึ้น”

 

 

ชีวิตงานและหัวใจของ 'ณเดชน์' ในวันนี้

 

 

    องค์ประกอบมาดี แต่ก็สะดุดตรงเรตติ้ง 
    “เอาจริงๆ ผมไม่รู้หรอก บางทีมันก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน แต่ว่าเราก็ไม่ได้อ้างอิงกับตัวเลขอย่างเดียวเสมอไป มันเป็นเรื่องยุคสมัยเปลี่ยน คนเสพสื่อในช่องทางต่างๆ เปลี่ยนไป สำหรับเรื่องธุรกิจ การตลาด เรตติ้งมีผลแน่นอน แต่เรื่องกระแสหรือว่าเรื่องของงาน สิ่งที่เกิดขึ้นผมว่าไม่มีผลกระทบมากสักเท่าไร กลับกลายเป็นว่าในอินเทอร์เน็ต ยังมีคนที่ชื่นชอบ พยายามจะบอกความรู้สึกของคนดูต่อๆ ไป ไม่ว่าจะชอบฉากนี้ ก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ จริงๆ ยังมีคนให้กำลังใจ รอดู มีคนชื่นชม ไม่ว่าจะตัวผมเอง แมทเอง ยังมีคนที่ชื่นชอบตัวละครลิขิตรักข้ามดวงดาว”

 

    แต่กลายเป็นละครที่เรตติ้งน้อยที่สุดของณเดชน์
    “ใช่ ถ้าถามว่าซีเรียสไหม ไม่รู้ดิ (ยิ้ม) ชีวิตผมก็ยังเป็นปกติ ไม่ได้มีกระตุกหรือสะดุดอะไร การเอาตัวเลขมาเป็นมาตรฐานเป็นเรื่องของฝ่ายธุรกิจ ศิลปะอันนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”

 

 

 

ชีวิตงานและหัวใจของ 'ณเดชน์' ในวันนี้

 

    @@ วงการบันเทิงของ ‘ณเดชน์’ 
    อยู่วงการบันเทิงมาพักใหญ่แล้ว วงการนี้สำหรับ “ณเดชน์” เป็นอย่างไร
    “หนึ่งคือ ให้เงิน ให้โอกาส ให้ได้เห็นทัศนียภาพเวลาไปต่างประเทศ ไปทำงานต่างจังหวัด ได้โอกาสที่จะไปทำสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นละคร หนัง คอนเสิร์ต งานฟุตบอล ช่อง อีเวนท์ มีประสบการณ์เกิดขึ้นตลอด มีคนที่ชื่นชอบเราคอยสนับสนุนเรา ซัพพอร์ตเรา ไม่ว่าเราจะทำผลงานออกมาดีถูกใจใครต่อใครมากน้อยแค่ไหนเขาก็ยังอยู่ข้างๆ เรา มันทำให้เราเป็นผู้นำครอบครัว เพราะว่าเราเป็นคนเดียวที่ดูแลคนทั้งบ้าน ฉะนั้นวงการบันเทิงให้อะไรเราเยอะมากๆ แล้วเราก็ไม่คิดว่าจะทิ้งเขาไปไหน เพราะว่าบุญคุณที่เขามีให้เรา”

 


    ลิมิตการของการทำงานตรงนี้ 
    “เคยกำหนด แต่ตอนนี้ไม่ได้กำหนดแล้ว เพราะรู้สึกว่าเราชื่นชอบแล้วก็มีฝีมือมีประสบการณ์ในทางนี้อยู่แล้ว การเริ่มต้นในทิศทางใหม่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีก็ได้ ไม่ดีก็ได้ แต่ที่แน่ๆ มีความเสี่ยงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือออกไปทำอะไรเป็นของตัวเอง หรือว่าจะย้ายออกจากช่อง 3 เอาจริงๆ ไม่มีความรู้สึกที่อยากจะทำแบบนั้น ตอนนี้แค่ทำในหน้าที่ที่มีก็พอ”

 

