'ทอม'  ไม่ได้โกรธหากยังมีนามสกุล 'ROOM39' ตามหลัง | คมชัดลึก

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  หลังจากวงแตกแยกวงกันไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั้งตอนนี้ 2 ศิลปินจากวง "Room 39 (รูม39)" อย่าง "แว่นใหญ่ (โอ)" และ "มน" ต่างออกเพลงใหม่ในฐานะศิลปินเดี่ยวออกมาแล้ว เหลือเพียง "ทอม" อิศรา เท่านั้น ที่แยกออกมาเป็นอิสระและยังไม่มีผลงานเพลง ล่าสุดเจอหนุ่มทอมในงาน ไวตามิ้ลค์ จับมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ #ทีมเที่ยวไทย ณ ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน จึงถามถึงเรื่องนี้
    

 

    จะกลับมาจับไมค์ในฐานะศิลปินเมื่อไหร่
    “ต้องรอติดตามครับ ผมเองก็ยังไม่ได้ทิ้งตรงนี้ไป ที่เราไปทำอย่างอื่น บางทีมันก็เป็นโอกาสที่บางครั้งในชีวิตนึงเราก็อยากจะทำอะไรหลายๆอย่าง อยากลองดูว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง อยากออกมาจากเซฟโซนบ้าง แต่ยังไงเราก็ไม่ลืมการเป็นศิลปินของเรา เรายังคิดถึงการร้องเพลงตอนกลางคืนตามร้านอยู่ การเจอผู้ฟังที่อยากฟังเราร้องเพลง เราโชคดีที่ยังได้เป็นพรีเซนเตอร์ พร่วงกับการทำเพลงได้ด้วยบ้าง ยังได้ร้องเพลง ได้แต่งเพลงไปกับแคมเปญ ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเรา”
  

 

    หลังจากที่เป็นอิสระก็ยังไม่ได้ไปทำเพลงเลย
    “ยังอิสระอยู่ ไม่ได้อยู่กับค่ายไหน แต่ก็ทำเพลงอยู่เรื่อยๆ ก็มีคนติดต่อมานะครับ แต่เราก็เรื่อยๆของเรา”
  

    อยากจะเป็นศิลปินที่มีสังกัดมั้ย
    “เรื่อยๆเลยครับ คือตอนนี้ยังไม่มีแพลนที่จะอยากไปอยู่กับค่ายไหน หรือว่ามีดิลที่รู้สึกว่าเราจะต้องไปเป็นศิลปินกับค่ายนี้ ยังไม่มีอะไรตรงนั้น ค่ายอื่นก็มีมาคุยกันบ้างเรื่อยๆ จริงๆแล้วในวงการศิลปินเราก็จะรู้จักผู้ใหญ่ พี่ศิลปินหลายๆค่ายอยู่แล้ว มันสามารถทำงานร่วมกันได้หมดแหละ ไม่จำเป็นจะต้องไปอยู่ใต้ร่มเงาของค่ายใดค่ายหนึ่ง”
  

 

 

 

 

    หลังจากที่ออกมาอยู่คนเดียวมันเปลี่ยนไปเยอะไหมสำหรับเรา
    “มันมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปแน่นอน แต่เราโตแล้ว เราก็รับมือกับการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ได้ มันไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอะไรเลย”

 

    ตอนนี้อยากให้คนเรียก "ทอม รูม 39" หรือ "ทอม" อิศรา มากกว่ากัน
    “ให้เรียกทอม อิศราก็ได้ แต่ผมก็ไม่ได้อะไรถ้าคนจะเรียกทอม รูม 39 เพราะผมไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด รูม39 มันไม่ได้เป็นคำหยาบอะไรสำหรับผมกับการมีนามสกุลว่ารูม 39 เพราะสุดท้ายเมื่อย้อนกลับไปดูผมก็ยังภูมิใจกับงานที่เคยอยู่บนยูทูบอยู่ มันก็เป็นเพลงที่ดี ที่คนก็ยังนิยมอยู่ เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันจะเป็นอะไร ตอนนี้ผมเองก็ยังร้องเพลง room 39 อยู่”

 

 

 

 

    เป็นการซื้อลิขสิทธิ์
    “เป็นการคุยกับทางค่าย พี่โอ พี่มน ก่อนจะคุยเราก็ถามเขานะว่าเราควรจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ?ให้ถูกต้องไหม ค่ายก็บอกว่าคุยกันไปตามกระบวนการของทางค่ายที่คุยกัน"
    คือเรายังมีสิทธิ์ใช้เพลงรูม 39 ได้อยู่ในสถานะเดียวกับโอ-มน
    “ต้องบอกว่าผลงานหลายๆอันก็เป็นผลงานที่พี่โอเขียนแต่เพียงผู้เดียว บางงานก็มีทำนองที่ช่วยกันเขียนร่วมกันทำร่วมกันแต่ง มันอยู่ที่การพูดคุยกันมากกว่า เพราะสุดท้ายแล้วเราก็คือเพื่อนกัน เราไม่ใช่คนที่ไม่ได้ผลประโยชน์แล้วเราจะมาหักกัน หรือว่าตอนนี้จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว”

 

 

    พอไม่มีเรื่องผลประโยชน์เรามามันเลยทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
    “รู้สึกโอเค ที่ถึงแม้จะยังไงก็แล้วแต่เราก็ยังคุยกันได้ ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนถืออะไร ถ้าต้องจ่ายผมก็จ่าย ไม่ได้ติดอะไร ศิลปินถ้าจะต้องไปร้องเพลงที่ใดที่หนึ่ง ก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ เราไม่ได้งอแงว่าเราจะไม่จ่าย”

 

 

 

 

 

 

 

 

    เขาทำซิงเกิลกันแล้วเราจะมีทำบ้างไหม?
    “ก็ดูๆครับ ผมเป็นคนเรื่อยๆชิลๆ มันก็ค่อยๆเดินตามไทม์ไลน์ของมันไปเรื่อยๆ ก็ได้ฟังเพลงเขานะ เขาก็เป็นเขา ทุกคนก็จะรู้สึกว่าเนี่ยรูม39 ที่ทุกคนเคยได้ยินก็คือพี่แว่นใหญ่ เพลงหลายๆเพลงพี่โอเขาก็เป็นคนเขียน”
    คนจับผิดว่าไม่มีทอม รูม39 ก็ยังอยู่ได้ ยอดวิวหลายล้านเลย?
    “ใช่ มันคือลายเซ็นเขา การที่อยู่ร่วมกันหรืออยู่แยกกัน ความจริงแล้วมันไม่ควรเป็นประเด็นเลยเพราะสุดท้ายแล้วจริงๆเขาอยู่ตรงนี้เขาก็เป็นตัวเองได้มากขึ้นด้วย ไม่ต้องมานั่งแชร์กัน สิ่งที่เขาทำได้ดีผมเห็นตั้งหลายอย่าง แต่งเพลง เป็นผู้บริหารค่ายย่อย ซึ่งผมเองไม่มีความสามารถในการไปรับผิดชอบขนาดนั้นได้”

 

    ยังคุยกันอยู่ไหมกับโอ-มน?
    “ก็คุยกันบ้างตามโอกาส ถ้าจะต้องใช้เพลงนี้เอาไปออกงานก็คุยกัน เจอกันก็คุยกันได้ ไม่มีปัญหาอะไร”
    เอาเพลงมาร้องได้กี่เพลง?
    “เราไม่ได้คุยว่าเอามาร้องได้กี่เพลงแล้วแต่โอกาสมากกว่า”