บันเทิง

จงทำฝันให้มันไลฟ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ขบคิดขีดเขียน : จงทำฝันให้มันไลฟ์ : โดย...หญิงยศ / twitter : @YossieBistro

 
       สองอาทิตย์ที่ผ่านมา เอาตัวเองไปทำความรู้จักกับการ Live ทาง Facebook อย่างเข้มข้นเลยทีเดียว ยอมรับว่าตอนแรกเหมือนเป็นคนบ้านิดๆ กับการต้องพูดอยู่คนเดียวหน้ากล้อง แต่เอ๊ะ ยิ่งพูดก็ยิ่งมัน หลังๆ ใส่หน้าตาท่าทางเข้าไปมากจนบางทีพอรู้สึกตัว ถึงกับต้องดึงๆ ตัวเองลงมาบ้าง เกรงใจคนรอบข้าง สำหรับใครที่ยังไม่ได้ติดตามกันก็คงต้องขอฝาก YossieBistro Page เอาไว้ด้วยนะคะ
 
       คาดว่าคนรุ่นต่อไป บุคลิกคงประหลาดจนกู่ไม่กลับ ต่างคนก็ต่างไลฟ์กันไป ไอ้การเซลฟี่ที่ว่าแย่แล้ว ไลฟ์นี่คงทำให้เสียจริตกันขึ้นไปอีกทวีคูณ หญิงยศยอมรับตรงนี้ว่ายังไม่กล้าพอที่จะไลฟ์จากนอกบ้านถ้าอยู่คนเดียว หรือถ้าจะไลฟ์โดยที่มีสามีอยู่ด้วย ก็ต้องมุมที่พูดจาได้ แต่ก็ต้องพูดเบาๆ เอาเป็นว่าอย่างไรก็อย่าให้เสียมารยาทของการใช้พื้นที่สาธารณะกันจนเกินไปโนะ!
 
       แต่ต้องยอมรับจริงๆ นะคะว่า คุณมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก นี่แกทำได้อย่างที่ประกาศกันจริงๆ ภายในเวลาไม่ถึงเดือนดีที่แกเปิดบริการ Facebook Live นี้พร้อมกับประกาศว่ามันมาเพื่อเขย่าวงการทีวี มันก็ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนได้จริงๆ เสียด้วย เอาแค่บรรดาคนดังทั้งหลายต่างก็เปิดเพจส่วนตัวกันให้จ้าละวั่น ใครไปไหนมาไหนก็ไลฟ์ให้ดูกันไปสดๆ เราเห็นกาละแมร์วิ่งคุ้ยตู้เย็นตอนเช้า ชมพู่สอนทำผมทรงโปรด น้องอีนี่ที่แอบลุงเอมาไลฟ์หลังเต้นซุมบ้า หรือแม้แต่พี่ติ๊นาตอนเพิ่งตื่นนอน!! เหล่าเซเลบ ดารา ดาหน้ากันมาอยู่แค่ปลายนิ้วมือ เดินขบวนกันมาบอกว่าใช้ชีวิตยังไง อยู่กับสินค้าไหนจริงๆ ไม่อิงโฆษณา เราดูเราก็สนุกไปกับความดิบ ความจริง ความหน้าสดของเหล่าคนดังไปกันด้วย จนบางทีก็ยอมรับว่า เฮ้ย มันสนุกกว่าเรียลิตี้ทีวี หรือละครเป็นไหนๆ ฉันดูแล้วไม่ต้องรู้สึกแย่กับตัวเองมากนัก เมื่อกาละแมร์ยังหน้ามัน อ้น ศรีพรรณ ยังแพ้เครื่องสำอาง ส่วนชมพู่... เอ่อ... ยกไว้คนละกัน อะไรมันจะสวยได้ตลอดเวลาขนาดนั้นก็ไม่รู้ น่ามคาน!!
 
       แต่สำหรับหญิงยศต้องบอกว่าเสน่ห์ของการไลฟ์มันคือ การได้พูดคุยกับคนที่ติดตามเราสดๆ และได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างจริงจังค่ะ ตอนที่เรียนทำอาหารจบมาใหม่ๆ นั้น หญิงยศเต็มไปด้ยความฝัน และความฝันหนึ่งที่แน่นอนก็คือการได้ทำรายการอาหารที่ให้ความรู้ที่ถูกต้อง และเราได้ทำอาหารแบบที่เราชอบและเราทานอยู่จริงๆ ในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย และเริ่มต้นที่จะสร้างความฝันให้เป็นจริงนั้น มันกลับได้รับคอมเม้นท์ต่างๆ มากมาย เพราะในสิบปีก่อนหรือแม้แต่เมื่อห้าปีก่อน หรือแม้แต่เมื่อปีที่แล้วนี้เอง ถ้าเราจะทำรายการอาหารเพื่อลงสื่อหลักอย่างทีวี เราต้องเอาใจคนมากมายเหลือเกิน จนเราไม่สามารถทำอะไรตามใจเราได้เลย ทุกคนจะพร้อมกันรุมเพื่อมาบอกหญิงยศว่าอันนี้ทำไม่ได้ อันนั้นก็ไม่ควร ใช้เหล้าประกอบอาหารไม่ได้ ทำไมอาหารมันฝรั่งจ๋าขนาดนี้ ช่วยทำอาหารไทยมากขึ้นได้ไหม ออกไปทำข้างนอกได้ไหม พาไปชิมอาหารด้วยได้ไหมคนชอบดู เที่ยวไปชิมไปได้ไหม แค่ทำอาหารอย่างเดียวไม่น่าจะเอาอยู่... สุดท้ายรายการอาหารในฝันของเราก็กลายไปเป็นรายการอะไรไม่รู้ของคนอื่น นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอกับทุกๆคน
 
