'วู้ดดี้-โอ๊ต' อยากมีลูก แต่ต้องให้กฎหมาย LGBT ผ่านก่อน

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-ก่อนหน้านี้พิธีกรมากความสามารถ "วู้ดดี้" วุฒิธร เคยบอกว่าอยากมีลูก ล่าสุดควงหวานอย่าง "โอ๊ต" อัครพล มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว FIT FEST 2019 ณ ลานอีเดน ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ อัพเดทเรื่องนี้ให้ฟังว่า

ช่วงนี้ช่วยกันทำงานขยันทำมาหากินด้วยกัน?
   วู้ดดี้ : “ตอนนี้ก็เป็นลูกของเขาแล้ว Fit Fest ตอนที่ดึงเขากลับมาจากเมืองนอก ก็บอกเขาว่าอยากทำอีเว้นต์สาย Fit แต่เราทำหลายอย่างอาจไม่มีเวลา ยูกลับมาช่วยหน่อยได้มั้ย ตอนนั้นเขาก็บอกว่าโอเค แต่เขาไม่เคยเข้าใจเลยว่าวงการนี้เป็นยังไง การจัดงานเป็นยังไง หรือแม้กระทั้งวันนี้ที่เราปั้นจักรยานด้วยกัน เขายังตื่นเต้นอยู่เลย”
   โอ๊ต : “เขาก็บอกว่าให้เราเริ่มจากสิ่งที่เราชอบที่เรารักก่อน เราชอบเรื่องออกกำลังกาย ชแบมานานแล้วแหละเรื่องของการออกกำลังกาย(วู้ดดี้เช็ดเหงื่อให้) “
   วู้ดดี้ : “ เหงื่อมันเยอะเช็ดหน่อย(ยิ้ม) ก็เวลาออกสื่อเขาชอบบอกทำไมยูไม่เช็ดเหงื่อให้ไอ”

วู้ดดี้จีบมาทำงานด้วยยากมั้ย?
   โอ๊ต : “ยากหน่อยก็ได้เนอะ(หัวเราะ) แต่ก็ดีใจที่ได้กลับมา เราไปอยู่ต่างประเทศเราก็ได้เรียนรู้การทำงานหลายอย่าง แต่ลึกๆแล้วเราก็อยากกลับมาอยู่เมืองไทย อยากมาทำในสิ่งที่เรารัก ก็เริ่มจากอีเว้นต์ก่อน แล้วเราเริ่มเรียนรู้มาเรื่อยๆว่าเราจะทำคอนเทนต์ยังไง เวลาจะส่งแมสเสจให้ลูกค้าจะพูดถึงต่อยังไง ก็เลยทำผ่านรายการเล็กๆที่เราทำขึ้นมามันก็เลยเป็นที่มาของในวันนี้ มีทั้งรายการ การแข่งขัน มีกิจกรรมที่นอกเหนือจากกิจกรรมรายปีที่มาปีละครั้ง มันมาจากความรู้สึกที่ว่าการออกกำลังกายไม่ใช่แค่ปีละครั้ง เราให้แรงบันดาลใจคนแล้ว เราจะทำยังไงให้มันมีกิจกรรมออกมาเรื่อยๆตลอดทั้งปี”
   วู้ดดี้ : “จริงๆตอนนั้นสุขภาพเราก็ไม่ค่อยโอเค สมัยก่อนตอนคบกันก็ชวนกันพัง เราพอวันนึงคบกันไป 5-6 ปี แล้วก็คิดว่าเฮ้ย ถ้าเกิดเขาไปมองคนอื่นที่มีซิคแพค หุ่นดีกว่าเราจะทำยังไง เราก็เริ่มเข้ายิม และเริ่มเข้าเป็นประจำ ตอนนั้นโอ๊ตอยู่สิงคโปร์ เพื่อนก็มาบอกยูรู้มั้ยตอนนี้เขาเข้ายิมทุกวันเลย เราช็อค คิดไปว่าเฮ้ยมีใครมาจีบเขาหรือเปล่านะ  ตอนนั้นหึงมากเลย เราก็ฟิตร่างกาย ขึ้นปก Men health จำได้ ที่ไปขึ้นเพราะเราอยากให้เขารู้สึกว่าเรายัง แต่พอทำจนชิน จนติด เราก็เห็นว่าเมื่อเราดูแลสุขภาพแล้วเราแฮปปี้ เราไม่ทะเลาะกัน ไม่หงุดหงิด มีพลังตลอดเวลาในการด้วยกัน เลยคิดว่าต่อจากนี้ใครที่เข้ามาในชีวิตก็จะโน้มน้าวแล้ว แม่ เพื่อน พ่อมาออกกำลังกายกันดีกว่า”
   โอ๊ต : “มันเป็นกิจกรรมที่ทำให้สารเอนโดรฟินหลั่ง ทุกอย่างมันจะดี เราจะใจเย็น คิดอะไรออก”
   วู้ดดี้ : “แล้วเราก็คุยงานกันบนเตียง เราเจอบนเตียงที่อื่นไม่เจอกัน แต่ไม่ได้อะไรอย่างนั้น แค่หันหน้าคุยกันแล้วเขาถามว่าการที่เราจะต้องมานั่งทำอีเว้นต์แบบนี้ ต้องทำยังไงผมก็ค่อยๆ สอนเขาตอนกลางคืน ตอนเช้าก็แยกกัน ต่างคนต่างทำงานกัน เขาก็ได้เรียนรู้ นี่ผ่านมาจะ 3 ปีแล้ว ก็ถือว่าเขาก็สอบผ่าน ปีหน้าก็ลุยเดี่ยวได้เลย”

