4ผู้กำกับหญิงแกร่งละครโทรทัศน์เมืองไทย

          ก่อนหน้านี้หน้าที่ผู้กำกับละครโทรทัศน์บ้านเรา มักจะแต่ผู้กำกับชายเป็นส่วนมาก จะทราบหรือไม่ว่า ณ วันนี้วงการละครบ้านเราเปิดกว้างให้ผู้หญิงมากขึ้น เพราะปัจจุบันผู้กำกับละครโทรทัศน์มีผู้หญิงกำกับแล้วจ้า...แถมละครบางเรื่องที่ผ่านมือผู้กำกับหญิงส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ละเมียดละไม และมีมุมที่แตกต่างออกไป ส่งผลให้ละครบางเรื่องสร้างความประทับใจให้กับคอละครอยู่เป็นนานสองนาน สกู๊ปคมชัดลึกเลยขอหยิบยก 4 ผู้กำกับหญิงคนเก่งมาให้ได้เชยชมกัน แต่จะมีใครบ้างนั้นมาดูกัน
 
          ออกสตาร์ทกับสาวเก่ง "ปุ๊ย-ผอูน จันทรศิริ" นักแสดงที่มีความสามารถรอบ เธอเกิดมาเพื่อเติมเต็มให้วงการบันเทิงมีสีสัน เพราะนอกจากจะเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทแล้ว ยังมีดีกรีเป็นถึงผู้กำกับการแสดงทั้งละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ รวมไปละครเวทีอีกด้วย เรียกว่าเธอสั่งสมประสบการณ์ในวงการอยู่หลายปี จนได้รับโอกาสจากทางค่ายเอ็กแซ็กท์ เพื่อท้าทายความสามารถ ในการรับหน้าที่ผู้กำกับละครอย่างเต็มตัว และประเดิมเรื่องแรก ม่ายค่ะ เมื่อปี 2537   
 
          ซึ่งเมื่อถามว่ากระแสตอบรับเป็นอย่างไรนั้น ก็คงต้องบอกว่ายากจะหยั่งรู้ เพราะในยุคนั้นผู้ชมให้ความสนใจกับตัวนักแสดงมากกว่า จากนั้นปุ๊ยยังมีผลงานการกำกับละครอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นละครเรื่อง แอบเก็บใจไว้ใกล้เธอ มารยาริษยา ในเวอร์ชั่น "นก-สินจัย เปล่งพานิช" และ "ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม" เรียกว่าผลงานกำกับเรื่องดังกล่าวทำให้เธอได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะเจ้าตัวได้ถ่ายทอดมุมมองผู้หญิงผ่านมายังตัวละครที่ชื่อว่า "เพียงดาว" และ "ดีนี่" ได้อย่างเข้มข้น และอีกผลงานที่ยังคงได้รับการกล่าวถึงอยู่ทุกวันนี้คือ มาลัยสามชาย 
 
          ขยับมาที่ผู้กำกับสาวคนที่ 2 "แอ้ว-อำไพพร จิตต์ไม่งง" เริ่มต้นจากการเป็นแอ็คติ้ง ไดเร็คติ้ง ทางละครเวทีมาก่อน และค่อยๆ ขยับตัวขึ้นมาเป็นแอ็คติ้งโค้ช ผู้ช่วยผู้กำกับละคร จากนั้นไต่ระดับมาเป็นผู้กำกับละครทางช่อง 3  ผลงานที่ผ่านสายตาคอละครบ้านเรา สาวฮอตหนุ่มแฮ้ว ผู้ชายมือ 2  บัวปริ่มน้ำ และอื่นๆ อีกเพียบ แต่ละครที่เรียกว่าทำให้เป็นที่รู้จักในฐานะของผู้กำกับหญิงก็คือ อุ้มรัก ที่มี "เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" โคจรมาพบกับ แอน ทองประสม จากมุมมองของผู้กำกับที่เป็นผู้หญิง ส่งผลให้ละครเรื่อง "อุ้มรัก" เต็มไปด้วยเนื้อหาละมุนละไม และน่าติดตามส่งผลให้ละครเรื่องดังกล่าวครองใจใครหลายๆ คน 
 
