บันเทิง

เรียนรู้ชีวิตแบบ 'เกรซ'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เวลาเปลี่ยนความคิด" เรียนรู้ชีวิตในวงการบันเทิงแบบฉบับของ "เกรซ" กาญจน์เกล้า 

         บันเทิง คมชัดลึก - เป็นนักแสดงสาวที่คร่ำหวอดในวงการบนเทิงมาตั้งแต่เด็ก สำหรับ “เกรซ” กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า นางเอกที่กำลังมีผลงานท้าทายความสามารถกับละครดราม่าสุดเข้มข้น “เรือมนุษย์” ทางช่อง 7 เอชดี ซึ่งกว่าจะก้าวมาเป็นนางเอกแถวหน้าของช่องได้ เกรซจะต้องผ่านบททดสอบอย่างมาก วันนี้  “บันเทิง คม ชัด ลึก” ได้พูดคุยและทำความรู้จักกับสาวคนนี้มากขึ้น 

 

 เรียนรู้ชีวิตแบบ 'เกรซ'

 

*** ผลงานปัจจุบัน ***

 

@@ ละครเรื่องเรือมนุษย์ 

         เรื่องนี้ค่อนข้างรับบทหนัก บทหนักในที่นี้คือเรื่องของคนอื่นจริงๆ ไม่ใช่เรื่องของเราเลย แต่เราต้องแก้ปัญหาให้พวกเขาตลอดเวลา ถือเป็นละครที่เบาๆ สบายๆ แต่กลายเป็นว่าหนัก ถือว่าเป็นอะไรที่ท้าทายความสามารถสำหรับบทนี้ เพราะเราต้องเป็นคนกลาง เพราะนิธิมาจะเข้าฉากกับทุกคนในเรื่อง  ใครจะไม่ถูกกับใครก็แล้วแต่ แต่นิธิมาเข้าหมด ไม่ว่าจะเป็นพี่นุช (นุสบา ปุณณกันต์) พี่หนุ่ม และพริมโรส คาริสา ก็ต้องเข้า แถมต้องพูดดีด้วยเป็นคนพาเขาไปฝากท้อง ต่างๆ นานา กับพี่แก้ว (อภิรดี) ก็ต้องดี คือต้องดีกับทุกคน ไม่ถึงกับเป็นนางเอกไม่สู้คนนะ สู้คน ปากจัดเหมือนกัน เดี๋ยวรอดูไปก็จะเห็นฉากด่ากับพี่นุชบ้าง อะไรบ้าง

@@ เข้าฉากกับนุสบาเยอะไหม

         เยอะ ทั้งเรื่องเข้าเยอะสุดเลย เรียกว่าเข้าเยอะกว่าพี่อ๋อม (อรรคพันธ์ นะมาตร์) อีก  กับพี่อ๋อมจะเป็นซีนประมาณ เรามาปวดหัวกันดีกว่า จะแก้ปัญหานี้อย่างไร แต่เราก็ทำอะไรกันไม่ได้ ก็ช่วยได้ประมาณหนึ่ง คือจะมีโมเมนต์สวีทๆ ก็โทรศัพท์บ้าง เกิดเรื่องคนโน้นคนนี้บ้าง เรียกว่าจับมือปุ๊บโทรศัพท์ดังบ้าง ออดหน้าบ้านดังบ้าง เรียกว่างานเข้าตลอด เรียกว่าไม่ค่อยสวีท ฉากหวานๆ ก็ยังมีให้เห็นแต่ไม่ค่อยเห็น เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาสังคม ไม่ใช่เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวแล้ว คือมันหน้าที่บทบาทชีวิตจริงของเราที่ต้องเจอปัญหาที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่เรามีส่วนเกี่ยวข้องและต้องรับผิดชอบในจุดๆ นั้นด้วย กับพี่นุชเคยเล่นละครด้วยกันเรื่องปีกมงกุฎ เล่นละครกับพี่นุชไม่ยากเลย เดาทางไม่ยาก เพราะเขาเป็นมืออาชีพอยู่แล้วเรื่องอารมณ์ไม่ต้องห่วง แต่เล่นกับพี่ตั๊ก (นภัสกรณ์ มิตรธีรโรจน์) ถึงจะยาก เพราะเวลาซ้อมเขาจะกั๊กไว้ เวลาเล่นจริงเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาแนวไหน และในเรื่องนิธิมาต้องกลัวคุณเดชตลอดก็จะต้องตัวเขียวกลับบ้านชอกช้ำตลอด 

