บันเทิง

กะรัตรัก Diamond Lover 6

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘เซี่ยวเลี่ยงกับเกาเหวิน’ ไปเกาหลี ‘เกาเหวิน’ ของพา ‘เหม่ยลี่’ ไปด้วย

ทุกวันจันทร์พุธ เวลา 08.00 น.23.00 น. ทางช่อง NOW26

    เซี่ยวเลี่ยงจำต้องพาเหม่ยลี่เข้ามาพักที่ห้องของเขา เหม่ยลี่สะลึมสะลือมอง
    “หือหือเซี่ยวเลี่ยง”เหม่ยลี่หัวเราะ“ทำไมถึงเป็นคุณล่ะหือเซี่ยวเลี่ยงตัวเป็นๆ หรือเปล่าเนี่ยเอ๊ะนี่ตาของเซี่ยวเลี่ยงนี่จมูกของเซี่ยวเลี่ยงนี่แก้มของเซี่ยวเลี่ยงเอ๋แล้วก็ตัวของเซี่ยวเลี่ยง”
    “เฮ่อพอได้หรือยังห๊า”
    เหม่ยลี่สูด“ฮื่อหอมจังเลยกลิ่นอะไรว้าวเป็นผู้ชายใช้ของแบบนี้ด้วยเหรอหึๆ ใช้เยอะอีกต่างหาก”
    “ผู้ชายก็ต้องดูแลตัวเองออกมา”
    “เอ๊ะไม่มีมารยาทฉันยังพูดไม่จบเลยคุณเดินหนีแบบนี้ได้ยังไงเนี่ยหึๆ”
    เซี่ยวเลี่ยงแทรก“เฮ้ยๆ นี่คุณทำอะไรหานี่เตียงผมลงไป”
    “ลงไปอะไรคุณยังไม่ได้ชมฉันเลยเมื่อกี้ฉันชมคุณอยู่ตั้งนานแน่ะหึๆ”
    “จึ๊เฮ่อคนบ้าน่ะสิที่ชมตัวเองทุกวันนี่คุณหยุดบ้าได้แล้วลงไป”
    “ฉันจะบอกให้นะคุณรู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงได้สวยแบบนี้ที่จริงเมื่อก่อนฉันไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกแต่ว่า การเปลี่ยนแปลงของฉันเป็นเพราะคุณทั้งนั้นหึๆๆ เรื่องทุกอย่างของฉัน..ฉันอยากจะบอกคุณตั้งแต่ต้นจนจบ”
    “คุณพูดอะไรนี่ หลับแล้วจริงๆ เหรออย่าแกล้งหลับสิลุกขึ้นห๊า”
    “ถ้าหากฉันมัวแต่เอาเวลาไปคิดว่าฉันต้องได้อะไรฉันก็ไม่มีเวลาไปช่วยคุณหรอกคุณเซี่ยว ในโลกนี้มีหลายอย่างที่ไม่สามารถ..ใช้ผลประโยชน์ไปแลกเปลี่ยนกับมันได้เราไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกันแต่ฉันก็พยายามทุกครั้งพยายามจะเข้าใกล้คุณให้คุณมาสนใจฉันแต่คุณไม่ต้องห่วงตอนนี้ฉันล้มเลิกมันแล้วฉันจะไม่มารบกวนคุณอีกขอให้คุณมีความสุข” 

กะรัตรัก Diamond Lover 6
    ทางด้านอี้หมิงก็พยายามโทรหาเหม่ยลี่ ปรากฎว่ามีแต่ให้ฝากข้อความอี้หมิงหัวเสียมากหันไปต่อว่าตุ๊กตาที่เป็นตัวแทนของเหม่ยลี่
    รุ่งเช้าเหม่ยลี่ตื่นมาก็ตกใจเมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่บ้านเซี่ยวเลี่ยง เธอรีบโทรหาอี้หมิงให้มารับ พอขึ้นรถอี้หมิงได้ อี้หมิงก็ถามว่าหายไปทำอะไรมาจนเหม่ยลี่ตอบแทบไม่ทัน อี้หมิงสั่งให้เล่ามาให้ละเอียด
