บันเทิง

51 ปี แห่งความหลัง"สุรพล สมบัติเจริญ"สตาร์ทอัพลูกทุ่งคนแรก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  คมเคียวคมปากกา  โดย... บรรณวัชร 

 

 


          Steve Blank บิดาแห่งสตาร์ทอัพ ให้คำนิยาม startup ว่า “สตาร์ทอัพคือกิจการที่ตั้งขึ้นเพื่อค้นหาโมเดลธุรกิจ (business model) ที่ทำซ้ำได้ (repeatable) และขยายตัวได้ (scalable)”


          ส่วนใหญ่ที่คนไทยรู้จักสตาร์ทอัพ ก็หมายถึงธุรกิจเดิมมาปรับเปลี่ยนเป็นแนวทางของสตาร์ทอัพ มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องของการขยายตัวและลดต้นทุน

 

 

          60 ปีที่แล้ว “สุรพล สมบัติเจริญ” น่าจะเป็นสตาร์ทอัพยุค 1.0 เพราะเขาไม่ได้แค่เป็นนักร้องลูกทุ่ง รับจ้างร้องเพลงให้ “นายทุน” ผู้เป็นเจ้าของวงดนตรี หากแต่เป็นเจ้าของธุรกิจวงดนตรีลูกทุ่ง

 

 

 

51 ปี แห่งความหลัง"สุรพล สมบัติเจริญ"สตาร์ทอัพลูกทุ่งคนแรก


          สุรพล สมบัติเจริญ เกิดมาในฐานะครอบครัวที่ค่อนข้างดี บิดารับราชการอยู่แผนกสรรพากรจังหวัดสุพรรณบุรี หลังมัธยมปีที่ 6 “พ่อเปลื้อง สมบัติเจริญ” ได้ส่งเขาเข้ามาเรียนต่อที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย จากนั้นก็ลาออกไปสมัครเป็นนักเรียนจ่าพยาบาล กรมแพทย์ทหารเรือ แต่โชคชะตา ทำให้สุรพลได้รับเรียกเข้ารับราชการประจำกองดุริยางค์ทหารอากาศ ซึ่งทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางธุรกิจวงดนตรีลูกทุ่ง


          ปี 2496 สุรพลยังไม่ได้ทำวงดนตรี เพราะอยู่ในช่วงไต่บันไดดาว ไปหานายห้าง “ต.เง็กชวน” เจ้าของแผ่นเสียงตรากระต่าย ย่านบางลำพู จึงได้บันทึกเสียงเพลงแรกคือ “น้ำตาลลาวเวียง” ตามมาด้วย “ชูชกสองกุมาร” 


          หลังจากนั้น ก็มีผลงานเพลงออกมาเรื่อยๆ จนทำให้เป็นที่รู้จักและโด่งดังเป็นอย่างมากจากเพลง “ลืมไม่ลง”


          ปี 2502 สุรพลได้เลื่อนยศเป็นจ่าอากาศเอก และได้ก่อตั้งวงดนตรี “สุรพล สมบัติเจริญ” ด้วยการขอเงินจากพ่อเปลื้อง สมบัติเจริญ มาเป็นทุนในการดำเนินธุรกิจวงดนตรีลูกทุ่ง

 

 

51 ปี แห่งความหลัง"สุรพล สมบัติเจริญ"สตาร์ทอัพลูกทุ่งคนแรก

 


          ทำไมวงดนตรีสุรพล สมบัติเจริญ จึงเป็นสตาร์ทอัพลูกทุ่งวงแรกของประเทศไทย

 



          ประการที่ 1 สุรพลใช้สื่อใหม่เมื่อ 60 ปีที่แล้วคือ “วิทยุกระจายเสียง” เผยแพร่ผลงานเพลง โดยการช่วยเหลือของทองแป๊ะ ศิลป์จารุ นำเพลงของสุรพลไปเปิดในสถานีวิทยุกระจายเสียงวรจักร


          ต่อมา สุรพลไปเช่าเวลาจัดรายการเพลงของวงสุรพล ทางสถานีวิทยุยานเกราะ และสถานีวิทยุ ปตอ. โดยตัวเขาไปจัดรายการเอง สร้างเครือข่าย “มิตรรักนักเพลง” ทั่วประเทศ 


          ประการที่ 2 สุรพลนำการแสดงละครเวที มาปรับใช้กับการแสดงหน้าเวที โดยหัวหน้าวงและนักร้องประจำวงจะออกมาเล่นละคร พร้อมกับร้องเพลงที่เกี่ยวเนื่องกับละคร โดยละครเพลงยอดนิยมของวงสุรพลคือ เรื่อง “น้ำตาเมียหลวง”


          สุรพลยังมีความเป็นนักเอนเตอร์เทน มีพรสวรรค์ในการพูดจาตรึงอารมณ์แฟนเพลง, การร้องเพลง, แสดงละครเพลง และเล่นตลก


          ประการที่ 3 วงดนตรีสุรพลเดินสายเล่นไปทั่วประเทศ แต่ก็มีเป้าหมายทางการตลาดชัดเจน ยกตัวอย่างเพลง “ดำเนินจ๋า” และ “หนึ่งในดำเนิน” สุรพลเจาะกลุ่มแม่ยกพ่อยก ที่มีฐานะปานกลางถึงมั่งคั่ง เนื่องจาก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ประกอบด้วยชาวสวน ขายผลไม้ มีเงินมีทอง ซื้อวิทยุ ซื้อเครื่องเล่นแผ่นเสียงได้


          ประการที่ 4 นักร้องประจำวงดนตรีสุรพล ส่วนใหญ่จะเป็นชาวเพชรบุรี, ราชบุรี และนครปฐม อาทิ ไพรวัลย์ ลูกเพชร, พนมไพร ลูกเพชร, กังวานไพร ลูกเพชร, ศรีไพร ลูกราชบุรี, แทน นครปฐม, มนต์ไพร ลูกราชบุรี ฯลฯ 


          มิตรรักแฟนเพลงของสุรพล กว่าร้อยละ 70 อยู่ใน 3 จังหวัดนี้ รวมถึงวัดวาอารามที่มีการจัดงานบุญมากที่สุด ก็อยู่ในละแวก 8 จังหวัดภาคตะวันตก


          ประการที่ 5 สุรพลไม่ได้ทำธุรกิจวงดนตรีอย่างเดียว ยังเปิดโรงงานผลิต “ธูปหอมสมบัติเจริญ” มอบให้ภรรยา ศรีนวล สมบัติเจริญ เป็นผู้ดูแลกิจการ โดยตัวเขาได้แต่งเพลงโฆษณาธูปหอมสมบัติเจริญ และนำมาเผยแพร่ทางรายการเพลงของวงสุรพลทางสถานีวิทยุ  


          สุรพล สมบัติเจริญ จึงไม่ใช่แค่นักร้องลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง หากแต่ยังเป็นนักธุรกิจที่ช่ำชองในการมองตลาดเพลง และเป็นนักบริหารจัดการที่ดี จึงให้วงสุรพลอยู่แถวหน้าของวงการลูกทุ่งสมัยโน้น


          ราชาลูกทุ่งแห่งเมืองสุพรรณจากไปแล้ว 51 ปี แต่ผลงานเพลงเขา ยังอยู่ในใจมิตรรักแฟนเพลงตลอดไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