ตามรอยหนังรัก ในย่านโรแมนติกที่ลอนดอน

           เมื่อปี พ.ศ. 2542 มีหนังโรแมนติกเล็กๆ เรื่องหนึ่งออกฉาย แต่กลับทำรายได้ถล่มทลายไปทั่วโลก ทั้งๆ ที่เรื่องราวนั้นสุดแสนจะน้ำเน่าอันว่าด้วยความรักต่างสถานะ ระหว่างดาราซูเปอร์สตาร์สาวสวยของฮอลลีวู้ดกับหนุ่มขี้อายเจ้าของร้านขายหนังสือเล็กๆ แห่งหนึ่งในย่านน็อตติ้ง ฮิลล์ มหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ หนังเรื่องนี้ใช้ชื่อเดียวกันว่า “Notting Hill” ส่วนร้านหนังสือของพระเอกในเรื่องก็มีชื่อเก๋ๆ ว่า ‘The Travel Book Shop’ โดดเด่นตรงที่ทาสีประตูทั้งบานด้วยสีฟ้าสดใส
 
          เรื่องราวความรักพาฝันแบบซินเดอเรลล่ากลับด้าน (จากหญิงชาวบ้านกับเจ้าชายสูงศักดิ์ มาเป็นหนุ่มบ้านๆ กับดาราซูเปอร์สตาร์สาวสวย) กลายเป็นที่โจษจัน โดนใจคนดูหนังไปค่อนโลก ไม่เพียงแค่เสน่ห์ของตัวละคร หากแต่อาคารสถานที่ ที่ปรากฏในหนังยังเป็นที่จดจำและทำให้คนอีกซีกโลกออกตามหา และจากนั้นมา ถนนสายเล็กๆ ที่ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ชาวบ้านละแวกนั้นจะออกมาตั้งร้านขายสินค้าทำมือ สินค้ามือสอง อาหารสด อาหารแห้ง งานฝีมือศิลปหัตถกรรม ก็กลายเป็นถนนที่มีผู้คนพลุกพล่าน เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่นอกจากมาเดินยลตึกรามบ้านเรือนแล้ว ยังซื้อหาของที่ระลึกติดไม้ติดมือด้วย
  
          Pembridge (เพมบริดจ์) เป็นถนนสายหลักเส้นหนึ่งในย่านน็อตติ้งฮิลล์ ครับ นอกจากความสวยงามของอาคารบ้านเรือนที่ปลูกสร้างในสไตล์วิคตอเรียร่วมสมัยที่เน้นงานปูนปั้นแล้ว สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือ การฉาบทาสีสันอ่อนหวานสดใสลงไปบนตัวอาคาร รวมถึงประดับประดาด้วยไม้ดอกไม้ประดับ ที่จัดแต่งเป็นสวนสวยขนาดย่อมๆเหมาะกับพื้นที่ของบ้าน
 
          "Notting Hill" อยู่ในเขตตะวันตกของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในช่วงศตวรรษที่ 19 ย่านนี้เคยเป็นฟาร์มเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชมาก่อน และถ้าย้อนกลับไปไกลกว่านั้น บริวณนี้เคยเป็นที่ดินของขุนนางชั้นสูง ซึ่งเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ มีผู้คนเข้ามาอาศัยอยู่มากมาย
 
          สำหรับถนนเพมบริดจ์ปัจจุบัน เต็มไปด้วยบ้านพักอาศัย ร้านค้า ร้านอาหาร ผับ เรียงรายอยู่ตลอดสองฝั่งถนน แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนย่านน็อตติ้ง ฮิลล์ เห็นจะเป็นถนนสายเล็กๆ ที่ชื่อ ‘Portobello Street’ (พอร์ทเทเบิลโล สตรีท)
 
          ตลอดสองฟากฝั่งถนนพอร์ทเทอเบลโล มีพ่อค้าแม่ขายจับจองพื้นที่นำข้าวของเกือบทุกชนิด ตั้งแต่เครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อย ชุดถ้วยชากาแฟ ผ้าพันคอสวยๆ หรือจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ไปจนถึงเสื้อผ้าแฟชั่น นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภทของเก่า คลาสสิก ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูป แผ่นเสียง โคมไฟ หนังสือ ถือเป็นตลาดของเก่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มีนักท่องเที่ยวในแต่ละวันหลายหมื่นคน มีคนท้องถิ่นตั้งแผงขายของมากว่า 1,500 ร้าน
 
          พอร์ทเทอเบลโล สตรีท ยังถือเป็นถนนสายศิลปะ เพราะมีทั้งงานจิตกรรม ประติมากรรม ทั้งภาพวาด ภาพถ่าย งานปูนปั้น แกะสลัก หล่อโลหะ ต่างๆ นานา แล้วยังมีศิลปินเปิดหมวก คอยบรรเลงเชลโล่ ในท่วงทำนองสนุกๆ เป็นใช้เสียงดนตรีหารายได้แลกกับเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ ของผู้ที่ผ่านไปมาครับ
 