 

 เรียนรู้ชีวิตแบบ 'เกรซ' (ละครเรื่องเรือมนุษย์)

 

@@ต้องปรับอะไรมากไหม 

         คือตัวเกรซจริงๆ จะไม่ค่อยไปยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่นิธิมาจะยุ่งเรื่องคนอื่น โดยที่เราจะได้รับมอบหมายให้จัดการในทุกๆ เรื่อง เป็นเหมือนกระโถนรองของที่บ้าน ใครมีอะไรก็มาระบายที่เราหมด ก็เลยรู้สึกว่าเหนื่อย ตอนแรกเห็นนักแสดงเยอะก็แอบดีใจว่าจะได้พักปรากฏว่าไม่ได้พักเลยจ้า แต่ก็ชอบนะเพราะเรื่องนี้เราได้เข้ากับนักแสดงค่อนข้างหลากหลาย มากฝีมือทุกรุ่นทุกวัย เราก็ค่อนข้างแฮปปี้ ที่สำคัญบทสนุกด้วยเป็นอะไรที่รู้สึกดี นักแสดงรุ่นใหญ่ก็อุ้มชูละครเรา เรตติ้งดี

@@นอกจากเรื่องนี้แล้วมีเรื่องอื่นอีกไหม

         ก็มีเรื่อง “สวยซ่อนคม” เรื่องนี้ก็ถ่ายเสร็จแล้วเหมือนกัน  เรื่องนี้ชื่ออาจจะเหมือนละครบู๊แต่ไม่บู๊เลย เป็นแนวดราม่า แนวกลับมาแก้แค้นของหญิงสาวที่ไปทำศัลยกรรมมาให้หน้าเหมือนลูกเจ้าของที่ตัวเองโดนไล่ออกมา รอออนแอร์ ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ออนแอร์กันเมื่อไหร่ แต่คาดว่าน่าจะได้ออนปีนี้ 

 

 เรียนรู้ชีวิตแบบ 'เกรซ'

 

*** ครอบครัวช่อง 7 ***

 

@@นักแสดงช่องดูเหมือนจะไหลไปไหลมา

         มันเป็นเรื่องปกติ เป็นวงจรเหมือนพวกพี่ทำงานกันนั่นแหละที่มีการย้ายไปย้ายมา นักแสดงก็เหมือนพนักงานออฟฟิศ ทำงานก็เป็นเรื่องปกติ ถามว่าช่องเราโดนจับตามากเป็นพิเศษไหม เกรซว่าเราก็โดนจับตาตลอดเวลาอยู่แล้ว คือมันแล้วแต่เส้นทางของแต่ละคนที่จะเลือกเดิน คิือเกรซมองเป็นสิทธิส่วนบุคคล เรามองกลางๆ นะ พอคนเราโตขึ้น เป้าหมายเราก็เปลี่ยนแปลง มีภาระที่มากขึ้น ก็จะมีอะไรที่ตอบโจทย์และไม่ตอบโจทย์ แน่นอนว่าการอยู่แบบมีสังกัดมันก็ดีอย่างหนึ่งเสียอย่างหนึ่ง ออกมาเป็นอิสระก็ดีอย่างหนึ่งเสียอย่างหนึ่งเป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมาเกรซเป็นเด็กในสังกัดมาโดยตลอด เราก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร เราก็ได้ทำงานด้านละครที่มาบ้างไม่มาบ้าง มีงานติดกันบ้าง ขาดบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว สำหรับเรื่องการย้ายค่ายนั้น โดยส่วนตัวเกรซว่าถ้าพวกเขาไม่ออกเราจะอยู่กันที่นี่หมดเลยก็คงไม่ใช่ เพราะเด็กรุ่นใหม่ๆ ไม่ต้องเกิดเหรอ ก็ต้องมีรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นมาด้วย ไม่อย่างนั้นรุ่นเก่าก็จะไม่มีงาน งานก็จะน้อย งานก็ต้องกระจาย ก็ต้องหมุนเวียนไปเป็นวัฏจักร เราก็มองเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ผู้บริหารช่องเป็นคนพูดกับหนูเองเลยว่า เราไม่สามารถรั้งนักแสดงทุกคนไว้ได้ หรือให้อยู่ในสังกัดเราได้ ไม่งั้นก็จะอยู่ตั้งแต่รุ่นสมัยที่เป็นแม่เป็นอะไรไปหมดแล้ว ให้มองเป็นวัฏจักรปกติกันเถอะ