    “ฉันก็อยากจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดนะแต่ฉันจำไม่ได้เลยจำได้แค่ว่าฉันเมาจากนั้นฉันก็..เดินออกจากโรงแรมมาขึ้นรถคันหนึ่งและให้เงินโชเฟอร์ร้อยเหรียญ”
    “ดื่มเหล้าอีกแล้วเหรอ”
    “เมื่อเช้าตอนฉันตื่นขึ้นมา”เหม่ยลี่หัวเราะ“ฉันกลับพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงของเซี่ยวเลี่ยง”
    อี้หมิงหันขวับ “บนเตียงเหรอ”
    “นายรู้ใช่มั้ยฉันเข้าใกล้ความฝันอีกก้าวแล้วเฮ่อต้องขอโทษจริงๆ คิดไม่ถึงเลยแค่โอกาสเพียงคืนเดียวก็มีความคืบหน้า..ได้เร็วขนาดนี้”
    “แค่คืนเดียวพวกเธอคืบหน้าขนาดนี้เลยเหรอ”
    “เฮ่อแต่ว่าหลังจากฉันตื่นขึ้นมาฉันก้มลงดูแล้วเสื้อผ้ายังอยู่ครบเครื่องสำอางก็ยังเหมือนเดิมเซี่ยวเลี่ยงก็ไม่อยู่บ้านฉันก็เลยใจหายวาบขึ้นมาทันทีแต่ฉันไปอยู่บ้านเซี่ยวเลี่ยงได้ยังไงฉันไม่รู้เลยนะว่าบ้านเขาอยู่นี่”
    “ไร้สาระจริงๆ ไอ้หมอนั่นมอมเหล้าเธอแล้วพากลับบ้านเธอแต่งตัวแบบนี้คิดว่าเขาไม่ทำอะไรหรือไงต้องติดจีพีเอสในโทรศัพท์เธอแล้วถ้าคืนไหนเธอไม่กลับบ้านหรือเกิดอะไรขึ้นฉันจะได้ไปช่วยเธอทันไงจะได้ไม่เกิดความผิดพลาดอย่างเมื่อคืนนี้อีก”
    เหม่ยลี่หัวเราะ “ถ้าเกิดความผิดพลาดอย่างเมื่อคืนนี้อีกก็ดีสิ”
    “พูดอะไรสงวนตัวหน่อยบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้สงวนตัวเอามือถือมา”
    “ทำไมต้องดุด้วยเนี่ยเอาให้ก็ได้มันน่าโมโหตรงไหนกันน่ะหึๆ ฉันถามอะไรหน่อยสินายว่า..ทำไมเขาต้องพาฉันไปบ้านเขาด้วยหรือเขาต้องการจะพิสูจน์ว่า....เขารักฉันแล้ว”
    อี้หมิงแทรก“ตื่นได้แล้วฝันกลางวันอยู่ได้ตื่นได้แล้ว”
    เหม่ยลี่ไล่อี้หมิงลงจากรถไป เพื่อที่เธอจะได้เปลี่ยนชุดไปทำงาน
    ที่ห้องทำงานเซี่ยวเลี่ยง ฉีหยูรายงานยอดขายอยู่แต่เซี่ยวเลี่ยงที่ไม่ค่อยได้นอนเลยเบลอๆ ฉีหยูถามว่าเขาจะไปงานนิทรรศการที่จัดขึ้นเกาหลีหรือไม่ เขาว่าไปและสั่งให้ไปบอกเกาเหวินไปกับเขาด้วย ฉีหยูออกไป
    เหม่ยลี่เข้ามาเห็นเซี่ยวเลี่ยงหลับตาอยู่ก็มาเรียก ทำเอาเซี่ยวเลี่ยงตกใจ
    “นี่....วันนี้คุณตื่นเช้าจังทำไมไม่ปลุกฉันล่ะคะถ้าฉันตื่นเร็วกว่านี้จะได้ทำอาหารเช้าให้คุณด้วย”
    “อาหารเช้า นี่คุณยังจะมาแกล้งโง่กับผมอีกเหรอ”
    “คุณพาฉันไปบ้านคุณและให้ฉันนอนบนเตียงไม่ใช่เหรอ”
    “ผมเนี่ยนะพาคุณกลับบ้านเฮ่อพูดได้ดีจริงๆ เฮอะคุณนั่นแหละที่ตามผมไปที่บ้านเมาเหล้าไล่ก็ไม่ไปสุดท้ายยังตามผมไปที่เตียงอีกผมโตขนาดนี้ยังไม่เคยเจอผู้หญิงที่ไม่สงวนตัวแบบคุณเลย”
    “เมื่อคืนฉันไม่ได้ทำอะไรเกินเลยกับคุณใช่มั้ย”
    “เกินเลยเกินเลยจริงๆ ตอนนี้ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดออกไปออกไปสิ”
    เหม่ยลี่นำกาแฟกับเอกสารวางให้แล้วออกไป เซี่ยวเลี่ยงเหล่มองกาแฟ
    คืนวันนั้นเหม่ยลี่เอาหัวโขกกับไหล่ของอี้หมิงสะอื้น
    “เหลยอี้หมิงฉันไม่มีหน้าจะอยู่อีกแล้วให้ฉันไปตายเถอะนะขอร้องล่ะ”
    “เฮ้ยๆๆๆ นี่.. ให้ไหล่ฉันพักหน่อยได้มั้ยถ้าเธอชนไหล่ของฉันจนเสียหมดล่ะจะทำไงเธอจะเลี้ยงฉันเหรอ”
    เหม่ยลี่ยังไม่หยุด “ขนาดตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลยจะเอาพลังที่ไหนไปเลี้ยงนายล่ะฮือๆๆ”
    “หยุดพอได้แล้ว ถ้าพูดตามตรงการกระทำของเธอก็ไม่เลวนะต่อไปฉันจะได้ไม่ต้องกังวล”
    “เอาจริงๆ เลยนะมันไม่ง่ายเลยที่ฉันจะได้เป็นเทพธิดาสำหรับเซี่ยวเลี่ยงมันจะถูกทำลายแค่เพียงชั่ววูบแบบนี้ไม่ได้นะ”
    “ซื้ดก็ไม่เชิงหรอกแต่อย่างน้อยน่าจะถูกทำลายไปแปดสิบเก้าสิบเปอร์เซ็นก็พยายามใหม่เขาอาจจะคิดว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาโอ้ย”
    “พยายามใหม่ยังไงเซี่ยวเลี่ยงกับเกาเหวินจะไปเที่ยวต่างประเทศแล้วคราวนี้..แม้แต่หน้าของเซี่ยวเลี่ยงฉันก็จะไม่ได้เจออีกนานเลย”
    “จึ๊ เธออย่าเป็นแบบนี้ได้มั้ย เธออารมณ์ไม่ดีเธอควรออกไปสูดอากาศจริงมั้ยบางที..ออกไปเที่ยวแป๊บนึงพอกลับมาแล้วอาจจะลืมเซี่ยวเลี่ยงก็ได้นะฉันว่าดีออก”
    “พวกเขาไปซือมี่ต๋ากันแต่เราไม่มีเงินไปหรอก”
    “ซือซือมี่ต๋าอ้อหมายถึงโคเรียเกาหลีเหรอเราไม่มีเงินก็เที่ยวที่ๆ ไม่ต้องใช้เงินสิจริงมั้ยประเทศจีนของเรามีแม่น้ำภูเขาไปไหนก็ได้ฉันจะพาเธอไปที่ๆ นึง”
    “ที่ไหน”
    “ชานเมืองเซี่ยงไฮ้โจวจวง”
    “ได้เลยไปก็ไปหึ”
    เซียนหนานมาขอกระเป่าจากซือหยวนคืนก่อน อ้างว่าจะเอาไปอวดเพื่อนแค่วันเดียว แต่ซือหยวนว่าเธอใช้แล้ว และก็เอาไปอวดเพื่อนเหมือนกัน ทั้งสองแย่งกันจนหูขาด เซียนหนานจึงหลุดปากมาว่า
    “ดูสิทำขาดแล้วผมจะคืนเขายังไง”
    “อะไรนะคืนคืนให้ใครคุณซื้อให้ฉันไม่ใช่เหรอคุณเอากระเป๋ามาจากไหนไปยืมมาเหรอ”
    เซียนหนานเสียงเบา “ไม่ใช่”
    ซือหยวนสวน “พูดมา”
    “ผมเก็บมันได้เก็บได้ที่ร้านกาแฟลูกค้ากลับมาแล้วบอกว่าพรุ่งนี้ถ้าไม่คืนจะแจ้งความ”
    “นี่คุณขโมยกระเป๋าใบนี้มาใช่มั้ย”
    “ไม่ใช่ซะหน่อยเรียกว่าขโมยได้ยังไงผมเก็บมาผมอยากมีของขวัญให้คุณ”
    “มันแตกต่างกับขโมยตรงไหนคุณเอากระเป๋าของคนอื่นมาให้ฉันมันหมายความว่าอะไรรู้มั้ย”
    “ผมทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบก็แค่นั้นใช่ผมผิด ผมผิดไปแล้ว โอเคมั้ย”
    “ฉันเอากระเป๋าใบนี้อวดคนอื่นไปทั่วเลยคุณรู้มั้ยฉันบอกคนอื่นว่านี่คือของขวัญที่ดีที่สุดของฉันฉันมันน่าสมเพชจริงๆ ของขวัญที่แฟนฉันให้ฉันเป็นของที่เขาไปขโมยมา”
    “ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว”
    “ตั้งแต่คบกับคุณมาฉันไม่เคยรู้สึกรังเกียจคุณเลยซักครั้งคุณไม่มีความมุ่งมั่นฉันยังพอยอมรับได้ขอเพียงแค่คุณจริงใจกับฉันฉันคิดว่ามีแค่คุณคนเดียวก็เพียงพอแล้วแต่ตอนนี้ฉันเชื่อคุณไม่ได้อีกแล้วฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นฉันไม่ต้องการให้คุณกลายเป็นคนแบบนี้”
    “ที่รัก”
    ซือหยวนตวาด “อย่ามาแตะต้องฉัน”

กะรัตรัก Diamond Lover 6
    เมื่อเซียนหนานนำกระเป๋าไปคืน เจ้าของโวยวายที่หูขาด ต่อว่าเซียนหนานอย่างหนักและจะให้เซียนหนานชดใช้ แต่เซียนหนานไม่มีเงิน ซือหยวนจึงแสดงตัวว่าจะจ่ายให้ 
    “ฉันเป็นแฟนเขาคุณต้องการเงินไม่ใช่เหรอฉันจะชดใช้ให้คุณเองอีกอย่างมีสิทธิ์อะไรไล่เขาออกคุณเป็นเจ้าของร้านนี้เหรอถึงจะเป็นเจ้าของก็ต้องเคารพกฎหมายแรงงาน”
    “ที่รักหยุดพูดเถอะพอได้แล้ว” เซียนหนานปราม
    “ทำไมจะพูดไม่ได้ก็แค่กระเป๋าใบเดียวของชุ่ยๆ แบบนี้เราไม่พิศวาสหรอกบอกมาต้องจ่ายเท่าไหร่”
    “เฮอะเธอไม่รู้จักแบรนเนมสินะกระเป๋าใบนี้แพงมากอย่ามาพูดว่าไม่มีปัญญาคืนล่ะ”
    ซือหยวนสวนกลับว่า “นี่เป็นสินค้าตกรุ่นเมื่อปีที่แล้วคิดจะหลอกพวกเราเหรอตลาดช้อปปิ้งในประเทศอย่างมากก็หลักสี่ลดลงแล้วด้วยประเมินร้อยละห้าเป็นของใหม่ ของมือสอง”