    อยากจะอยู่ตรงนี้เป็นดาวค้างฟ้าเลยไหม
    “ถึงขั้นจะเป็น ดาวค้างฟ้า ไหม คำนี้คงไม่มีในชีวิตผม แต่ว่าการที่อยู่ไปเรื่อยๆ แล้วปรับเปลี่ยนชีวิตตามสภาพของการเป็นนักแสดงในชีวิตผมว่าจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า”
    เคยมองการทำธุรกิจของตัวเองไหม
    “เคยคิดนะ ผมว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะมีธุรกิจ ประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จค่อยว่ากัน แต่ว่าอาชีพหลักคือนักแสดง เรื่องธุรกิจเป็นเรื่องที่น่าจะได้เกรด 1 แต่เรื่องนักแสดงอาจจะได้เกรด 4 เพราะฉะนั้นถ้าจะให้เลือกจริงๆ ทำธุรกิจทำได้ แต่ถ้าจะให้ทำแล้วเลิกเป็นนักแสดงไหมไม่เลิก เพราะว่าผมโตขึ้นมาก็เปลี่ยนบทบาทได้ ผมได้ทดลองในสิ่งที่ผมอยากจะทำ เพราะว่าการเป็นนักแสดงคำว่าพระเอกอาจจะเป็นข้อจำกัดส่วนหนึ่ง เมื่ออายุเปลี่ยนไปจะเล่นเป็นตัวร้าย ตัวรอง หรือว่าเป็นคุณพ่อ เป็นคุณลุง ผมว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกว่าเดิมอีก”

 

    สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับการเป็นณเดชน์ในวันนี้
    “เป็นห่วงเรื่องเวลาการทำงาน บางทีเจอคนหลายรูปแบบมาหาประโยชน์เยอะ เรื่องของคนเอาเปรียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งานเอาเปรียบ หรือว่าทุจริต เรื่องพวกนี้จะเป็นคุณแม่ที่เป็นห่วง คุณแม่ก็จะคอยระวังให้ตลอด"

 

ชีวิตงานและหัวใจของ 'ณเดชน์' ในวันนี้

 

 

ชีวิตงานและหัวใจของ 'ณเดชน์' ในวันนี้

 

 

 


    @@ รัก “ญาญ่า” ล้นใจ
    ความรักช่วงนี้ดูอิ่มเอมมาก
    “ก็ดีครับ ดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยวัยด้วยแหละ (ยิ้มกว้าง) เราก็ชัดเจนขึ้นมาก มีอะไรที่พร้อมมากขึ้น เราก็เลยรู้สึกเต็มที่กับมันได้จริงๆ ก็โตๆ กันแล้ว ก็พอมองเห็นอนาคต คงจะเป็นเรื่องที่ดีที่เราได้เอ็นจอยความสุขในช่วงเวลาที่เราอายุขนาดนี้แล้ว”


    พอแสดงออกได้ตามใจ ทำให้ตัวเราสบายใจขึ้นไหม 
    “แน่นอน สบายใจมากขึ้น รู้สึกว่าจริงๆ แล้วคนที่เรารู้สึกแบบคนนี้คือคนดีที่สุด คนที่ใช่ คนที่ไม่มีใครมากกว่านี้แล้ว”

     ณ วันนี้ยังอะไรที่ต้องปรับต้องจูนกันอีก
    “มีเรื่อยๆ แหละ คนเรามันต้องมีปัญหาเข้ามา ทั้งปัญหาเล็ก ปัญหาน้อย ต่างคนก็ต่างทำงาน ปัญหาส่วนตัวก็มี ปัญหาระหว่างกันก็มี แต่โชคดีที่ว่าเราเป็นคนที่ค่อยๆ แก้ไข เข้าใจกัน อาจเป็นเพราะเราเป็นนักแสดงเหมือนกัน เรื่องเวลาอาจจะเป็นปัญหาส่วนหนึ่ง เพราะต่างคนต่างถ่ายทำละครบ้าง มีงานบ้าง เวลาเจอกันถึงน้อย เพราะฉะนั้นเวลาเจอกันทั้งทีมันเป็นเหมือนของขวัญที่เราจะได้รับ คือวันหยุดวันหนึ่งได้ไปพักผ่อนไปเที่ยวต่างจังหวัด สำหรับผมคือการได้เจอเขาได้อยู่กับเขา”

 