@@ มีช่องอื่นมาจีบๆ บ้างไหม

         มีแต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่เขามองเห็นความสามารถมากกว่า ที่เราสามารถไปทำโน่นทำนี่ได้และเป็นอิสระ เขาก็อยากให้เราไปลองทำโน่นนี่ แต่เราติดสัญญาที่ช่องไง เรายังไปทำในส่วนนั้นไม่ได้ เพราะยังมีงานละคร มีงานคอมเม้นต์ ถามว่าช่องให้อิสระแค่ไหน ก็ต้องเป็นของช่องอย่างเดียว ส่วนอีเวนท์จะเป็นของเราดูเอง แต่ต้องไม่มีเอี่ยวกับค่ายไหน ทางช่องไหน คือเราก็ต้องให้เกียรติกันในส่วนนั้น ส่วนงานพรีเซ็นเตอร์ช่องก็ไม่ยุ่งนะ แต่ก็มีช่วยๆ ดูให้ ไม่ได้ปิดกั้นอะไร ก็ให้เรารับงานส่วนตัวเต็มที่ เราก็แฮปปี้กับตรงนี้ ถือว่าโอเค เกรซว่ามุมมองของแต่ละครก็เปลี่ยนผ่านกันไปตามอายุ และเราต้องตอบโจทย์ชีวิตของเรา ทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี เรามีความคิดของเราอย่างเมื่อก่อนเกรซเป็นคนที่ไม่ชอบเดินทางไปต่างประเทศเลย กับแฟนคนเก่านี่เข้ากันไม่ได้เพราะว่าเราไม่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่เดินทางไปเที่ยวด้วย แค่ทำงานก็เหนื่อยแล้ว พอได้พักก็อยากอยู่กับพ่อแม่บ้าง อยากอยู่กับเพื่อนบ้าง นอนตายในห้องบ้างอะไรบ้าง แต่ตอนนี้ไม่แล้ว คือตอนนี้เกรซให้ความเป็นส่วนตัวของตัวเองเยอะมาก คือในแต่ละเดือนเกรซจะล็อกเลยว่าจะต้องไปเที่ยวทริปหนึ่ง เราต้องไปผ่อนคลาย ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน เอาเป็นว่าล็อกวันเที่ยวไม่ล็อกวันทำงาน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยล็อก พอมารู้ตัวอีกทีก็อายุ 30 คือทำงานไม่ได้เที่ยวไหนเลย เที่ยวของเกรซไม่ได้ช็อปปิ้งนะ เที่ยวของเกรซคือไปดำน้ำ ไปภูเขา ไปดูโลกอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยทำ แต่เมื่อก่อนไม่เป็นเลย มันทำให้เราเข้ากับแฟนเก่าไม่ได้เพราะเราไม่เคยไปเที่ยวกับเขา ก็เลยไม่มีโมเมนต์อะไรดีๆ ซึ่งกันและกัน ก็เข้าใจได้ ที่พูดมาทั้งหมดก็แค่จะบอกว่าชีวิตคนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ เราอาจจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนที่เราไม่เคยคิดจะเปลี่ยน เราอาจจะทำอะไรในสิ่งที่เราไม่คิดจะทำ

 

 เรียนรู้ชีวิตแบบ 'เกรซ'

