ลุ้น ครม.สัญจร ชี้ขาด สร้างสะพานข้าม “เกาะพยาม” เด็กไม่ต้องลุยน้ำไปรร.
มหาดไทย แจงข้อมูลงานก่อสร้างสะพานข้าม “เกาะพยาม” อ่าวเขาควาย ย้ำ อนุทิน พร้อมผลักดันโครงการให้สำเร็จ ใช้โอกาส ครม.สัญจร จ.ระนอง 22-23 ม.ค. นี้ เร่งแก้ไขความเดือดร้อนประชาชน และนักเรียนชาวมอร์แกน ไม่ต้องลุยน้ำ นั่งแพไปโรงเรียนแบบถาวร
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้รับรายงานถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพและข้อมูลเกี่ยวกับความเดือดร้อนของนักเรียนชาวมอร์แกน ในการเดินทางไปโรงเรียนบ้านเกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง ที่ต้องลุยน้ำ นั่งแพข้ามคลองซึ่งเสี่ยงอันตราย โดย รมว.มหาดไทยไม่นิ่งนอนใจได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที
ทั้งนี้ ได้รับการชี้แจงทางโรงเรียนบ้านเกาะพยามว่าปัจจุบันการเดินทางของนักเรียน จะใช้โป๊ะชักรอกข้ามคลองในกรณีน้ำขึ้น ส่วนเมื่อน้ำลงนักเรียนสามารถเดินข้ามไป-กลับระหว่างโรงเรียนกับที่พักได้ และการเดินทางด้วยวิธีนี้เป็นวิถีปกติของนักเรียนชาวมอร์แกน ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดรถรับส่งนักเรียน(รถอีแต๋น) เป็นระยะทาง 2.5 กิโลเมตร สำหรับนักเรียนชาวมอร์แกนเป็นประจำทุกปีการศึกษา
ซึ่งได้รับงบประมาณ จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง(สพป.ระนอง) และทางสำนักงานเขตพื้นที่ฯ ก็มีการกำกับดูแลการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านเกาะพยายาม เกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางไปเรียนของนักเรียนทุกคนด้วย
ส่วนการดำเนินการช่วยเหลือเกี่ยวกับการเดินทางของนักเรียนในระยะสั้น ปัจจุบันโรงเรียนอยู่ระหว่างการขออนุญาตสร้างทุ่นลอยน้ำข้ามคลองชั่วคราวกับองค์การบริหารส่วนตำบล เกาะพยาม และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระนอง และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แต่ รมว.มหาดไทย เห็นว่าการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยในชีวิตของเยาวชนต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเป็นการถาวร จึงจะใช้โอกาสที่มีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีออย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.ระนอง ระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค. 2567 นี้ ไปรับทราบเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ พร้อมนำเรื่องที่เป็นข้อติดขัดเข้าหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในที่ประชุม ครม. เพื่อให้การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเกิดขึ้นเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้รายงานให้รมว.มหาดไทยทราบเป็นข้อมูลในเบื้องต้นว่าโครงการก่อสร้างสะพานได้เริ่มขึ้นด้วยงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณปี 2557 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยเฉพาะชาวมอร์แกนที่อาศัยอยู่บริเวณอ่าวเขาควายที่ไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนและรับบริการสาธารณสุขได้ในช่วงมรสุม
โดยหน่วยงานดำเนินการเริ่มแรกนั้น เป็นของอำเภอเมืองระนอง แต่ต่อมาได้เปลี่ยนไปอยู่ในการดูแลของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระนอง เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในงานโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า จากนั้นเอกชนผู้รับจ้างก่อสร้างได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้วแต่ต้องหยุดก่อสร้างไป เนื่องจากเกิดกรณีหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่46 แจ้งความดำเนินคดีบุกรุกป่า ด้วยงานก่อสร้างบางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนจังหวัดระนอง
โดยที่ผ่านจังหวัดระนองได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อให้การดำเนินการถูกต้องในข้อกฎหมาย เน้นการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระนอง และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวเล้อม จังหวัดระนอง เพื่อให้โครงการกลับมาดำเนินการก่อสร้างต่อไปได้
“ท่านอนุทิน เน้นย้ำว่าการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่เนื่องจากท่านเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทยได้ไม่นานและไม่รับทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อได้ทราบถึงปัญหาแล้วก็จะแก้ไข และย้ำว่าในยุคที่ท่านเป็น รมว.มหาดไทยอะไรเป็นเรื่องความเดือดร้อนประชาชนจะต้องจัดการให้เร็วที่สุด ท่านจึงจะใช้เวลาช่วงมีประชุม ครม. สัญจรที่ จ.ระนอง เป็นโอกาสในการไปรับฟังเรื่องนี้ และนำเรื่องที่ติดขัดเข้าหารือกับที่ประชุม ครม. เพื่อนำไปสู่การร่วมกันแก้ไขปัญหายกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องในพื้นที่ให้เข้าถึงบริการสาธารณะที่ดีและปลอดภัยโดยเร็ว" น.ส.ไตรศุลี กล่าว