    ส่วนใหญ่เวลามีปัญหาใครเป็นคนง้อ
    “ส่วนใหญ่ก็ผมนี่แหละคร้าบบบบ (หัวเราะ) ถ้าผมผิดผมก็ต้องง้อ ส่วนมากเขาไม่ได้ผิด (มองเห็นอนาคตเลยนะนี่) เนอะๆ (หัวเราะ)”

 

    เป็นสายทำบุญด้วยกันทั้งคู่ ศีลเสมอกัน
    “ฝากงานบุญเลยได้ไหม 27 ตุลาคมนี้ ผมกับน้องจะไปที่สกลนคร วัดดงสวรรค์ ไปสร้างศาลาปฏิบัติธรรม เป็นวัดที่พระอาจารย์ เจ้าอาวาสวัดที่พระธาตุพนมท่านแนะนำให้ไปทำที่นี่ก็เลยไป เป็นบุญกฐิน ทุกปีแม่จะพาทำบุญกฐิน บางสถานที่เราก็เลือกหลายๆ ปัจจัย ความลำบากของวัด ความต้องการของวัด แล้วก็การเดินทาง จริงๆ แฟนคลับของเราชอบเดินทางไปตลอดเวลา เพราะฉะนั้นอะไรที่ลำบากเกินไปเราก็เลือกที่จะไม่ไป เราจะทำในที่ที่เรารู้แล้วว่าคนในชุมชน คนในวัด เรารู้จักว่าเงินที่เราจะทำบุญไปจะถูกใช้อย่างบริสุทธิ์ สุจริต นั่นคือเกณฑ์ลำดับแรกที่เลือก”

 

    คนที่ใช่ ในวันที่ใช่ขนาดนี้ แพลนชีวิตคู่ไว้อย่างไร
    “มองไว้ทุกๆ อย่าง คือการที่เราจะมีชีวิตคู่กับใครคนหนึ่ง ถ้าใช่มันก็คือใช่ แต่การด่วนสรุปตัดสินใจไปแล้วสุดท้ายมันเกิดอะไรขึ้น มันเสียหายที่ผู้หญิง มันไม่ได้มีผลเฉพาะตัวคนสองคน มันมีผลต่อครอบครัวด้วย แล้วยิ่งเป็นนักแสดง ภาพลักษณ์ที่หลายๆ คนมอง สายตาจับจ้อง ติฉินนินทามันมีอยู่แล้ว อนาคตระหว่างน้องกับผมจะเป็นยังไง ผมไม่อยากพูดไป ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นหรือว่าจะเป็นไปแบบนั้นก็ขอให้มันเป็นไปแบบนั้น ในแบบที่มันเป็นเรื่องของคนสองคน คนสุดท้ายที่ตัดสินใจ เป็นคนเลือกที่จะทำมากกว่า”

 

    คุยกับ ญาญ่า เรื่องอนาคตไหม
    “คุย เหมือนพูดลอยๆ ฝันๆ ก็ยังไม่ใช่ว่ายืนยัน ส่วนตัวก็เคยมองเรื่องชีวิตคู่ไว้นะ สักอายุ 30 ปี แต่งงานตอนนี้ทุกอย่างมันไม่ต้องเอาอายุมากฎเกณฑ์ เป็นความรู้สึกมากกว่า เมื่อไรความรู้สึกมันใช่ อยากจะใช้ชีวิตกับคนนี้ สร้างครอบครัว ผมว่าอันนี้มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ยังไม่อยากกำหนดอะไรไป ครอบครัวก็ไม่ได้เร่งอะไร แต่พร้อมจะดูวันให้มากกว่า ดูฤกษ์ (ยิ้ม) จะเป็นแนวนั้นมากกว่า จะให้มากำหนดเป็นปีเป็นเดือน ไม่ใช่ ผมว่าทุกอย่างมันจะมีช่วงเวลาของมันเอง พอถึงตอนนั้นความรู้สึกมันจะพุ่งเข้ามาหาเราเอง”

    กองเชียร์คนรัก “ณเดชน์-ญาญ่า” ได้ยินแบบนี้ ยิ้มตามกันเลยทีเดียว 

 

 

 

 

 

ชีวิตงานและหัวใจของ 'ณเดชน์' ในวันนี้

 

 

 

ชีวิตงานและหัวใจของ 'ณเดชน์' ในวันนี้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