          ถนน Portobello สร้างขึ้นในยุควิคตอเรียช่วงก่อนปีคริสตศักราช 1850 เดิมเป็นถนนสายเล็กๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างฟาร์ม พอร์ทเทอเบลโล และ ย่านที่พักอาศัยชื่อ ‘Kensal Green’ทางตอนเหนือ ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 19 ผู้คนก็เริ่มมาตั้งวางขายสินค้าโดยเริ่มจากของมือสอง ก่อนจะพัฒนากลายเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในมหานครลอนดอน
 
          หลังจากที่หนัง “Notting Hill” ออกฉาย ผู้คนก็แห่ไปหาร้านหนังสือประตูสีฟ้า “The Travel Bookshop” ในย่านน็อตติ้ง ฮิลล์ (บ้านเราก็มีคนตั้งชื่อร้านหนังสือว่า “หนังสือเดินทาง” และ “ประตูสีฟ้า”) ปัจจุบัน ร้านนี้ไม่มีแล้ว แต่มีร้านที่ทาประตูสีฟ้ามากมายหลายร้าน ขายทั้งหนังสือและของที่ระลึก บางร้านตั้งชื่อว่า ‘The Blue Door’ ก็มี เดิมทีร้าน The Travel Bookshop เคยตั้งอยู่จริงๆ ในย่าน Notthing Hill ครับ ผู้ก่อตั้งเป็นผู้หญิงชื่อ Sarah Anderson เปิดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1979 ริชาร์ด เคอร์ติส คนเขียนบทหนังเรื่อง “น็อตติ้ง ฮิลล์” ก็เคยมาใช้บริการร้าน “The Travel Bookshop” เป็นสถานที่หาข้อมูลในการเขียนบท ด้วยการศึกษาพฤติกรรมลูกค้าในร้านหนังสือ และยังคิดคาแร็กเตอร์ของตัวพระเอก ผู้ชายใสซื่อ ที่ชื่อวิลเลี่ยม ทัคเกอร์ ซึ่งรับบทโดยฮิวจ์ แกรนท์ จนกลายเป็นตัวละครที่คนดูหลงรักในหนังเรื่องน็อตติ้ง ฮิลล์ ครับ
 
          ปัจจุบันร้าน “The Travel Bookshop” เปลี่ยนเป็นร้านขายของที่ระลึกชื่อ “Notting Hill” แต่ยังคงรูปลักษณ์ของประตูสีฟ้าอยู่เหมือนเดิม ขณะที่ร้านขายอาหารสดข้างๆ กัน (ในหนังก็มีร้านนี้ปรากฏอยู่ด้วย)ชื่อ ‘Kingsland Edwardrian Butchers’ ปิดกิจการไปแล้ว
 
          ทุกๆ เดือนสิงหาคมของทุกปี ที่นี่จะจัดงาน Notting Hill Carnival ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1966 ถือเป็นเทศกาลที่จัดบนท้องถนน หรือ street festival ที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก จัดโดยชุมชนชาวอังกฤษเชื้อสายแอฟริกันแถบทะเลคาริเบียนที่ย้ายมาอยู่ที่นี่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 งานจะเริ่มจากการประกวดวงดนตรีสไตล์แคริบเบียน ในวันเสาร์  ส่วนวันอาทิตย์จัดให้เป็นวันสำหรับเด็กให้ได้ออกมาร่วมแต่งตัวแฟนซีและทำกิจกรรมโดยไม่ต้องเบียดเสียดยัดเยียดกับผู้ใหญ่ ส่วนวันเทศกาลเต็มรูปแบบ คือวันจันทร์ซึ่งจะมีพาเหรดตระการตาเดินโชว์เป็นระยะทางราว 3 ไมล์ โดยถือเป็นงานเทศกาลบนท้องถนนงานหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเคยมีสถิติผู้เข้าร่วมงานมากถึง 1.5 ล้านคน ในช่วงถนนหนทางของย่าน Notting Hill จะเต็มไปด้วยสีสันและบทเพลงสไตล์แคริบเบียน สำหรับน็อตติ้ง ฮิลล์ คานิวัล จะมีจุดเด่นอยู่ที่แผงขายอาหารสไตล์แคริบเบียนนับร้อยแผง ขบวนพาเหรดสุดอลังการ ซึ่งงานคาร์นิวัลมักจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 และวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม
 
          ตามรอยหนังรักครั้งนี้ นอกจากได้รำลึกนึกถึงบรรยากาศโรแมนติกเมื่อครั้งอดีตแล้ว ยังได้ความเพลิดเพลินระหว่างเดินทอดน่องท่องตลาดพอร์ทโทเบลโลอีกด้วย จึงไม่แปลก ที่แต่ละวัน จะมีนักท่องเที่ยวพากันมาเที่ยวชมไม่ขาด