ปิดโปรเจ็ค 'BTS สิงโต' ไร้เงา 'ปราชญา' ร่วมขบวน

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  จากโปรเจ็คอวยพรวันเกิดของนักแสดงหนุ่มวัยรุ่นชื่อดัง "สิงโต" ปราชญา เมื่อวันที่  28 ก.ค.  ในวัย 25 ปี ด้วยการขึ้นโฆษณาบนรถไฟฟ้า BTS ที่วิ่งทั่วกรุงเทพ  โดยล่าสุดรถไฟฟ้า BTS ขบวนดังกล่าวก็ครบกำหนดวิ่งไปแล้ว ซึ่ง "บันเทิง คมชัดลึก" ได้มีโอกาสคุยกับหนุ่มสิงโตถึงเรื่องนี้
 

    เล่าโมเม้นต์การเห็น BTS ที่มีรูปตัวเองติดอยู่ที่ขบวนให้ฟังหน่อย อารมณ์มันเป็นยังไง
    "เขิน ครับ (ลากเสียงยาว) จริงๆ หลายโปรเจคท์ที่ผ่านมาก็ยิ่งใหญ่อลังการมาทุกปีทุกปี ซึ่งก็เคยพูดคุยกับแฟนคลับไปแล้วว่าไม่ต้องทำให้มันใหญ่โตมากก็ได้ แค่เขาอยู่กับเราในช่วงวันเกิด แค่เขามาอวยพรเราก็ดีใจแล้ว"

 

    ตลอดการวิ่งของ BTS ขบวนที่เป็นรูปเราได้ไปขึ้นมาหรือยัง
    "ขึ้น BTS นะ แต่ไม่เจอขบวนที่เป็นรูปเรา เอาจริงตอนที่ขึ้น BTS ก็มีแอบเขินนิดหนึ่งว่าถ้าขบวนที่มีรูปเรามาจริงๆ จะทำตัวอย่างไงนะ ยืนลุ้นว่าถ้าสีชมพูมาแต่ไกลๆ จะยังไงดีนะ วันนั้นใส่เสื้อฮู้ดคิดในใจว่าหรือจะเอาฮู้ดขึ้นมาปิด แต่ก็คิดว่าถ้าปิดก็จะยิ่งทำให้คนสังเกตหรือเปล่า ก็คือยืนลุ้นอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ทำตัวยังไง ตอนนั้นมีแอบคิดนะว่าอยากลองขึ้นเหมือนกัน จะยืนรอขึ้น แต่ด้วยวันนั้นรีบมากเลยไม่ได้ขึ้น คือเราอยากสัมผัสในสิ่งที่ทุกคนทำให้เรา อยากลองขึ้นสักครั้ง แต่ไม่มีโอกาสเลย ต้องขอโทษด้วย และขอบคุณกับสิ่งที่ทำให้สิง"

 

    เมื่อปีที่แล้วเป็นรถเมล์ ปีนี้เป็น BTS ปีหน้าจะยังไงดี
    "ยังจะมีใหญ่กว่านี้อีกเหรอ (หัวเราะ) อย่างที่บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องทำอะไรใหญ่มาก เราได้มาทำอะไรเพื่อสังคม ได้มาอวยพรกันไม่ว่าจะพื้นที่ไหนๆ แค่นี้ก็ดีใจแล้ว ปีนี้เป็นอีกปีที่สิงมีความสุขมาก ขอบคุณทุกคนที่จริงๆ ขอบคุณที่ทำให้ปีนี้ของสิงเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่ง" 

 

 

 

 

 

 

    มีของขวัญให้ตัวเองไหม
    "ส่วนใหญ่สิงเป็นคนที่ไม่รู้จะซื้ออะไร จะให้ตัวเองแค่เรื่องของกินเท่านั้นเอง อย่างไปกินในร้านที่ไม่เคยกิน หรือไปในร้านที่ในวันปกติเราไม่กินเท่านั้น"

 

    ปีนี้พิเศษได้พาพ่อไปฉลองวันเกิดถึงฮ่องกงเลย
    "ใช่ คือทุกๆ ปีผมจะยึดวันเกิดเป็นวันครอบครัว อย่างตอนเช้าจะใช้เวลากับครอบครัวซะส่วนใหญ่ แต่ว่าคุณพ่อจะเข้าใจว่าเราก็จะมีสังคมเพื่อนเหมือนกัน พ่อก็จะบอกว่าเอาช่วงเช้าเป็นของครอบครัว ช่วงเย็นลูกจะไปในไปเลยเต็มที่ เพราะว่าพ่อคงไม่อยากที่ดึกๆ ดื่นๆ ต้องไปนั่งอยู่กับเรา กินดึกพ่อก็อ้วนอีก แต่ปีนี้ได้ไปต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง เพราะว่าคุณพ่อไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อนเลย ถือว่าเป็นการตะล่อม หลอกเนียนๆ ให้พ่อไปดูอยู่กับเรา และไปดูเราทำงานด้วย"

 

 

 

 

 

    ฟีดแบ็คพ่อเป็นไงบ้าง
    "ตอนพาพ่อเดินชมที่นั่น พ่อก็ชมนั่นชมนี่ คือก็ดีใจ และอีกอย่างคือพ่อได้เห็นในส่วนของการทำงานของเราว่าเป็นยังไง หรือว่าตอนที่เราไปทำงานที่ต่างประเทศ เราต้องทำะไร อยู่อย่างไงบ้าง เพราะที่ผ่านมาพอไม่ได้เห็น อาจมีคุยกันตลอด แต่เราอยากที่จะให้พ่อได้เห็น เพราะพ่อจะไม่ต้องห่วงมากด้วยแหละ แต่ไปทำงานครั้งต่อไป คงไปคนเดียว คงไม่ได้พาพ่อไปด้วยแล้ว เพราะเหมือนกับว่าเวลาเราไปทำงาน เรามีตารางานที่ค่อนข้างวางไว้ชัดเจนอยู่แล้ว อาจจะไม่ได้มีเวลาที่พาพ่อไปไหนมาไหนได้เยอะ เอาไว้ไปเที่ยวครั้งหน้าขอพาพ่อไปเองดีกว่า"

 

    อยากจะพาพ่อไปเที่ยวต่างประเทศในแบบที่ไม่ต้องทำงาน
    "ใช่ๆ คิดไว้ว่าจะไปจากใกล้ๆ ก่อนแล้วกัน จริงๆ อยากไล่จากในประเทศก่อนเลย อยากพาพ่อไปเกาะเต่า เกาะที่มันน้ำใสๆ แล้วค่อยขยับไปเรื่อยๆ นี่สิงก็พยายามตามหาดูรีวิวในเน็ต  เห็นที่สวยๆ ก็อยากจะพาพ่อไป ไปใกล้ๆ ก่อน เพราะว่าต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทาง กลัวพ่อเจ็บขา"