'เคลลี่'​ ควง 'นาย' วิวาห์ สัญญาจะรักกันตลอดไป

         ทีมบันเทิง คมชัดลึก -​ บ่มเพาะความรักมากว่า 3 ปี ถือฤกษ์ดี 10 ตุลาคม “เคลลี่” ธนะพัฒน์ ควง “นาย” ชนุชตรา สุขสันต์ เข้าพิธีหมั้นและหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ เมื่อเวลา 07.00 น. ณ วาระเวลา การ์เดน ฮอล โดยเริ่มจากพิธีแห่ขันหมาก สวมแหวนหมั้น และรดน้ำสังข์ตามประเพณีไทย โดยมีเพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งในวงการและนอกวงการตบเท้ามาร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดีคับคั่ง

         เมื่อเวลา 13.00 น. พร้อมเปิดใจกับสื่อมวลชน  “เคลลี่” ธนะพัฒน์ ได้ควง “นาย” ชนุชตรา เจ้าสาวหมาดๆ มาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนโดยนักแสดงหนุ่มกล่าวถึงความรู้สึกในวันนี้ว่า 

          เคลลี่ : “ผมโชคดีมาก ที่ผมมีเจ้าสวยที่สุดและดีที่สุด (ยิ้ม) ขอบพระคุณทุกท่านมากเลยนะ ที่เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ ทั้งผู้ใหญ่ที่เมตตา พี่น้องที่น่ารัก และเพื่อนๆ ทุกคน”

          นาย : "วันนี้นายดีใจมาก มันเป็นวันสำคัญของเรา ดีใจที่ทุกคนมาร่วมงานของเรา งานเป็นไปอย่างที่ตั้งใจไว้ บรรยากาศอบอุ่นมากเลย"

เมื่อคืนบ่าวสาวตื่นเต้นกันหรือเปล่า เพราะเห็นว่ามีนับถอยหลังกันในอินสตาแกรมด้วย

เคลลี่ :“ ผมนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว (หัวเราะ) ถามว่าตื่นเต้นไหม จริงๆ ก็มีไม่มากหรอกเรื่องความตื่นเต้น จะมีแต่ความกังวลมากกว่า กังวลเรื่องการดูแลแขกที่จะมาร่วมงาน อย่างที่บอกเวลาเรามีงานแบบนี้ เราก็อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง และด้วยนิสัยส่วนตัวของผมที่ชอบดูแลคน ผมก็จะระแวงตลอด เพราะกลัวว่าแขกจะไม่มีใครคอยดูแล แต่ทุกอย่างก็ราบรื่นดี”

บรรยากาศงานพิธีเมื่อช่วงเช้าเป็นอย่างไรบ้าง

เคลลี่ : “สำหรับพิธีเมื่อเช้าก็ดีมากๆ เลย มีทั้งพิธีสงฆ์ พิธีแห่ขันหมาก พิธีสวมแหวนหมั้น พิธีรับไหว้แขกผู้ใหญ่ และก็พิธีรดน้ำสังข์ บรรยากาศทุกอย่างมีแต่ความสนุก ประทับใจทุกอย่างเลย ดีใจมากที่ได้เจ้าสาวสวยและน่ารักแบบนี้”

นาย : “ ดีใจเหมือนกันที่ได้พี่เคลลี่เป็นเจ้าบ่าว หล่อมากวันนี้”

พิธีสวมแหวนเมื่อเช้าเราสองคนได้มีคำพูดอะไรมอบให้กันบ้างไหม

เคลลี่ : “ผมก็บอกเขาไปว่า พี่รักน้องนายนะ เป็นคำพูดที่พูดบ่อยมากเลยในวันนี้”

นาย : “ นายก็บอกเขาไปเหมือนกันว่า I love you too”

ขออนุญาตถามถึงแหวนเห็นว่าสวมแหวนถึง 2 วงเลย

เคลลี่ : “วงข้างขวาเป็นแหวนหมั้น ส่วนวงข้างซ้ายเป็นแหวนแต่ง พอดีว่าคุณป้าท่านให้แหวนของครอบครัวมาด้วย ซึ่งก็ข้างละ 2 กะรัตนิดๆ”

เราสองคนได้มีคำมั่นสัญญามอบให้กันบ้างหรือเปล่า

เคลลี่ : “ส่วนเรื่องคำมั่นสัญญา ผมก็สัญญากับเขาและครอบครัวของเขาว่า ผมจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะรักเขาแค่คนเดียว จะดูแลเขาตลอดไป ผมโชคดีมาก ที่มีน้องนายอยู่ใกล้ๆ เพราะนอกจากเขาจะมีความรักให้ผมแล้ว เขาก็ยังเป็นคนที่อยู่เคียงข้างผมตลอดเวลาด้วย (หอมแก้ม)”

นาย : “ นายก็โชคดี ที่มีพี่เคลลี่อยู่เคียงข้าง ต่อไปนี้พี่เคลลี่ก็จะเป็นทุกสิ่งในชีวิตของนายเหมือนกัน นายก็จะรักและดูแลพี่เคลลี่ให้ดีที่สุดเหมือนกัน ขอบคุณมากที่เข้ามาในชีวิตของหนู (ยกมือไหว้เคลลี่)”

เคลลี่ - “(หอมแก้มน้องนาย)”

หลายคนก็อยากรู้ว่าสินสอดเป็นยังไงบ้าง อู้ฟู่หรือเปล่า

เคลลี่ : “เป็นไปตามความเหมาะสม ผมก็ให้เกียรติน้องนาย เพราะทางบ้านของเขาไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย ทุกคนในบ้านน่ารักมาก ตั้งแต่วันแรกที่ผมกับเขารู้จักกัน ผมก็ได้เดินเข้าไปที่บ้าน ได้เข้าไปกราบทุกคนในครอบครัวเขา เพราะบ้านเขาเป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น และทุกคนก็ให้การต้อนรับผมอย่างดี จนผมรู้สึกเหมือนผมมีอีก 1 ครอบครัวในชีวิต และนับตั้งแต่วันที่ผมสูญเสียคุณแม่ไปเมื่อช่วงต้นปี ตอนนี้ผมก็ได้คุณแม่คนใหม่แล้ว นั่นก็คือคุณแม่ของน้องนาย ผมถือว่าผมโชคดีมาก”

เคลลี่ได้มีโอกาสบอกกล่าวกับคุณแม่บ้างไหมว่าวันนี้เราแต่งงานแล้ว

เคลลี่ : “จริงๆ แล้วช่วงที่คุณแม่ผมป่วยอยู่ในโรงพยาบาลเมื่อต้นปี ตอนนั้นผมก็ตั้งใจว่าจะขอน้องนายแต่งงานในห้องของโรงพยาบาล เพราะว่าญาติพี่น้องของผมที่อยู่ในอเมริกาบินกลับมาที่นี่กันหมด เพื่อมาช่วยดูแลอาการของคุณแม่ ซึ่งตอนนั้นผมก็ได้บอกกับคุณแม่ไว้แล้วว่า ผมจะขอน้องนายแต่งงานนะ แต่ผมก็ต้องรอจังหวะให้คุณแม่แข็งแรงก่อน และสุดท้ายคุณแม่ก็ได้จากไปก่อนก่อนที่ผมจะได้ขอน้องนายแต่งงาน ซึ่งก่อนหน้านี้คุณแม่ของผมท่านก็ได้บอกไว้ว่า น้องนายเป็นคนที่น่ารักมาก และคุณแม่ก็ดีใจเช่นกันที่จะได้น้องนายมาเป็นลูกสะใภ้ เหมือนเขาดีใจที่จะได้เห็นผมแต่งงานสักที รวมถึงตัวผมเองก็ดีใจที่คุณแม่รักน้องนายมาก จริงๆ วันนี้ตัวผมเองก็ได้เอาอะไรบางสิ่งที่เป็นของคุณแม่ติดตัวมาด้วย เหมือนกับว่าคุณแม่อยู่กับเราตลอด”

หลังจากนี้เราสองคนตั้งใจจะมีลูกเลยหรือเปล่า

นาย : “อยากมีน้องแฝด (ยิ้ม) จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้หมด แต่จริงๆ อยากได้แฝดชายหญิงมากกว่า เพราะจะได้มีทีเดียว”

เคลลี่ : “จะพยายามครับ เราวางแผนไว้ว่าน่าจะมีน้องในปีหน้า เพราะเดี๋ยวเราจะต้องจัดงานเลี้ยงฉลองแต่งงานก่อนในช่วงต้นปี เนื่องจากตอนแรกเราตั้งใจว่าจะจัดงานนี้เป็นงานเล็กๆ มีเพียงคนในครอบครัว และไปเต็มที่กันอีกครั้งในวันฉลองแต่งงานแทน แต่จะจัดในวันที่เท่าไหร่หรือเดือนอะไรนั้นเดี๋ยวต้องขอดูกันอีกทีครับ ส่วนเรื่องลูกก็แล้วแต่น้องนายเลย (ยิ้ม)”

เราตั้งใจจะใช้วิธีธรรมชาติก่อนหรือว่าปรึกษาคุณหมอเลย

เคลลี่ : “เดี๋ยวต้องไปตรวจสุขภาพดูความแข็งแรงของผมก่อน แต่ก็ไม่ได้กดดันอะไรนะ เพราะอย่างที่ผมบอกครอบครัวน้องนายเป็นครอบครัวใหญ่ ดังนั้นมีคนช่วยเลี้ยงเยอะแน่นอน”

เรือนหอของคู่บ่าวสาวเป็นที่ไหน

เคลลี่ : "สร้างเสร็จแล้ว เหลือแค่ตกแต่งอีกเล็กน้อย โดยเรือนหอหลังนี้จะอยู่ติดกับบ้านของครอบครัวน้องนายเลย เราจะได้อยู่กันแบบเป็นครอบครัวใหญ่"

แพลนฮันนีมูน

เคลลี่ : “ตอนนี้งานของน้องนายแน่นมากครับแม่นกว่างานของผมอีก เราเลยยังไม่ได้แพลนเรื่องฮันนีมูน รวมถึงยังไม่ได้คุยกันด้วยว่าอยากจะไปเที่ยวที่ไหน น่าจะคุยกันอีกทีหลังฉลองแต่งงานเลย”

ตอนนี้น้องนายก็มีครอบครัวแล้ว แบบนี้เรื่องการแสดงจะต้องปรับบทไปตามชีวิตจริงด้วยหรือเปล่า ?

นาย : "ไม่เปลี่ยน นายยังต้องทำงานเหมือนเดิม และก็ต้องดูแลพี่เคลลี่ด้วย"