คอลัมน์... มายาประเทศ โดย... นิตี้ fb/nitylive
ไม่มีใครเห็นด้วยหรอก การที่คนคนหนึ่ง จะฝ่ายไหนก็ตาม กำลังเดินออกจากบ้านไปทำกิจธุระ แล้วถูกกลุ่มคนดักทำร้ายรุมตีจนบาดเจ็บหนัก และมิใช่ครั้งแรกถูกรุมทำร้ายป่าเถื่อน จึงกลายเป็นสิ่งที่ท้าทายความรู้สึกผู้คนในสังคมอย่างยิ่ง และกลายเป็นข่าวรายวัน ราวจะเป็นปรากฏการณ์ให้ได้ตระหนัก
ถึงแม้จะเป็นตัวป่วน ตัวล่อ ตัวปลุกเร้าเกมในยุทธการการเมืองชิงอำนาจ ทว่า “จ่านิว” ถือว่ากลายเป็นเหยื่ออันโอชะ ทั้งขั้วทักษิณ ขั้วแดงพันธุ์ใหม่ และขั้วประยุทธ์ ในการใช้เล่นสงครามข่าว ชิงไหวชิงพริบ และโจมตีกันและกัน
จากการสังเกตในทางการเมือง เราจะเห็นว่านักการเมืองทุกฝ่ายต่างพร่ำพูดตอบโต้โชว์โวหาร เพื่อโยนประเด็นให้ฝ่ายตรงข้าม เพื่อคะแนนนิยม และในทางโซเชียลต่างสาดโคลนใส่ร้าย แบบไม่สนว่าขั้วไหน เพราะการอวตารปกปิดตัวตนมาโพสต์สนุกในโลกออนไลน์
แต่ถ้าจับอารมณ์และความรู้สึกของทั่วไปในออฟไลน์และออนไลน์ คือรับไม่ได้ว่า “เจ้าหน้าที่รัฐ” ไม่สามารถสาวถึงต้นเหตุที่แท้จริงได้ ดั่งที่เห็นว่า “บิ๊กป.” ต้องรีบแก้ ตัดไฟเสียแต่ต้นลม หวั่นเป็นแพะ สถานการณ์ลุกลาม แต่ฝ่ายต่อต้านเล็งเห็นกระแสปลุกไฟม็อบ ด้วยการชุมนุมหน้า สตช.
ขณะที่ กระแสความเห็นใจเหยื่ออย่างจ่านิว เริ่มเพิ่มจำนวน “ตัวเลข” มากขึ้น จนมีกระแส 247.5 แม้ว่า “เอกชัย” ตัวล่อชนทหาร จะพูดตรงๆ ว่า ถูกทำร้าย-พรรคประณาม-ระดมเงินรักษา-กลับบ้าน... ประหนึ่งเป็นวงจรอุบาทว์
ยิ่งไปกว่านั้น คนไทยจำนวนไม่น้อยอยู่ใน “สังคมนิยมดราม่า” จึงอดคิดไม่ได้ว่า ใครได้ประโยชน์จากวงจรอุบาทว์นี้มากที่สุด ย่อมตกเป็นที่สงสัยว่าอยู่เบื้องหลัง แต่แน่นอน นี่มิใช่ครั้งสุดท้าย เพราะมีคนบางกลุ่มคิดว่าสมการสร้างความรุนแรงจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง หรือหวังผลทางการเมือง !!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง