เอาแล้วไง!! 'ฮั่น' โบกบินจาก 'เอ็กแซ็กท์' 

 

    เป็นข่าวที่ทำเอาแฟนๆ เดอะสตาร์ใจหาย เมื่อมีข่าวว่าหนึ่งในเดอะดาวดวงดังของค่าย “เอ็กแซกท์” อย่าง “ฮั่น” อิสริยะ กำลังจะโบกบินจากค่ายไปเป็นอิสระ ซึ่งสัญญาของนักร้องหนุ่มจะหมดในสิ้นเดือนนี้แล้วด้วย ล่าสุด “บันเทิง คมชัดลึก” ได้มีโอกาสเจอหนุ่มฮั่นจึงถามถึงเรื่องดังกล่าว
    “ใช่ครับ สัญญากับค่ายใกล้จะหมดสิ้นเดือนนี้ (จะต่อหรือไม่ต่อยังไง) คือ (นิ่งคิด) ตรงนี้ก็คงอยู่ในเรื่องของการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง จากการทำงานที่ผ่านมากับทางค่าย ต้องบอกว่าเราแฮปปี้ และมีความสุขมาโดยตลอด แต่ผมก็มีความคิดในส่วนของผม จริงๆ หลายคนอาจจะมองว่าตั้งแต่มีเดอะสตาร์มา เดอะสตาร์หลายคนก็ต่อสัญญา แต่ผมอาจจะมีความคิดของผม ใน ณ เวลานี้ว่าผมอาจจะไม่ต่อสัญญากับค่าย แต่ว่าการที่เราไม่ต่อสัญญากับค่ายไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนอกตัญญูหรือว่าอะไร แต่ผมจะบอกว่าใจผมก็ยังอยู่กับค่าย ยังอยู่ที่เดิม มีอะไรก็อยู่กับเขา แต่ที่ไม่ได้เซ็นต่อสัญญา เพราะผมไม่อยากให้มีตัวอักษรมาตีกรอบในการทำงานของเรา ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม อยากทำงานสบายใจ เพราะว่าวันนี้เราก็โตแล้ว และเราก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง เรารู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรควร อะไรไม่ควร เพราะฉะนั้นผมว่าเรื่องตัวอักษรที่จะมาตีกรอบชีวิตเรามันไม่จำเป็น ในเรื่องของการทำงาน พูดตามตรงว่า ก็อยากให้โอกาสตัวเอง ได้ลองงานอะไรใหม่ๆ ที่ได้ร่วมงานกับคนอื่นๆ ด้วย จริงๆ ตอนที่อยู่กับค่ายก็ไม่ได้ปิดโอกาสอะไรยังไงทั้งสิ้่น แต่อย่างที่ผมพูดมาชัดเจนสุด”

 

 

 

    เป็นการคุยกันเข้าใจใช่ไหม
    “เข้าใจครับ จริงๆ ได้มีการพูดคุยกันแล้ว แต่ว่าคงจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง จริงๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ถ้าจะเรียกว่าจบไม่สวยไหม หรืออะไรยังไง ผมว่ามองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะว่ามันไม่มีคำว่าจบ หรือว่าไม่จบ ผมเกิดจากเอ็กแซกท์ ค่ายทำให้ผมมีทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นผมไม่ลืมบ้านเกิดตัวเองแน่นอน เราเกิดจากที่ไหนเราก็อยู่กับที่นั่น ทุกคนทั่วไปอาจจะมองว่า แล้วทำไมไม่เซ็นล่ะ ทั้งที่พูดแบบนี้ อย่างที่บอกว่าเราอยากทำงานด้วยใจจริงๆ อยากทำงานแบบที่ใจๆ ต่อกัน ไม่อยากให้เอาตัวอักษรอะไรมาขีดกั้นเลยดีกว่า”
    แต่ฮั่นยังมีงานร่วมกันกับ “เอ็กแซกท์” อยู่ใช่ไหม
    “ใช่ครับ คือสิ้นเดือนนี้ผมหมดสัญญาใช่ไหม แต่ผมยังเล่นละครกับค่ายอยู่ (การไม่ต่อสัญญาจะมีผลต่อโปรเจ็คคอนเสิร์ตเซเว่นวันเดอร์ที่จะเกิดขึ้นไหม) ไม่น่าจะมีนะครับ เพราะว่าถ้าจะมีก็น่าจะมีไปแล้ว อาจจะเปลี่ยนเป็นซิกวันเดอร์ไปแล้ว (หัวเราะ) แซวเล่นนะ อยากจะบอกว่าเราอยู่ด้วยกันมานาน เป็นครอบครัว เขาเห็นเราตั้งแต่เราก้าวเดิน เขารู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นเด็กแบบไหน เราชอบทำงานยังไง ซึ่งผู้ใหญ่ก็ให้โอกาสในการทำงานหลายๆ อย่าง ได้ลองงานหลายๆ แบบ ไม่ปิดกั้นความคิด แต่สิ่งที่เขาขอมาตลอด คือเราต้องกตัญญู หรือว่าอะไร เขาก็สอนแต่สิ่งดีๆ เรื่องพวกนี้ถูกสอนมานานๆ แล้วมันก็ฝังอยู่ข้างใน เราก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรยังไง แต่ว่าผมอาจจะไม่ได้อธิบายออกมาเป็นคำพูด ผมเน้นที่การกระทำมากกว่า”

 

 

    อยากเปิดทางให้ตัวเองออกมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ
    “มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด แต่ว่าเราก็สะสมหลายๆ อย่างในเรื่องของการทำงาน เราอยากที่จะมีการตัดสินในการทำงานด้วยตัวเอง ถ้าพูดถึงเรื่องเปิดโอกาสไหม ถ้าไม่เซ็นต่อ คนก็มองว่าอิสระ ซึ่งก็น่ามีโอกาสผู้ใหญ่หลายๆ คนที่เข้ามาพูดคุย ก็น่าจะคุยเป็นงานๆ ไป”
    สัญญาที่หมด คือรวมทั้งถึงงานแสดงและงานเพลงใช่ไหม
    “ใช่ครับ”
    มีคนเข้ามาทาบทามให้ไปเซ็นที่อื่นไหม
    “เออ..ตอนนี้คงยังไม่เซ็นสัญญากับที่ไหน เพราะว่าสิ่งที่คิดก็เหมือนอย่างที่บอก ถ้าไม่เซ็นต่อจริงๆ แต่ยังไงผมก็อยู่ที่นี่แหละ ผมก็ป้วนเปี้ยนอยู่กับตรงนี้แหละไม่ได้ไปไหน แต่หลายๆ คนที่รู้ว่าเราเป็นอิสระ ก็อาจจะมีการติดต่อให้เรามาทำงาน ก็เป็นโอกาสอีกทางหนึ่ง”
    คือไม่มีสัญญากระดาษแต่ก็มีสัญญาใจกับทางค่ายอยู่
    “ใช่เรายังมีสัญญาใจกันเหมือนเดิม แล้วเราโตพอแล้วที่จะรู้ว่าอะไรที่มันควร อะไรที่มันไม่ควร ก็มีการให้เกียรติกันอยู่แล้ว”