 

@@ มองอนาคตงานในวงการไว้อย่างไร

         เกรซเป็นคนเรื่อยๆ มากเลย ช่วงนี้เป็นช่วงที่จริงจังที่สุดแล้ว ด้วยความที่เราเข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก ตอนเข้าวงการมาเราไม่ค่อยเห็นคุณค่าสักเท่าไหร่ เพราะเราเข้าวงการมาง่ายมาก เราประกวดมิสทีนเราก็เข้าวงการมาได้แล้วและได้เป็นดารา ไม่เหมือนคนอื่นที่เขาทำแทบตายกว่าจะเป็นดารา กว่าจะได้เล่นละครสักเรื่อง อันนี้เขาให้ละครเรื่องแรกมาก็ปฏิเสธเพราะไม่อยากเล่น ไม่อยากเป็นดารา และรู้สึกว่าเราไม่ได้มาทางนักแสดงไง เราไม่ได้เป็นคนสวย เราแค่มีมงเฉยๆ แต่สุดท้ายเราก็ต้องทำ และก็ทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ร่วมกัน บังคับ ผลักดัน กับงานวงการ เกรซก็จะทำไปเรื่อยๆ ไม่ว่าเกรซจะแต่งงานหรืออนาคตจะเป็นอย่างไร เราก็จะทำงานในวงการไปเรื่อยๆ ต่อไปเกรซอาจจะทำงานพิธีกร อาจจะไปทำงานเบื้องหลังที่เกรซชอบ ส่วนงานแสดงก็ยังเป็นนะถ้าหากมีคนนึกถึง และคาแรกเตอร์ของเราเข้ากับบทๆ นั้น เราก็โอเค คิดว่าจะอยู่ในวงการบันเทิงไปตลอดไม่เคยคิดจะออก

 

*** ไลฟ์สไตล์ที่หลายคนไม่รู้***

 

@@ เวลาอยู่บ้านทำอะไรบ้าง

         ถ้าปกติก็จะฟังเพลง ถ้าว่างจริงๆ ก็จะหาจังหวะไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเลยทันที คือไปทำอะไรที่เราไม่ค่อยได้ทำ คือช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมาก็ได้ทำ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้โฟกัสกับงานละคร ได้ทำงานคอมเมนเตเตอร์ ได้ทำงานพิธีกรทั้งในสตูและออกข้างนอก คือ ที่นี่หมอชิต ตอนที่รายการยังอยู่ช่อง 7 เราก็มีโอกาสได้ไปทำ และได้ไปทำคอมเมนเตเตอร์จันทร์พันดาว และคมเมนเตเตอร์ร้องเล่นเต้นยกครัว และตอนนี้ก็สู้เพื่อฝัน เกรซค่อนข้างโชคดีที่ได้ทำงานหลากหลายแบบ ได้นำความรู้ที่เราไปเรียนมาตอนเด็กๆ มาใช้ในการเป็นคอมเมนเตเตอร์

 

 เรียนรู้ชีวิตแบบ 'เกรซ'

 

@@ ถามว่าชอบแบบไหนมากกว่า

         เกรซว่าเสน่ห์มันคนละแบบเรื่องแบบนี้ต้องไปด้วยกันนะ เกรซว่าการตอบโจทย์ของเกรซ คือคนอื่นอาจจะทำอันโน้นได้ดี ทำอันนี้ได้ดี แต่เกรซสามารถทำได้ทุกอย่ง เราแฮปปี้หมด คือเราไม่รู้หรอกว่าเขาจะแฮปปี้กับเราไหม แต่เราแฮปปี้หมด มีความสุขและยิ่งมีความสุขมากเมื่อมีคนบอกว่าเราร้องเพลงเพราะจังเลย ทำไมไม่ไปเป็นนักร้อง ก็เป็นกำลังใจให้เราในหน้าที่การทำงาน เพราะที่ผ่านมาเกรซเรียนเปียโนมาตั้งแต่ 3 ขวบ ชีวิตของเกรซคือดนตรี พอเราเข้าวงการเราทำงานเยอะ เราก็เลยต้องหยุดไป เพราะฉะนั้นชีวิตเกรซคือดนตรีมาตลอด ชีวิตเราพลิกเพราะประกวดมิสทีนก็เลยได้มาเล่นละคร ตลอดมาไม่ค่อยคิดเลยว่าตัวเองจะเป็นดารา ตอนเด็กๆ ชอบฟังเพลงก็คิดว่าตัวเองอยากจะเป็นนักร้องตลอดเวลา