    ซือหยวนส่งเงินให้ เจ้าของกระเป๋าอึ้งและโกรธจนพูดไม่ออก ซือหยวนพาเซียนหนานออกไปเลย จื่อเหลียงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรีบหลบ
    พอออกจากร้านมา เซียนหนานก็ขอโทษที่ทำให้เธออับอาย
    “รู้จักอับอายด้วยเหรอแล้วทำไมถึงทำแบบนี้ฉันไม่เคยอับอายขนาดนี้เลยทั้งหมดเป็นเพราะคุณคนเดียว”
    “ผมรู้ถ้าผมไม่ทำเรื่องอับอายต่อหน้าเพื่อนร่วมงานคุณคุณก็คงยอมรับผมใช่ผมรู้คุณหมายความว่าไง คุณรังเกียจผมที่ผมพึ่งคุณซือหยวนไม่ใช่ว่าทุกคนจะเก่งเหมือนคุณนี่”
    “คุณหมายความว่ายังไงเป็นเพราะฉันเอาแต่ใจฉันอวดเก่งเห็นฉันเป็นแบบนี้เหรอ”
    “สิ่งเหล่านั้นคุณเพิ่มเข้าไปเองอย่างกระเป๋าแบรนเนมถ้าคุณไม่ชอบผมก็ไม่ทำถ้าความต้องการของคุณน้อยกว่านี้เราคงไม่ต้องมาเหนื่อยแบบนี้หรอก”
    ซือหยวนสวน “นี่คุณโทษฉันเหรอใช่ฉันไม่ควรแสวงหาสิ่งที่ไม่ใช่ของฉันไม่ควรสร้างความกดดันให้คุณไม่ควรขออะไรจากคุณนับจากนี้ไปคิดซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นฉันไม่ขอให้คุณทำอะไรอีกแล้ว” 
    ซือหยวนเดินหนีไปเลย เซียนหนานเรียกก็ไม่หัน เขาได้แต่ถอนใจ
    เกาเหวินไม่อยากไปเกาหลีกับเซี่ยวเลี่ยง เขาพูดจนเธอยอมไป โดยให้พาคนติดตามไปด้วยคนหนึ่ง เกาเหวินเลือกเหม่ยลี่
    ฉีหยูไปบอกเหม่ยลี่ที่โต๊ะ เพื่อนร่วมงานพากันซุบซิบว่าทำไมเหม่ยลี่ถึงถูกเลือก เธอสนิทกับเซี่ยวเลี่ยงขนาดนั้นเลยเหรอ พอฉีหยูไปแล้ว จื่อเหลียงก็เรียกเธอเข้าไปพบ
    “นั่งสิเรื่องที่คุณเซี่ยวพาคุณไปต่างประเทศบอกคุณหรือยัง”
    “อื้อบอกแล้วค่ะ”
    จื่อเหลียงสงสัย “เอ๊ะมีผู้สมัครตั้งเยอะทำไมต้องเลือกให้คุณไป”
    “ฉันก็ไม่รู้ค่ะ”
    “อ้อได้ไปก็ดีเหมือนกันจะได้ฝึกเอาไว้มี่โตะช่วยคุณเซี่ยวทำงานดีๆ ล่ะ”
    “อื้อไม่ต้องห่วง วางใจได้ค่ะ”
    “อื้อคุณช่วยผมกำกับดูแลโปรแกรมของคุณเซี่ยวหน่อยมีเรื่องสำคัญอะไรต้องรายงานผม”
    “ทำไมคะ”
    “เขาเข้าร่วมการออกแบบนิทรรศการเกี่ยวข้องกับการทำงานแผนกเรา ผมต้องรู้ความเคลื่อนไหวของเขา จริงสินี่คือเรื่องระหว่างลูกน้องกับเจ้านายไม่จำเป็นต้องให้คุณเซี่ยวรู้เข้าใจที่ผมพูดมั้ยห๊า”
    “แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้งคะ”
