‘หญิง’ กลับมาทำตามฝันกับการเป็น ‘นักร้อง’

    หลังจากร้างไมค์มานาน ล่าสุด “หญิง" รฐา โพธิ์งาม ก็คืนวงการเพลงอีกครั้งอย่างเต็มตัวกับผลงานเพลงใหม่ “อย่าแผ่ว” ภายใต้สังกัดมิวสิคครีม ในเครือแกรมมี่ ในเพลงนี้หญิงมีได้ส่วนร่วมมากมาย ทั้ง โค-โปรดิวเซอร์, ร่วมแต่งเนื้อร้อง-ทำนอง, คิดชื่อเพลงเอง โดยหญิงเล่าให้ฟังถึงการกลับมาทำงานเพลงครั้งนี้ว่า
    “ครั้งสุดท้ายที่จำได้เรื่องของการทำงานเพลง คือตอน 2007 โชว์เกิร์ล ก็ประมาณ 10 ปีได้แล้ว ถามว่าอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้เรากลับมา ต้องบอกก่อนว่า ถึงแม้เราไปทำอย่างอื่น เราก็คิดถึงเพลงตลอด อย่างคอนเสิร์ต บียอนเซ เพลงใหม่เราก็ฟัง แต่ด้วยจังหวะชีวิตที่มันยังไม่ใช่ เพราะช่วงหนึ่งเราก็ต้องรีบทำงาน เลยอาจจะไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำจริงๆ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรามีโอกาสได้กลับมาทำงานกับค่ายเก่าอย่างแกรมมี่ อย่างตอนที่เล่นละครเวทีกับพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ได้กลับเข้ามาโปรโมทละครเวทีในค่าย เข้ามาในตึกแกรมมี่ ทำให้ได้มีโอกาสเจอกับพี่ๆ คนเดิมที่เราเคยทำงานด้วย พี่ๆ เขาเลยชวนว่ากลับมาไหม ลองทำเพลงอีกสักครั้งไหม ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่เราเองก็อยากทำอยู่แล้วมาตลอด ตอนที่ได้รับคำชวนความรู้สึกแรกคือ เราดีใจนะ คือมีหลายคนบอกว่า ในยุคนี้ทำเพลงเองก็ได้ เพราะยุคนี้เป็นยุคดิจิทัลแล้ว ไม่เห็นต้องใช้ค่ายเพลง แต่ในความรู้สึกของเรารู้สึกว่าถ้าวันหนึ่งเราอยากทำเพลงอยากกลับมาทำที่แกรมมี่ เพราะเป็นที่ที่สร้างเรา ทุกวันนี้คนก็ยังเรียกญาญ่าญิ๋งอยู่ มันเป็นความในใจของเราที่อยากทำ และอีกอย่างหนึ่งในมุมของความเป็นป๊อปและเป็นดนตรีที่เป็นเรื่องของความนิยมหญิงว่าแกรมมี่ค่อนข้างชัดในเรื่องนี้ และสามารถตอบโจทย์ศิลปินในรูปแบบของหญิง” นักร้องสาวเล่า

    เมื่อถามว่ามีภาพในหัวไหมว่าอยากกลับมาทำงานเพลงแบบไหน หญิงเผยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็คิดมาตลอด เพราะอยากออกอัลบั้มมาตลอด และมีการอัพเดทมาตลอดทั้งเรื่องการร้องและการเต้น 
    “การกลับมาทำเพลงครั้งนี้ หญิงคงไม่ได้พูดว่าหญิงเป็นศิลปินร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะว่าหลังจากหมดสัญญาแกรมมี่ไป เราไปทำหลายอย่างมาก ทั้งละคร ทั้งภาพยนตร์ และมันก็มีบทบาทในหลายคาแรกเตอร์มาก เราเลยดึงคาแรกเตอร์หลายๆ อันตรงนั้นมาใช้ในเพลงอย่าแผ่ว เป็นการดึงคาแรกเตอร์อย่างเจ๊ออย ในซิทคอมเรื่อง “เสือ ชะนี เก้ง” หญิงว่าคนชอบหญิงในหลากหลายรูปแบบ หญิงไม่ได้รู้สึกว่าการที่เรากลับมาทำเพลงเป็นการมาสร้างบุคลิกใหม่ เพราะเราสร้างมันไว้แล้ว ถ้าเปรียบเทียบเรื่องของการแสดง มีคนยื่นบทมาเราต้องทำการบ้านใช้เวลาเรียนรู้ศึกษาในตัวละครนั้นๆ แต่กลับกันถ้ามีคนยื่นไมค์มา หญิงสามารถจับไมค์และเดินขึ้นเวทีร้องได้เลย มันเป็นความแตกต่างในด้านของความรู้สึกที่เรารู้สึกมาตลอด การร้องเพลงมันเป็นตัวเราเต็มที่ หญิงชอบตัวเองเวลาที่อยู่บนเวทีมาก เพราะเราได้ปลดปล่อย และการได้เล่นไลฟ์โชว์ เราได้เห็นปฏิกิริยาตอบกลับของคน มันเป็นพลังความสุขที่แข็งแรงมาก และมันหาจากละครและภาพยนตร์ไม่ได้” หญิงเผย

    นักร้องสาวเผยว่า ด้วยจังหวะเวลานี้โตขึ้นทำให้ได้กลับมาทำอะไรที่อยากทำจริงๆ โดยนักร้องสาวยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังว่าเพลงที่ทำจะต้องดังเปรี้ยงเหมือนสมัยที่ทำเพลงเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่แค่อยากทำเพลงที่เป็นความฝันอีกครั้งหนึ่ง
    “ด้วยยุคดิจิทัลแบบนี้คงจะทำให้ได้เหมือนสมัยก่อนที่จะมีล้านตลับ คงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ว่ากระแสตอบรับที่กลับมาค่อนข้างดี ยอดวิวก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือคอมเมนท์ต่างๆ ที่ให้กำลังใจ อย่างบอกว่าขุ่นแม่กลับมาแล้ว, ดีใจจังพี่หญิงกลับมาร้องเพลงอีก สำหรับหญิงแค่นี้ก็ดีใจแล้ว ยอมรับนะว่าเราเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนจากยุคล้านตลับของเราสมัยก่อน แต่สำหรับหญิงเจออะไรมาเยอะแล้ว ทั้งจุดสูงสุด ต่ำสุด มันทำให้เราไม่ได้ซีเรียสแล้ว คือก็ต้องยอมรับว่า ยุคดิจิทัลมาทำลายมนต์ขลังของเพลงไปเยอะ แต่เราก็ต้องยอมรับให้ได้” หญิงกล่าว