พรรคครูไทยฯ แนะครูคิดก่อนค้ำ “หนี้ครู” แฉครูรุ่นกลาง กู้แล้วเผ่นไปนอก

มีความพยายามมาทุกรัฐบาล เพื่อแบ่งเบาและลดภาระครู รวมถึงการแก้ปัญหา “หนี้ครู” ให้มีขวัญและกำลังใจในการทำหน้าที่ครู แต่ข้าราชการครูกว่า 900,000 ราย มีมูลหนี้รวมกัน 1.4 ล้านล้านบาท เป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก 

แม้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)กำหนดให้ครูมีเงินเหลือเพื่อดำรงชีพอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของเงินเดือน ภายในเดือนมกราคม 2567

แต่ดูเหมือนว่า ต้นตอของปัญหา “หนี้ครู” ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะเจ้าหนี้รายใหญ่ของครูนั้นมาจาก “สหกรณ์ออมทรัพย์ครู” ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ มีสถานะเป็นนิติบุคคล บริหารจัดการในรูปแบบคณะกรรมการ หรือบอร์ด

ดร.ปรีดา​ บุญเพลิง​ สส.บัญชีรายชื่อ​ หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน​ เปิดเผย “คมชัดลึก” ว่า ปัญหาหนี้ครูแก้ยากสาเหตุหนึ่งมาจากดอกเบี้ยที่ครูกู้เงินมาจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนั้น มีตั้งแต่ 4.50-6 % ขณะที่ครูส่วนมากเรียกร้องขอให้ลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 3 เพื่อบรรเทาความเือดร้อนของครู หากบอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไม่หวังกำไรเกินควร ก็ลดดอกเบี้ยช่วยครูได้

"ปัจจุบันมี 108 สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ลูกหนี้สหกรณ์ฯ ส่วนมากเป็นครู ผมและองค์กรครูได้ร่วมมือศึกษาวิจัยเพื่อหาทางแก้ปัญหาหนี้ครู ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้เสนอรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีศึกษาธิการในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาตรงจุด ส่วนตัวจึงต้องเดินสายขอความร่วมมือจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ช่วยลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ครูด้วย ที่น่ายินดีมีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครศรีธรรมราช ยุคอาจารย์จำเริญ​ พรหมมาศ​ เป็นประธานสหกรณ์ฯ คิดดอกเบี้ยเงินกู้​ 4. 50% เพื่อช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ที่เดือดร้อน​ ได้มีเงินเหลือดำรงชีพ ช่วยครู​ได้ถึง 1,000 คน แล้ว" ดร.ปรีดา ระบุ

ดร.ปรีดา เผยอีกว่า จากการลงพื้นที่สัมผัสชีวิตเพื่อนครู กลับพบปัญหาใหม่ ที่ทำให้ครูยังเป็นหนี้ เนื่องมาจากครูค้ำประกันเงินกู้ให้เพื่อนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพบครูด้วยกัน วนเป็นงูกินหาง และเป็นขบวนการใหม่ โดยครูรุ่นกลาง อายุ 50 ปีอัพ ขาดคุณธรรมจริยธรรมเมื่อยื่นกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ได้รับเงิน 3 ล้านบาทก็หนีไปต่างประเทศ สร้างความเดือดร้อนให้ครูที่ค้ำประกัน ต้องมาชดใช้หนี้แทนอย่างไม่เป็นธรรม ดังนั้นครูต้องคิดให้ดีก่อนค้ำ “หนี้ครู”