ข่าว

จบดราม่าครูฝาก อสม.ดูแลพ่อป่วย สพฐ. ปลดล็อก ‘ย้ายครู’ กลับบ้านเกิดแล้ว

‘ครู’ วิ่งรอกบ้านไปรร.ระยะทาง 40 กม. เพื่อดูแลพ่อป่วย โรคอัลไซเมอร์ แม้ยื่นเรื่องขอย้าย แต่ต้นสังกัดไม่อนุมัติ ‘โฆษก สพฐ.’ฟาดหัวหน้าใช้ดุลยพินิจ ‘ย้ายครู’ ได้ ย้ำต้องทำให้ ครูและบุคลากรทำงานได้อย่างมีความสุข ไม่มีความกังวลใดๆ ทิ้งสิ้น เพื่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน

ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช โฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (โฆษก สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อออนไลน์ถึงกรณีที่มีข้าราชการครูคนหนึ่ง ขอย้ายกลับบ้านเพื่อดูแลพ่อที่ป่วยดูแลตัวเองไม่ได้ โดยต้องเดินทางไป-กลับ จากบ้านไปโรงเรียนกว่า 40 กิโลเมตร(กม.)ทุกวัน และดูแลพ่อเพียงคนเดียว แต่ไม่ได้รับการพิจารณาย้ายจากทางโรงเรียนต้นสังกัด นั้น

ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวว่า จากประเด็นดังกล่าว ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้มอบหมาย ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. ติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พบว่า ครูคนดังกล่าวเป็นข้าราชการครู ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ 

 

 

ครูคนดังกล่าว ได้เคยแจ้งความประสงค์จะขอไปช่วยราชการยังอีกโรงเรียนหนึ่ง ที่อยู่ในตำบลโคกกง อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อดูแลบิดาซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และในครอบครัวมีพี่น้องด้วยกัน 4 คน คุณครูเป็นพี่คนโต ซึ่งในแต่ละวันทุกคนต้องออกไปทำงาน ไม่มีใครดูแลบิดา 

 

ครูต้องฝาก อสม. ช่วยดูแลให้ โดยคุณครูได้ทำเรื่องขอไปช่วยราชการที่โรงเรียนดังกล่าว กับทางโรงเรียนต้นสังกัด ทางผู้อำนวยการโรงเรียนต้นสังกัดจึงได้ดำเนินการตามกระบวนการโดยการเชิญคณะกรรมการสถานศึกษามาประชุมร่วมกัน และผลสรุปในที่ประชุมไม่อนุญาตให้ไปช่วยราชการ

 

.

ดร.เกศทิพย์ กล่าวย้ำว่า การพิจารณา ย้ายครู มีองค์ประกอบหลายข้อ โดยเหตุผลของการย้ายก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการพิจารณา ซึ่งตามระเบียบ หากเป็นการขอไปช่วยราชการภายในเขตพื้นที่เดียวกัน ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สามารถเสนอขอให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ ทำการพิจารณาอนุมัติได้ แต่หากเป็นการขอไปช่วยราชการที่ต่างเขตพื้นที่ ต้องส่งเรื่องเข้ามาที่ สพฐ. ส่วนกลางให้ทำการพิจารณาอนุญาต

 

 

ทั้งนี้ ทางโรงเรียนต้นสังกัดอาจให้ความเห็นไม่อนุญาต แต่ผู้บังคับบัญชาสามารถใช้ดุลยพินิจ พิจารณาให้การอนุญาตได้ตามเหตุผลแล้วแต่กรณี ซึ่งในกรณีของข้าราชการครูคนดังกล่าว ล่าสุด ทางสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สพฐ. ได้มีการประสานไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ ในการอนุญาตให้ย้ายไปช่วยราชการได้ โดยเสนอไปที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ ให้ทำการพิจารณาอนุมัติ และทางสำนักงานเขตพื้นที่ฯ จะเกลี่ยพนักงานราชการที่ทำหน้าที่ครูผู้สอน ให้มาชดเชยยังโรงเรียนต้นสังกัดต่อไป

 

 

“ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ) และเลขาธิการ กพฐ. ได้รับทราบถึงประเด็นดังกล่าวและมีความห่วงใยครูและบุคลากรทางการศึกษา จึงได้เน้นย้ำการขับเคลื่อนนโยบายลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งในเรื่องครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่น ที่ต้องดำเนินการโยกย้ายกลับภูมิลำเนาด้วยความโปร่งใส ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง"

 

 

โฆษก สพฐ. กล่าวอีกว่า รวมถึงการปรับวิธีการประเมินวิทยฐานะ การเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินครู การลดขั้นตอนมุ่งผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน และจัดหาอุปกรณ์การสอนและสวัสดิการ เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีความเป็นอยู่ที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ คืนครูกลับสู่ห้องเรียน และสามารถจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ 

 

 

ทั้งนี้ เลขาธิการ กพฐ. ให้ สพร. ปรับเกณฑ์การช่วยราชการเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาในกรณีที่ครูประสบปัญหาเช่นนี้ตามความเป็นจริง ซึ่งทุกส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมดำเนินการเพื่อให้ครูและบุคลากรทำงานได้อย่างมีความสุข โดยไม่มีความกังวลใดๆ และให้ทุกคนมุ่งพัฒนาผู้เรียนได้อย่างเต็มที่

 

ข่าวยอดนิยม