       กระบวนการสร้างฝันมันจะบิดให้ความฝันของเรามันเบี้ยว มันเลี้ยวไปทางอื่นจนพอรู้สึกตัวอีกที เราแทบจะจำความฝันของตัวเองไม่ได้เลยทีเดียว เราเริ่มจากปั้นฝันของเรา แล้วไปจบที่การสร้างฝันให้คนอื่นเสมอ
 
       ก็คงต้องขอบคุณ Facebook Live ที่มาปลุกความฝันอันนั้นของหญิงยศให้ลุกโชนอีกครั้ง เราตัดสินใจทำโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่ตัดสิน ไม่วิจารณ์ ไม่คิดมาก เพียงแค่ลงมือทำ และทำตามอย่างที่ใจเราอยากทำ พูดในสิ่งที่เรารู้และเชื่อ สื่อสารด้วยความหวังดี และทำหน้าที่สื่อในแบบที่เราได้รับการปลูกฝังมา คนติดตามอาจไม่ได้มากมาย แต่คนที่ติดตามคือขาประจำที่รักในสิ่งเดียวกัน ไม่ว่าหญิงยศจะทำอาหารอะไรในตอนเช้า ตกบ่ายนั้นจะมีคนถ่ายรูปอาหารที่ทำแล้วส่งการบ้านมาให้ดูเสมอ บางคนทำให้ตัวเองทาน บางคนทำให้ลูก บางคนทำให้คุณพ่อคุณแม่ บางคนทำให้สามี บางคนเห็นแล้วเริ่มคิดอยากจะทำ ทั้งหมดคือค่าตอบแทนที่มีค่ามากกว่าเงินทองใดๆ มันคืออาหารใจและจิตวิญญาณที่ตอบกลับมาให้เรารู้ว่า สิ่งที่เราทำนั้นมันเป็นประโยชน์กับคนอื่น ไม่มากก็น้อย และนี่มีค่ามากเหลือเกินค่ะ
 
       หญิงยศได้รับค่าตอบแทนเป็นความฝัน ความฝันที่ถูกหลงลืมไปนานแล้ว วันนี้มันกลับมาใหม่และมันช่วยปลุกตัวตนของเราที่หลับไปแล้วให้ตื่นขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกที่โคตรฟิน และเป็นสิ่งที่อยากจะบอกทุกๆ คนที่หลงลืมความฝันของตัวเองไปค่ะว่า... ยุคนี้มันมีช่องทางมากมายที่คุณจะสามารถตามล่าฝันของคุณได้ อย่าท้อและอย่าเอาแต่วิจารณ์ อย่าเอาแต่ตัดสินตัวเองว่าทำได้หรือไม่ได้ เรายุ่งหรือไม่ยุ่ง เราเหนื่อยหรือไม่เหนื่อย อย่าเสียเวลาตั้งข้อแก้ตัว ความฝันมันอยู่แค่สุดมือนี่เอง เอื้อมไปให้ถึง เพราะสุดท้ายงานที่ได้เงินนั้นมันเลี้ยงปากท้องก็จริง แต่ฝันที่กลายเป็นความจริงมันคือการหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ อย่าเสียเวลาคิดแต่ว่าฝันของเราเล็กเกินไป ใหญ่เกินไป ยากเกินไป อย่าคิดแต่ว่าเราคงทำไม่ได้ เพราะสุดท้ายมันมีคนอยู่สองประเภทเท่านั้นเองในโลกนี้ คือคนที่ลงมือทำ กับคนที่ไม่ลงมือทำ...
 
       จงเป็นคนที่ลงมือทำ ทำงานให้หนัก ทำงานด้วยมันสมองและสองมือ อย่าเอาแต่ทำงานด้วยปาก ที่วันๆเอาแต่พ่น เอาแต่บ่น เอาแต่สั่ง คำพูดไม่ได้มีค่าอะไรมากไปกว่าลมตด.. กรุณาหัดงดใช้เสียงแล้วหันมาลงมือทำให้ความฝันมันจริงขึ้นมาสักที
 
       ในยุคที่ทุกอย่างมันมาอยู่ปลายนิ่วมือคุณขนาดนี้ ไม่เริ่มวันนี้แล้วจะเริ่มวันไหนกันคะคุ๊ณ?
 
 
 
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