มีทะเลาะขัดแย้งกันบ้างมั้ยเรื่องงาน?
   โอ๊ต : “มีบ้างครับ เป็นธรรมดา แต่สุดท้ายความขัดแย้งมันก็มีทางออกเป็นไอเดียใหม่ๆ ที่ทำให้ดีขึ้น เราก็หาทางออก ไม่ใช่ขัดแย้งแล้วปล่อยไว้”
   วู้ดดี้ : “เมื่อคืนนี้ที่คุยกันเรื่องงานวันนี้ก็ยังมีอารมณ์เริ่มร้อนแล้ว ผมก็บอกยูเดี๋ยวไอไปอาบน้ำก่อน ค่อยมาคุยกันใหม่ เขาก็ไปกินข้าว พอมาคุยกันใหม่ก็กอดกัน ยิ้ม ก็เลยค้นพบว่าความสัมพันธ์ของเรา ถ้ามันร้อนปุ๊บจะส่งซิกเลยว่า คุณไปนั่นนะ เราไปนี่นะ ก็เป็นอันรู้กันว่าเราพักก้อน ไม่งั้นทะเลาะกันแย่เลย เป็นทุกวันกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ต้องบริหารให้ได้ วันนี้ก็ยังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์แล้วมันก็คงจะไม่มีวัน 100เปอร์เซ็นต์”
   โอ๊ต : “ก็คงเป็นปกติของคู่มนุษย์”