@@ ช่วงนี้ดูชีวิตค่อนข้างลงตัว

         ก็ลงตัวประมาณหนึ่ง มันเหมือนเป็นช่วงที่ละครได้ออนแอร์ และได้กลับมาทำงานเบื้องหน้าให้คนหายคิดถึง เรื่องสัญญาตอนนี้เหลือไม่เยอะ ผู้ใหญ่ยังไม่เรียกคุย ต้องบอกก่อนว่านักแสดงอายุอย่างเกรซ 20 กว่า 30 เขาค่อนข้างจะให้อิสระในการตัดสินใจ เขาก็จะบอกว่าเราสามารถพูดคุยกันได้นะ เราจะไม่เหมือนสมัยก่อนอีกแล้ว เพราะว่าเราโตขึ้น เราทำอะไรได้มากขึ้น เรามีธุรกิจด้วย ทางช่องค่อนข้างเปิดโอกาส

 

 เรียนรู้ชีวิตแบบ 'เกรซ'

 

*** หัวใจมีคนดูแล***

 

@@ ความรักช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง 

         ความรักก็เรื่อยๆ ก็ปล่อยให้มันเป็นไป มีความสุขดีก็อยู่กับมัน และก็เป็นกำลังใจให้กัน กับคนนี้คบกันมาไม่ถึงปีเลย คือก่อนหน้านี้เราก็โสดมาพักใหญ่ ได้ใช้ชีวิตเต็มที่ ได้สำรวจตัวเอง ในหลายๆ ข้อ หลายๆ อย่างของเรา เป็นอะไรที่แฮปปี้ 

@@แบบไหนสบายตัวกว่ากันระหว่างเป็นโสดกับมีพันธะ

         เกรซว่าการมีแฟนก็มีคนดูแล โสดเราก็ต้องดูแลตัวเอง เกรซไม่ได้แฮปปี้กับการเที่ยวกลางคืนหรือปาร์ตี้ เกรซไม่ได้เป็นแนวนั้น เราจะเป็นแนวเที่ยวทะเล ไปโน่นไปนี่ก็อยากมีเพื่อนไปมากกว่า แต่เสน่ห์ของการเป็นโสดคือมันทำให้เราไม่จำเป็นต้องคิดหรือคำนึงถึงใครมาก พอมีแฟนแล้วก็ให้เกียรติ 

 

 เรียนรู้ชีวิตแบบ 'เกรซ'

 

@@แฟนคนนี้เจอกันได้อย่างไร 

         เป็นเพื่อนของเพื่อนที่ไม่เคยเจอกันเลย เพื่อนเป็นคนแนะนำให้รู้จักกัน เรียกว่าเป็นกามเทพก็ได้ ส่วนนิสัยใจคอของเขา คนนี้ค่อนข้างนุ่มนวลนุ่มนิ่ม เขาเป็นคนไม่เที่ยว ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ก็คิดอยู่ว่าคนแบบนี้จะยังมีอยู่ในโลกด้วยเหรอ แต่ก็ยังมีอยู่จริง เขาไม่ได้เนิร์ดนะ ปกติธรรมดานี่แหละ นิสัยค่อนข้างคล้ายและใกล้เคียงกับเกรซ และครอบครัวเขาก็ค่อนข้างน่ารัก เพื่อนก็น่ารัก พี่น้องก็น่ารัก เราก็เลยค่อนข้างแฮปปี้ เกรซว่าวันเวลามันจะกลั่นกรองคนที่ใช่เข้ามาใกล้เราเรื่อยๆ โดยที่สอนเราจากบทเรียน บางทีก็เป็นที่ตัวเองด้วย คนเราส่วนใหญ่จะเข้าข้างตัวเองว่าเป็นคนดี แต่บางทีเราอาจจะไม่ดีก็ได้ เราต้องเข้าใจเขาเข้าใจเรา พอเลิกกับคนหนึ่งมาก็ทำให้เราเห็นข้อบกพร่องของตนเอง เห็นข้อบกพร่องของเขา ว่าเราเข้ากันไม่ได้ เห็นกันคนละอย่าง ตัดสินใจกันคนละแบบ ก็เป็นเรื่องที่ดีที่เดินออกมาแล้วต่างคนต่างไปเจออะไรใหม่ ส่วนเกรซแฟนเก่าเราก็ยังคุยกับทุกคนนะ ยังเป็นกำลังใจให้กันอยู่เสมอ ไม่เคยเลิกกับแฟนแบบแย่ๆ 

