
'ญาญ่า' ยอมรับพากย์เสียงเข้าฉากคู่ "มี๊-พิศมัย'
"ญาญ่า" ยิ้มแก้มปริละคร กลิ่นกาสะลอง กระแสดี ยอมรับพากย์เสียงเข้าฉากคู่ "มี๊" พิศมัย วิไลศักดิ์ ลั่นบังคับ "ณเดชน์" คูกิมิยะ ให้ดูด้วย
ทีมบันเทิง คมชัดลึก-เปิดตัวได้ 2 ตอน ละคร กลิ่นกาสะลอง ก็ได้กระแสตอบรับที่ดี แต่ในเรื่องดีๆ ก็มีคนจับผิดว่าฉาก "ญาญ่า" คุยกับ "มี๊" พิศมัย ทำไมต้องพากย์เสียง ซึ่ง สาวญาญ่า ได้ชี้แจงเรื่องนี้ในงานประกาศรางวัล ดาราเดลี่ อวอร์ดส ว่า
กระแสละคร กลิ่นกาสะลอง ดีมาก?
“ดีใจมากเพราะต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เหนื่อยที่สุดเท่าที่เคยเหนื่อยมาค่ะสำหรับการทำงาน โล่งอกมากๆ ดีใจที่คนดูแล้วแยกทั้งสี่คาแรกเตอร์ได้อย่างชัดเจน”
ฉากจะโดนข่มขืนเห็นว่าเล่นเอง?
“เล่นเองเป็นบางส่วนค่ะ ส่วนที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้านั่นไม่ใช่หนู แต่เป็นสตั๊นค่ะ”
เหนื่อยมั้ยกับการเล่นสี่คาแรกเตอร์?
“ก็เหนื่อยนะคะ ตัวร้ายเหนื่อยสุด แรงเยอะทุกอย่างต้องเป็นดั่งใจ หลังออกอากาศไปสองตอน เช็คฟีดแบ๊กแล้วดีนะคะ มีแต่คนบอกว่ากินแกงหอยแล้วไปนอนเถอะ อันนี้หนูพูดแบบสุภาพค่ะ(หัวเราะ)”
ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ด้วย?
“ใช่ค่ะ ดีใจมากๆ ไม่อยากจะบอกเลยว่าอาทิตย์หน้าสนุกกว่านี้อีก จะมีเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้นเข้าพาร์ตอดีต”
ณเดชน์ก็เชียร์ให้คนมาดูละครญาญ่าเยอะๆ?
“ขอบคุณค่ะ ก็บังคับให้พี่แบร์ดูเหมือนกันค่ะ เขาก็ชอบนะคะ เขาบอกว่าอย่าเอาสี่คาแรกเตอร์นี้กลับบ้านนะ”
เขาบอกว่าชอบกาสะลอง แต่เกลียดซ้องปีบ?
“เขาบอกว่าเกลียดซ้องปีบเลยหรอ หนูเชื่อว่ามีหลายคนที่จะต้องเกลียดซ้องปีบค่ะ หลังจากนี้จะเกลียดมากกว่านี้ อย่างที่หนูเขียนในไอจีว่าอันนี้คือวัยใสๆ คืออาทิตย์หน้ากำลังจะเริ่มต้นเอาจริงเอาจัง เจอผู้ชายแล้ว”
มีคนจับผิดฉากที่เราคุยกับ มี๊ พิศมัย ว่าเป็นการพากย์เสียงหรือเปล่า?
“ใช่ค่ะ อันนั้นพากย์เสียงเพราะว่าตอนแรกๆ เราใช้สำเนียงเชียงราย ซึ่งฟังยากนิดนึงก็เลยเปลี่ยนเป็นเชียงใหม่ ซึ่งถ่ายไปแล้วประมาณ 4-5 คิว ก็เลยต้องไปทับเสียง ไม่งั้นคนดูจะงงว่าอ้าว ทำไมคำนี้พูดไม่เหมือนฉากที่แล้ว ก็เลยต้องไปลงเสียงใหม่มีหลายฉากอยู่ค่ะ”
สันต์ ศรีแก้วหล่อ โพสต์ชื่นชมการแสดงของเราด้วย?
“จริงๆ หนูต้องขอบคุณพี่สันต์มากๆเลยค่ะ พี่สันต์ช่วยให้หนูทำทุกคาแรกเตอร์ให้มันชัดด้วย ถ้าไม่มีพี่สันต์หนูก็ไม่สามารถทำได้ขนาดนั้นแน่นอนค่ะ”
มีคนถามถึงชื่อ พริมพี่ ในละครมีที่มายังไง?
“พริมพี่ ชื่อเล่นเขาค่ะ ชื่อจริงพิมพ์พิศา พริมพี่ฟังแล้วอยากจะตบมันเลย (หัวเราะ) พริมพี่เป็นตัวละครที่เป็นซ้องปีบเกิดใหม่ ต้องการให้คนไม่รักเพราะว่าเขาต้องได้รับกรรมนี้ที่ยังไงคนก็รักเขาไม่ได้ ชื่อเขาก็น่ารำคาญนะคะ”
การไปทำบุญที่พม่า มีส่วนทำให้ประสบความสำเร็จไหม?
“ก็ในระดับหนึ่งค่ะ จริงๆพยายามไปทุกครั้งที่ละครออนแอร์ แต่ว่าครั้งนี้หนูซีเรียสว่าต้องไปเพราะอยากจะไปทำบุญให้กับตัวละครเพราะเล่นสี่ตัว เป็นครั้งแรกที่จะต้องเล่นแล้วตาย ก็เลยอยากจะไปทำบุญให้ตัวละคร มันเป็นอะไรที่ติดในใจว่าอยากจะไปทำค่ะ”
ตอนเล่นไม่ได้ติดไปจนเป็นไบโพล่าร์ใช่ไหม?
“ก็นิดนึงค่ะ มันต้องปรับเร็วมากๆ เดี๋ยวดีแล้วอยู่ดีๆก็ร้าย ในกองก็จะเข้าใจกันว่าถ้าหนูนั่งนิ่งๆไม่คุยกับใครแสดงว่ารอเพื่อเข้าบทเป็นซ้องปีบ”
กลัวคนเข้าใจผิดไหมว่าละครของเรามา ในขณะที่เพลิงพรางเทียนยังออนอยู่ เพราะบางฉากใช้ฉากสถานที่เดียวกัน?
“ก็มีบางฉากที่สถานที่เดียวกันค่ะ ด้วยความที่เพลิงพรางเทียนเป็นเหนือเหมือนกันแต่คนละยุคสมัย เรื่องราวก็จะบ้านๆหน่อย ก็ซ้ำกันจริงๆค่ะ”