แล้วเรื่องน้องที่เคยบอกว่าอยากจะมีล่ะ?
   วู้ดดี้ : “ยังศึกษากันอยู่ เอาตรงๆโอ๊ตก็ยัง... ยูพูดเองมั้ย...”
   โอ๊ต : “เราก็คิดเรื่องนี้มานาน แต่กลัวว่าเราจะอายุเยอะไปหรือเปล่า เราจะเลี้ยงดูลูกเหมือนพ่อแม่เราเลี้ยงได้หรือเปล่า เราก็ยังมีข้อกังวล ก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ”
   วู้ดดี้ : “ผมมีหน้าที่เอาคนที่มีลูกอุ้มบุญ คู่รักเพศเดียวกันมาให้โอ๊ตดูเป็นตัวอย่าง เห็นป่ะว่าเขาก็ทำได้ ผมมีหน้าที่เหมือนเป็นเซลล์อยู่ตอนนี้ คนถามว่าเด็กจะอบอุ่นไหม ผมเลยบอกว่าถ้าอยู่บ้านเราแล้วไม่อบอุ่นก็ไม่รู้จะพูดไงแล้วนะ หลายคนถามว่าเด็กจะอบอุ่นมั้ย ผมบอกเลยว่าถ้าอยู่ในบ้านเราแล้วไม่อบอุ่นก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วนะ มีป้าแมร์ พ่อโอ๊ต น้าเบเบ้ มันมีแต่พลังบวก แล้วการที่ผู้ใหญ่บอกว่าจะได้รับความรักมั้ย ผมคิดว่าจะมีความรักอย่างเต็มที่ สองโตมาในสังคมไทยจะไหวมั้ย ผมคิดว่าเด็กในยุคปัจจุบัน เขาไม่ได้คิดอะไรแล้ว ล่าสุดหลานผมโดนสัมภาษณ์โดยแม่เขา ถามเขาว่ารู้มั้ยว่า ลุงโอ๊ตกับลุงวู้ดดี้เป็นอะไรกัน เด็ก 4-5 ขวบตอบว่า ก็เป็นแฟนกันไงครับ แม่ก็อ้าว...หมายความว่าอะไร  เด็กก็ตอบว่า เขารักกันไม่ใช่หรอ ก็เป็นแฟนกันสิ แปลว่าเด็กคนนี้ยังไม่เจอสังคมที่บอกว่า การที่เคยเพศเดียวกันมาอยู่ด้วยกันเป็นสิ่งที่ผิด ผมว่าความรักเป็นเรื่องสวยงาม เพียงแต่เราโตมาในสื่อสังคมที่บอกกันว่านี่คืแคนเหล่านี้ที่ไม่โอเค แต่ความจริงคือทุกอย่างมันโอเค ผมก็ยังโน้มน้าวโอ๊ตต่อไป ไอให้ยูถึงปี 2020 นะ”
   โอ๊ต : “คนนี้เขาเก่งกับเด็กมากครับ เด็กรัก ชอบเล่นกับเด็ก เล่นกับหลานโอ๊ต เวลามาถามหาลุงวู้ดดี้อยู่ไหน”

หลักๆปัญหาติดอยู่ตรงไหน?
   วู้ดดี้ : “แม่ ผมว่าผู้ใหญ่คงกังวลว่าเรางานหนักทั้งสองคน จะไม่มีเวลาให้ลูก แต่ผมคิดว่าพอถ้ามีปั๊บมันจะวางทุกอย่างได้จริงๆ เราคงจะอยู่กับลูกเรา 100 เปอร์เซ็นต์ คงจะเป็นเรื่องของการที่เราจะเตรียมตัวและมีพลังที่จะเลี้ยงลูกได้หรือยัง หรือเรากลัวว่าคนอื่นจะว่ายังไงหรือเปล่า(หันไปถามโอ๊ต)”
   โอ๊ต : “ไม่ใช่หรอก อาจจะเป็นผมที่อยากให้เขามีชีวิตที่สมบูรณ์ที่สุด”
   วู้ดดี้ : “ไอว่ายูกังวลเรื่องกฏหมาย”
   โอ๊ต : “ก็เป็นเรื่องหนึ่ง ซึ่งเราก็รอดูอยู่ เพราะตอนนี้ยังไม่มีสถานะทางกฏหมายในการที่เราจะเป็นคู่รักเพศเดียวกัน”
   วู้ดดี้ : “พรบ.คู่ชีวิตเขาก็คุยกันอยู่ ถ้ามีกฏหมายLGBT คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้ ได้สิทธิเท่าเทียมกับคู่อื่น แปลว่าเราสามารถใช้นามสกุลด้วยกัน ลูกนามสกุลเราทุกอย่างมันเสมอกัน การมีลูกอุ้มบุญทุกอย่างถูกต้องไปหมด แต่ถ้าคุณเห็นผู้ชายสองคนอุ้มบุญที่ไทยวันนี้ กฏหมายก็ยังไม่รองรับ เราก็ไม่อยากบินไปแอบทำที่อเมริกา ผมคิดว่าอันนี้เป็นสิ่งที่โอ๊ตคิดเยอะมาก เขาเป็นคนที่เที่ยงตรงมาก อะไรที่ผิดกฎหมาย หรืออะไรที่มันไม่เป๊ะเขาจะไม่”
   โอ๊ต : “สมมติว่าไม่ได้เป็นผู้ปกครองทั้งคู่ แล้วคนหนึ่งป่วยขึ้นมา ก็ไม่สามารถไปดูแลได้ มันจะมีข้อจำกัดอยู่ ก็อยากให้ทุกอย่างมันเป๊ะ เป็นห่วงเรื่องความเรียบร้อยหมดตอนนี้เข้าใจว่า พรบ.คู่ชีวิต กำลังร่างอยู่”
   วู้ดดี้ : “ไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเอาไปต่อยอดหรือเปล่าหรือไม่แคร์เลย ก็ต้องผลักดันกันต่อไป มีกฏหมายคุ้มครองเมื่อไหร่ คนที่เป็นเกย์ หรือ LGBT สามารถแต่งงานได้เมื่อไหร่ในเมืองไทย เราก็จะมีลูกในวันนั้น โอเคมั้ย(หันไปถามโอ๊ต)”
   โอ๊ต : “โอเค”