    “อย่าลืมสิคุณมีความสำคัญกับงานนี้มากถ้างานนี้เสร็จสิ้นอย่างราบรื่นผมไม่เอาเปรียบคุณแน่”
    “แต่ว่าฉัน” จื่อเหลียงตัดบทให้เธอออกไป

0000000000000000

    เหม่ยลี่กำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า อี้หมิงเข้ามาพร้อมของกินและบอกว่ามีแปรงรุ่นใหม่มาอวดด้วย เหม่ยลี่ลุกขึ้นบอกว่าเธอไปโจวจวงไม่ได้แล้ว เพราะเซี่ยวเลี่ยงจะพาไปเกาหลี
    “เดี๋ยวๆ เซี่ยวเลี่ยงกับเกาเหวิน....ไปฮันนีมูนเธอตามไปด้วยแบบนี้จะดีเหรอ”
    “พวกเขาไม่ได้ไปฮันนีมูน เซี่ยวเลี่ยงไปเกาหลี เขาไปเพื่องานก็เลยพาเกาเหวินไปด้วย เกาเหวินก็เลยจะพาฉันไปด้วยให้ฉันไปเป็นผู้ช่วยเขา รู้สึกมั้ยว่าฉันเข้าใกล้ความฝันอีกก้าวแล้ว”
    “มานั่งลงฟังนะยัยอ้วน เซี่ยวเลี่ยงกับเกาเหวินไปเที่ยวใช่มั้ย เธอไปคืออะไรเป็นกขค.เหรอถ้าเขาสองคนใกล้ชิดกันเธอก็ต้องเจ็บปวดอย่าทำให้ตัวเองเจ็บปวดเลยนะ”
    “ไม่ตามพวกเขาก็ใกล้ชิดกันอยู่ดีงั้นตามดีกว่า”
    “เอ่อเกาหลีใกล้ขั้วโลกเหนือหนาวกว่าเซี่ยงไฮ้ถ้าเกิดเธอไปอยู่ที่นั่นแล้วเธอคงทนหนาว..ไม่ได้หรอก”
    “จริงด้วยเหลยอี้หมิงนายรอบคอบดีจังเอางี้เอ่อฉันจะไปหาเสื้อผ้าหนาๆ ตัวสวยๆ เอาแค่ไม่กี่ตัวจริงสิยาแก้หวัดที่ยืมไปเอาคืนมา”
    “เดี๋ยวๆ ยัยอ้วนทีแรกฉันกะจะเซอร์ไพส์ แต่ตอนนี้ดันมากลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ฉันคงต้องใช้ไม้แข็งแล้วล่ะ จะบอกให้หมูตุ๋นของโจวจวงอร่อยมากนะ”
    “นายลืมแล้วเหรอ ตอนนี้ฉันลดหุ่นอยู่ ฉันกินหมูตุ๋นไม่ได้อีกแล้ว นายก็เหมือนกันดูพุงซิเนี่ยนายก็กินไม่ได้อีกแล้ว ไม่งั้นนายจะเป็นเหมือนฉันเมื่อก่อน”
    “ในที่สุดฉันก็ดูออก คนลืมเพื่อน” อี้หมิงลุกหนีไป
    “นายลืมเพื่อนมายี่สิบปี ฉันจะลืมเพื่อนแค่ครั้งนี้ไม่ได้หรือไงอ้า”
    เจิ้นตงมาหาเซี่ยวเลี่ยงที่ห้อง เรื่องที่เขาจะไปเกาหลี เซี่ยงเลี่ยงถามพ่อว่ารู้แล้วเหรอ
    “เฮ่อ แกปิดบังเรื่องนี้กับฉันต้องการเอางาน..มาบังหน้าไปเยี่ยมแม่แกใช่มั้ย”
    “ผมไม่ได้คิดจะไปเจอแม่”
    “ไม่ไปเจอเขาแล้วทำไมต้องกลับไปทุกปีล่ะ แกรู้มั้ยแม่ของแกขอหย่ากับฉันก่อนและเขา..ก็ทิ้งแกกลับไปเกาหลีคนเดียว”
    “จึ๊ ผมไม่ลืมหรอกไม่มีวันลืม..เหตุผลที่แม่ไปจากพ่อ”
