'น็อต' เผยอยากมีลูกสาวอีกคน รอ 'ชมพู่' พร้อม 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ควงคู่มาออกงานคู่กันครั้งแรกในรอบปร สำหรับ คู่หวาน "น็อต" วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ และ "ชมพู่ อารยา" เอ ฮาร์เกต ทีมารับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่กันครั้งแรกให้ผลิตภัณฑ์ "detiste" ได้พูดคุยถึงถึงพัฒนาการลูกแฝดของทั้งคู่ ที่ สยามพารากอน  โดยสาวชมพู่ กล่าวว่า

    "เขาก็มีเรียกปะป๊าด้วย พายุพูดคำเดียวพูดปะป๊าอย่างเดียว ทุกอย่างเป็นปะป๊าหมด (ลูก 2 คนตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง) ตอนนี้ก็ถือว่ามีเรื่องเซอร์ไพร์สเราทุกวัน คือเขาก็จะรู้เรื่องมากขึ้น อย่างชมไปเมืองนอกกลับมาเขาก็เปลี่ยนไปเยอะ ชมพู่ คือทำเป็น  แต่คงไม่ถึงขนาดดูแลตัวเองได้แล้ว อย่างพายุเขาจะเป็นเด็กอึนๆ นิดหนึ่งแต่ถ้าเขาอยากได้จริงๆ เขาทำได้ตามที่เราบอก ส่วนสายฟ้าอาจจรู้เรื่องมากกว่าแต่พายุเขาก็รู้เรื่อง ถามว่าพูดได้มากแค่ไหม คือเขาจะพูดได้พยางค์หนึ่งเวลาเราพูดเขาก็จะพูดได้พยางค์สุดท้าย แต่การผสมคำอาจจะยังไม่ได้ ความซนของทั้งคู่ก็ไม่ธรรมดา จริงๆ เด็กเราก็ละสายตาไม่ได้อยู่แล้ว แต่เราก็ไม่ได้อยากขวางอะไรเขา คือถ้าอะไรที่เราไม่ได้เห็นว่าอันตรายหรือเราไม่ได้สร้างนิสัยที่ไม่ดีให้กับเขาเราก็จะปล่อย เพราะมันคือจินตนาการของเขา และเราไม่ได้อยากห้ามจนเขาไม่มีความมั่นใจ เพียงแค่ทุกคนก็ช่วยกันเป็นหูเป็นตา แค่อย่าละสายตาแค่นั้นเอง ทุกอย่างคือทำก็อยู่ในสายตาหมด ถามว่าตามใจไหมอย่างที่บอก อย่างที่เห็น คือเขาอยาเล่นอะไรก็ปล่อยให้เล่น 
    ถามว่าสปอยคืออะไร เพราะ ณ เวลานี้เขายังไม่ได้อยู่จุดที่จะเอานั่นเอานี่ ยังไม่เรียกร้อง ถามว่ามีดุบ้างไหม ก็ดุ แต่อาจจะเพราะชมอยู่กับเค้าเกือบทั้งวัน เขาก็จะรู้ว่าสุดท้ายเดี๋ยวแม่ก็ต้องมาเล่นด้วย รู้ว่าจริงๆแม่ก็รักและใจดี จะไม่ค่อยฟังเท่าไหร่แต่สังเกตว่าถ้าพี่น็อตเอ็ด ทำเสียงเข้ม เค้าจะกลัวกว่า เราไม่ค่อยโอ๋ ส่วนแพลนมีลูกสาวถ้า ณ เวลานี้ยังไม่พร้อมเป็นสตรีมีครรภ์ เพราะมี2คนนี้อยากให้เขาฟังภาษาเรารู้เรื่องกว่านี้แล้วอธิบายว่ามีน้องนะแม่อาจจะอุ้มไม่ได้ อยากให้รู้เรื่องกว่านี้ซักนิดหนึ่ง”

    เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่แว่วว่าจะย้ายช่องไปอยู่ช่องวัน ซึ่งนักแสดงสาวกล่าวว่า