          และแน่นอนว่าผลงานแต่ละครเรื่อง ที่สาวคนนี้อยู่เบื้องหลังได้รับการกล่าวขวัญและชื่นชมเสมอไม่ว่าจะเป็น สวรรค์เบี่ยง, ใจร้าว, สูตรเสน่หา, เกมร้ายเกมรัก และล่าสุดที่กำลังจะออกอากาศสู่สายตาประชาชนเรื่อง ปัญญาชนก้นครัว ซึ่งครั้งนี้แอ้วเคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ในรายการ 168 ชั่วโมง ว่าในการทำงานของเธอรวมไปถึงมุมมองของเธอนั้น ไม่แปลกที่เธออยากจะเห็นฉากกุ๊กกิ๊ก และโรแมนติคของพระเอก-นางเอก มั่กๆ จึงจะค่อยเสริมแต่งบทดังกล่าวขึ้นมา ดังนั้นจึงไม่เแปลกที่ฉากหวานๆ ในละครจะสามารถกระตุ้นต่อมคอละครโดยเฉพาะสาวๆ ได้เคลิ้มไปเสียทุกครั้งไป 
 
          อีกหนึ่งสาวที่ต้องพูดถึงก็คือ "ชุ-ชุดาภา จันทเขตต์" หรือที่ใครๆ ต่างพากันติดภาพ "ผีอีเม้ย" กันไปแล้ว ถือว่าเธอเป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวที่มีความสามารถล้นเหลือ ไม่ว่าจะบทบาทไหนตีบทแตกกระจุยมานักต่อนัก เรียกว่านักแสดงรุ่นใหม่ยกให้สาวคนนี้เป็นปรมาจารย์ด้านการแสดง และหลายต่อหลายครั้งเธอเองก็ต้องสวมหมวกเป็น โค้ชแอ็คติ้ง ฝึกปรือทักษะการแสดงของนักแสดงรุ่นน้อง เชื่อขนมกินได้เลยว่านักแสดงคลื่นลูกใหม่คนใดที่ผ่านมือของ "ครูชุ" มาแล้วล่ะก็ ดังระเบิดทุกราย เพราะสามารถเข้าถึงจิตวิญญาณของการเป็นนักแสดง และในที่สุดหลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาอยู่นานโข ชุได้รับโอกาสเหมาะจากผู้จัดคนเก่ง แถมมีดีกรีเป็นถึงเพื่อนสนิทอย่าง "ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล" ในการกำกับละครเรื่อง ทองประกายแสด ออกอากาศทางช่อง 8 ถึงแม้จะออกอากาศทางเคเบิล แต่ก็ต้องบอกว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะนอกจากสาว "พิงค์กี้-สาวิกา ไชยเดช" จะยอมพลิกมาเล่นร้ายได้แบบถึงพริกถึงขิง ผู้กำกับคนเก่งยังสามารถถ่ายทอดเนื้อหาของเรื่องได้ดี จนผลงานการทำงานถูกอกถูกใจผู้จัดคนสวยอย่าง "ตู่" ปิยวดี มาลีนนท์ ทาบให้มากำกับการแสดงเรื่อง พรพรหมอลเลง แล้วจ้า
 
          ปิดท้ายด้วยผู้กำกับสาวคนนี้ที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ตอนนี้คงหนีไม่พ้น "บุ๋ม-รัญญา ศิยานนท์" เจ้าของผลงานการกำกับเรื่อง "มารยาริษยา" เวอร์ชั่น 2012  ที่หลายๆ คนต่างพูดถึง เพราะในการตีความครั้งนี้ของเธอแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่ "ปุ๊ย-ผอูน" ทำไว้อย่างสิ้นเชิง โดยเจ้าตัวเผยว่าการทำงานในครั้งนี้ เธอไม่ได้นำเวอร์ชั่นเก่ากลับมาดูเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะไม่ต้องการกดดันตัวเอง และเธอยังตีความหมายของมุมมองความรักไว้ว่า เมื่อรักมากก็ย่อมหวงมากเป็นธรรมดา  ซึ่งบุ๋มยอมรับว่า เพราะละครเรื่องนี้เองทำให้คนดูละครเดินเข้ามาพูดคุยกับตัวเองมากกว่าเมื่อก่อน  ถ้าเปรียบเทียบจากเรื่องก่อนๆ ที่เธอกำกับ อย่าง เมียไม่ใช่เมีย นอกจากนี้ผู้กำกับคนเก่งยังทิ้งท้ายไว้ว่า เธอขอหยุดพักงานกำกับละครไว้นานกว่า 4-5 เดือน เพราะต้องการหาแรงบันดาลใจในการทำงานอีกครั้ง
.......................................
(หมายเหตุ 4ผู้กำกับหญิงแกร่งแห่งละครโทรทัศน์เมืองไทย : สกู๊ปบันเทิง)