    “เซี่ยวเลี่ยงทำไมแกต้องเชื่อแต่แม่แก ทำไมไม่เชื่อฉัน ฉันเป็นพ่อแกนะ ตอนนั้นแกยังเด็กมาก แกไม่รู้เรื่องอะไรเลย แม่แกเข้าใจพ่อผิด อคติพ่อในตอนนั้นฉันทำงานเลิกเที่ยงคืนทุกวันก็เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว ฉันจะมีอารมณ์ที่ไหนไปหาผู้หญิงอื่นล่ะ”
    “เฮอะ เข้าใจผิดเหรอ แม่จากไปไม่นานพ่อก็แต่งงานกับเขาทันที ยังกล้าพูดว่าเขาไม่ใช่มือที่สามอีกเหรอ แม้ว่าพ่อจะเลิกกับแม่ก็ต้องเจ็บปวดอย่างน้อยเกือบปีคนที่ไปจากพ่อ..คือภรรยาพ่อนะ”
    “การหย่าร้างแม่ของแกเป็นคนเสนอเอง จะไม่มีวันกลับมาอีก แม่แกก็พูดเอง ฉันพาน้าหลินเข้าบ้านแกเคยรู้บ้างมั้ยว่าฉันทำไปทั้งหมดเพราะอะไร ก็เพราะจะดูแลแกให้ดีไง หลายปีมานี้แกไม่เคยเข้าใจ..ความหวังดีของฉันเลยนิสัยของแกเหมือนแม่แกไม่มีผิด ดื้อรั้นใจแคบเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง”
    “เฮ่อใช่ผมดื้อรั้นใจแคบแต่พ่อ พ่อเป็นคนดีพ่อบังคับให้ผมชอบน้าหลิน ใช้คำพูดความหวังดีเป็นข้ออ้างเผด็จการของพ่อ”
    “แต่ฉันเป็นพ่อแกนะฉันมีสิทธิ์จะทำแบบนี้”
    “แต่พ่อไม่มีสิทธิ์ห้าม ไม่ให้ผมไปเจอแม่ผู้ให้กำเนิดผม”
    “เฮ่อ เซี่ยวเลี่ยงแกพูดสิหลายปีมานี้เรื่องโง่ๆ ที่แกทำยังน้อยไปเหรอ เพื่อเย่ฉีคนนั้นของแก แกทำเรื่องโง่ๆ ไปตั้งเท่าไหร่ แกลืมไปแล้วหรือไง”
    “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”
    “แกทำให้ฉันผิดหวังมาก ไม่ว่ายังไงฉันไม่อนุญาตให้แกไปเจอแม่แก เป็นแฟนกับดาราคนนั้นก็ทำให้ฉันผิดหวังมากแล้ว แกอย่าทำเรื่องที่..ทำให้ฉันเจ็บปวดไปมากกว่านี้เลย”
    “เฮ่อ ผมจองตั๋วเครื่องบินแล้ว ผมไม่มีทางยกเลิกเด็ดขาด”
    “ถ้าฉันขอใช้ฐานะเจ้าของบริษัท ออกคำสั่งไม่ให้แกเดินทางไปเกาหลีล่ะ”
    “งั้นผมขอใช้ฐานะประธานบริษัท เรื่องที่แม้แต่พ่อผมยังห้ามไม่ได้ เจ้าของบริษัทยิ่งห้ามไม่ได้”
    “งั้นแกอย่ามาเสียใจภายหลังก็แล้วกัน” เจิ้นตงเจ็บปวด เดินออกจากห้องไป
    ที่ประเทศเกาหลี เหม่ยลี่ตื่นเต้นอยู่คนเดียว เกาเหวินว่าคงไม่มีปาปารัสซี่ตามมานะ ฉีหยูว่าวางใจได้ เขาพาทั้งสามเข้าที่พักก่อน แล้วจึงพากันไปพบแขก
    ระหว่างกำลังจะนั่งทานอาหาร เกาเหวินกระซิบถามเซี่ยวเลี่ยงที่เห็นเขาพูดภาษาเกาหลีเก่ง เขาว่าแม่เป็นคนเกาหลี แล้วตัดบทว่าอย่าถามเรื่องส่วนตัวมากนัก พอดีพนักงานมาเสิร์ฟน้ำ เกาเหวินหันไปพอดีชนน้ำหกใส่เสื้อเธอ