@@ กับคนนี้ได้เจอครอบครัวหรือยัง

         ไปเจอมาแล้ว ก็ไปมาหาสู่กันปกติ คุณพ่อคุณแม่เขาก็น่ารักมาก ส่วนคุณพ่อคุณแม่ของเรา เราก็ไม่รู้ว่าไฟเขียวไหม แต่ดูแล้วน่าจะผ่านนะ เพราะเขาทำให้เกรซรู้สึกปลอดภัย รู้สึกหายห่วงเพราะเขาไม่เที่ยว เราก็ตัดความกังวลได้หลายอย่าง โดยส่วนตัวเราไม่ได้มีสเปกเพียงแต่ว่าเราแค่รู้สึกว่ายังมีคนอย่างเขาอยู่ด้วยเหรอ รู้สึกว่าเขาประหลาด เพื่อนๆ เราก็ชอบเพราะเขาเป็นสายขี้อายเพื่อนๆ เราก็ชอบแกล้งเขา เพราะเราก็ยังเจอเพื่อนๆ ตลอด 

 

 เรียนรู้ชีวิตแบบ 'เกรซ'

 

@@ เรียกว่าชีวิตช่วงนี้แฮปปี้ 

         โอเคนะ กำลังดีเลย เรื่องความรักกำลังดี อย่าไปคาดหวังมาก ไม่อยากเปิดตัวแรง ไม่อยากอะไรมาก เพราะถ้าวันหนึ่งมันไม่ใช่ขึ้นมาให้มันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปดีกว่า เรื่องความรักเราไม่ได้ปิด แต่ก็ไม่ได้เปิด ใครถามมาก็บอกใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้หลบๆ ซ่อนๆ เราก็ไปห้างกินข้าว ดูหนังกันปกติเลย ถามว่าลำบากใจไหมเวลาใครถามเรื่องแฟน ไม่นะ เพราะเรารู้สึกว่าใครๆ ก็อยากรู้เรื่องของเรามากว่าเรื่องงานด้วยมั้ง เพราะเรื่องงานเขาก็ดูจากผลงานของเรา แต่เรื่องส่วนตัวไม่มีใครรู้ไง เขาก็คงอยากรู้กันว่าอะไรยังไง เป็นเรื่องปกติที่เขาคงอยากรู้เรื่องราวของเราอยู่แล้ว เราก็ยินดีที่จะแชร์ไม่มีปัญหาเลย  กับชีวิตครอบครัวเป็นคนไม่เคยตั้งเป้าอะไรเลย เกรซว่าชีวิตจะกำหนดเส้นทางของมันเอง ตอนนี้ขอทำงานให้เต็มที่ก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน 2-3 ปีนี้ ขอทำงานก่อน ก่อนจะคิดเรื่องอะไรขอคิดเรื่องงานก่อนและขออยู่กับครอบครัวมากๆ 

         และนี่คือชีวิตในวงการบันเทิงแบบฉบับของ “เกรซ” กาญจน์เกล้า 

เรื่อง เสาวลักษณ์ ปึงทมวัฒนากูล

ภาพ วันชัย ไกรศรขจิต

 

 เรียนรู้ชีวิตแบบ 'เกรซ'

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