มีข่าวลือว่าจะแต่งงานรอบสองกับคนเดิม?
   วู้ดดี้ : “(หัวเราะ) ก็นี่ไงครับ”
   โอ๊ต : “เราคุยกันว่าถ้ากฏหมายผ่าน ก็จะแต่งเป็นเรื่องเป็นราว”
   วู้ดดี้ : “อย่างถูกต้องตามกฏหมาย เพราะที่ผ่านมาเราจัดกับเพื่อนๆ ขำๆ ไม่ได้ถูกต้องตามกฏหมาย แล้วก็ทำแบบแอบๆรู้กันเอง แต่เราก็อยากทำให้มันถูกต้อง เราไม่อยากแค่จัดที่โรงแรมชวนคนเป็นพันมา แล้วมันก็ยังไม่ถูกต้องจะแต่งแน่นอน ถ้าเมื่อไหร่ถูกต้องตามกฎหมายก็จะแต่งงานอีกครั้งกันอย่างแน่นอน”
   โอ๊ต : “เราคุยกันตลอดว่าอย่างโอ๊ตกับวู้ดดี้เราโชคดี ที่บ้านเราแฮปปี้ เราไปเที่ยวด้วยกันกับครอบครัวตลอด แต่มันจะมีหลายครอบครัวที่ไม่โชคดีเหมือนเรา ก็จะมีปัญหา โอ๊ต ว่ามันคือสิทธิ์ และเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่ไม่ได้โชคดีแบบเรา แต่จะแต่งที่ไหนยังไม่ได้คิดจริงๆ(หัวเราะ)”
   วู้ดดี้ : “ไปตามโรงแรมที่ใหญ่ๆ จัดคนมาเป็นพันๆก็ไม่เอา เพราะมันเหนื่อย แต่เพื่อนๆบอกว่า มันต้องเป็นแบบนั้น เพราะเราอยู่ในสื่อ ก็ต้องเชิญทุกคน เชิญทุกสื่อ เราก็อยากจะเงียบๆ แต่เพื่อนบอกแกจัดเงียบๆไปแล้ว ถ้าถูกต้องตามกฎหมายก็อยากให้คนอื่นได้เห็น แล้วก็ให้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ ให้เป็นเรื่องแปลกใหม่ ให้เป็นแบบอย่าง”
   โอ๊ต : “อยากให้เป็นแบบอย่างว่าจริงๆ เป็นคู่รักแบบนี้เราก็ครีเอททำอะไรให้สังคม ทำธุรกิจสำเร็จได้”
   วู้ดดี้ : “ก็ต้องรอต่อไปว่ากฎหมายจะออกมาเมื่อไหร่”