    เกาเหวินรีบไปเข้าห้องน้ำ เหม่ยลี่ตามไปช่วยเช็ด 
    “เฮ่อช่างเถอะๆ ฉันไม่ชอบงานสังสรรค์อยู่แล้วส่งฉันกลับเถอะเดี๋ยวโดนถ่ายรูป” เกาเหวินบ่น
    “วันนี้คุณเซี่ยวจะพาคุณมาเจอลูกค้าคนสำคัญนะเอางี้งั้นเรามาเปลี่ยนชุดกัน”
    “แล้วเธอจะใส่อะไร”
    “วันนี้ฉันมาเป็นผู้ช่วยของคุณไม่เป็นไรใส่ชุดฉันเถอะ นะอ้อจริงสิ คุณรักความสะอาดเดี๋ยวฉันไปซื้อชุดใหม่ให้”
    “เอ่อไม่ต้องฉันดีใจเกินไปเพราะฉันไม่เคยมีเพื่อนไม่เคยเปลี่ยนเสื้อผ้ากับใครเธอนี่ดีจัง”
    เกาเหวินเปลี่ยนชุดแล้วกลับเข้าไปนั่งกับเซี่ยวเลี่ยง เหม่ยลี่ตามออกไปแต่ชะงัก และถอยออกมา เซี่ยวเลี่ยงเห็นพอดี

กะรัตรัก Diamond Lover 6
    ที่โรงพยาบาล อี้หมิงนั่งทำงานไปเรื่อยๆ เซ็งๆ เสี่ยวเอ๋อเข้ามาทัก ว่ายังไม่กลับเหรอ อี้หมิงกลับให้ที่พักโจวจวง
    “ใช่แล้วที่ๆ ใหญ่ที่สุดสิบอันดับของประเทศสองวันนี้ว่างไปเที่ยวดูสิ” อี้หมิงว่า
    “จริงเหรอคะคุณหมอเหลยเมื่อไหร่เราจะ..”
    อี้หมิงสวน “จริงสิอย่าลืมพาแฟนไปด้วยล่ะ อย่าไปคนเดียวแล้วทิ้งเขาเอาไว้เขาอยู่ตรงนี้คนเดียวเหงามากน่าสงสารจริงๆ”
    “แต่ว่าตอนนี้ฉันโสดแล้ว” เสี่ยวเอ๋อ
    พอดีโทรศัพท์มา อี้หมิงรีบรับสายเหม่ยลี่ 
    “หาฮัลโหลทำไมมีอะไรหรือว่าคิดถึงฉัน”
    “เฮ่อ ฉันรู้สึกคิดถึงนายแล้ว”
    “จริงเหรอ”
    “เฮ้ย..ฉันฟังคนที่นี่ไม่รู้เรื่องเลยพวกเขาคุยอะไรกันฉันก็ไม่รู้ไม่รู้จักซักคนถ้านายอยู่คงจะดีไม่น้อยเลย”
    “ยัยอ้วนเธอพูดว่าเธอคิดถึงฉันเหรอ”
    “ใช่เหลยอี้หมิง”
    “เดี๋ยวฉันโทรหานะ”
    “เอ่อคุณหมอเหลยจะทำอะไรคะ”
    อี้หมิงถอดเสื้อ “เลิกงานแล้วก็ต้องกลับบ้านจริงสิอีกสองวันเป็นวันหยุดพอดีผมจะไปต่างประเทศเก็บให้ที”
    อี้หมิงวิ่งออกไปเลย เขากลับไปเก็บเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้านทันที
    เหม่ยลี่ยืนเหม่อลำพัง เซี่ยวเลี่ยงเดินมาหาถามว่าอยู่คนเดียวทำไม
    “เอ่อ เมื่อกี้ฉันเห็นกระโปงของเธอเปียกเธอต้องไปเข้าร่วมงานสังสรรค์กับคุณอีกฉันเลยเปลี่ยนกับเธอ” เซี่ยวเลี่ยงอึ้ง

จบตอนที่ 6

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