    “เอาจริงๆตัวชมนะ ยังไม่มีใครมาเข้ามาคุยใดๆทั้งสิ้น วันๆก็อยู่บ้านอย่างเดียว แต่อันนี้อาจจะต้องไปถามทางหวานเจี๊ยบ ผู้จัดการว่ามีอะไรยังไงมั้ยแต่ตัวชมไม่มีอะไร แล้วหวานก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ชมฟังมากมาย ด้วยอายุคิดว่าคงไม่เป็นเด็กในสังกัดใครแล้ว ปูนนี้แล้ว ส่วนสัญญากับช่อง 3 ยังมีอยู่ สัญญายังไม่หมด แต่ไม่แน่ใจว่าเหลืออีกกี่ปี เรื่องว่ายังไม่ใจอ่อนที่จะยอมเล่นละคร ณ เวลานี้ยังไม่พร้อม ถามว่านึกถึงงานละครไหม ก็นึกถึง แต่ว่าก็ยังไม่มีอะไรที่ตรงกับช่วงเวลาของเรา คือ ชมยังไม่พร้อมที่จะออกไปข้างนอกอาทิตย์นึง 4-5 วัน ไม่พร้อมที่จะออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 ครึ่งแล้วกลับเข้ามา 4 ทุ่ม เรายังไม่พร้อมจริงๆ ถ้าหมดสัญญาถามว่าจะเป็นอิสระไหม อันนั้นเป็นเรื่องของโอกาสข้างหน้า แต่ ณ วันนี้ยังไม่มีอะไรติดต่อมาหาชม 
    หลังจากที่ผู้จัดการโพสต์ได้ถามไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถามว่ามีอะไรเหรอ เขาก็เล่าให้ฟังนิดหน่อย ส่วนในอนาคตจะร่วมงานกับช่องวันหรือเปล่านั้น ชมไม่ได้มองว่าเป็นที่ไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวาระเวลา ความเหมาะสม และองค์ประกอบโดยรวม คือ งานสักชิ้นหนึ่ง มีองค์ประกอบเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าชมพูดแบบนี้ที่อื่นจะรู้สึกยังไง ชมไม่ได้ยึดติดอะไร ถามว่ารักช่อง 3 ไหม ก็รักนะ"

    ถามต่อถึงแฮชแท็กการเมือง ‘ฟ้ารักพ่อนะคะ’ และ ‘เรยาไม่โอเค’ ว่ารู้สึกอย่างไร งานนี้สาวชมพู่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า
    “ก็เป็นเรื่องตลกเราอยู่ในยุคดิจิตอล ในยุคโซเชียล คิดสะว่าเรายังอยู่ไม่ได้ถูกลืม ถามว่าไม่ได้เป็นการโยงการเมืองใช่มั้ย คือเรื่องนี้ชมไม่ได้ซีเรียส เพราะชมมองแยกกัน ตัวชมเองก็ไม่ใช่สายที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นตรงนี้มากอยู่แล้ว มองว่าเป็นเรื่องตลกๆ” 
    ในขณะที่ "น็อต" วิศรุต กล่าวเสริมถึงพัฒนาการของลูกแฝดว่า
    "ที่บ้านเปิดกัน เขาก็ได้ดู ตอนนี้เขารู้เรื่องแล้ว เขาคุยรู้เรื่องขึ้นเยอะ อย่างเวลาทานน้ำผมเดินไปหยิบหลอด เขาก็จะเดินไปขอหลอด (ลูกๆเรียกปะป๊าเพราะสอนเรียกแต่ปะป๊าหรือเปล่า) ก็ไม่รู้เหมือนกัน เวลาเขาเจอหน้าผมเช้าๆเขาก็เรียกปะป๊าๆ  (มีสอนเรียกแม่ไหม) ก็มี สายฟ้าก็พูดได้ทั้ง 2 คำ เขาก็มีเรียกหม่ามี๊ด้วย แต่พายุอาจจะออกเสียงหม่ามี๊ไม่ได้ เขาก็จะเรียก มี๊....(ลากเสียงยาวๆ) ถามว่าเราดุเขาบ่อยไหม ก็ไม่ได้ดุบ่อยนะ แต่มองว่าอะไรที่มันไม่เหมาะสมก็อยากให้เค้ารู้ไว้ว่าอันนี้ไม่ควรทำ วันหลังไม่ควรทำอีก 
    มีห้ามแม่ไม่ให้โอ๋ลูกไหม ก็ไม่เชิง จริงๆ ผมว่าผมกับชมวิธีคิดคล้ายๆ กัน อะไรที่ลูกไม่ควรจะทำจริงๆก็จะดุคู่กันแต่ชมเค้าจะไม่เข้มเท่าผม ผมจะเข้มหน่อย (อย่างความลุยของทั้งคู่เสี่ยงให้บาดแผล) จริงๆผมจะบอกว่าเด็กผู้ชายให้เต็มที่เลย เค้าจะได้แกร่ง ด้วยความเป็นผู้หญิงของชม ของหน่องเจี๊ยบ ค่อนข้างจะโอ๋ ซึ่งผมเป็นผู้ชายก็จะบอกว่าเขาเป็นเด็กผู้ชายเรื่องเจ็บตัวเรื่องล้ม บางทีหัวโนผมก็ปล่อย คือเด็กบางทีมันต้องมีบาดแผล ส่วนแพลนมีลูกสาวก็ตั้งใจอยากให้ 2 หนุ่มเริ่มไปโรงเรียนก่อน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้ลูกสาวอีกซักคนหนึ่ง ถ้าชมไม่พร้อมน็อตผมรอได้ไม่มีปัญหา" น็อตกล่าวแจง