ยังไม่ชัด ย้าย หรือ ขยาย 'อุเทนถวาย'- อธิการบดี เผย รอหารือ 'รมว.อว.'

ช่วงบ่ายวันที่ 1 พ.ย. 2566 รศ.ดร.ฤกษ์ชัย ฟูประทีปศิ อธิบการดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (มทร.ตะวันออก) วิทยาเขตอุเทนถวาย เดินทางมาถึงที่ มหาวิทยาลัย เพื่อเข้าร่วมประชุมหาทางออกว่า จะดำเนินการตามคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการหาทางออกร่วมกัน ภายหลังศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (มทร.ตะวันออก) วิทยาเขตอุเทนถวาย ย้ายออกจากพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

โดยเมื่อมาถึงมีนักศึกษาศิษย์ปัจจุบัน มาตั้งแถวรอรับ พร้อมกับมอบแจกันดอกไม้ให้กำลังใจ และนายทักษิต เรียบร้อย นายกสโมสรนักศึกษาอุเทนถวาย เป็นตัวแทนยื่นจดหมายเปิดผนึก เพื่อยืนยันในจุดยืนการคัดค้านย้ายอุเทนถวายออกมาพื้นที่ ให้กับ รศ.ดร.ฤกษ์ชัย

 

 

ก่อนที่คณะครู ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน จะไปกราบสักการะพระวิษณุกรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัย

 

 

จากนั้น เวลาประมาณ13.10 น. รศ.ดร.ฤกษ์ชัย ฟูประทีปศิ อธิบการดี มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้นั่งหัวโต๊ะในการประชุม ร่วมกับ ตัวแทนสโมสรนักศึกษา ตัวแทนสมาคมศิษย์เก่า ตัวแทนสมาคมผู้ปกครอง โดยไม่ได้เปิดให้สื่อมวลชนร่วมรับฟัง

 

 

และภายหลังการหารือกันนานกว่า 2 ชั่วโมง รศ.ดร.ฤกษ์ชัย ฟูประทีปศิริ อธิบการดี มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เปิดเผย ว่า การหารือเป็นการมาทำเข้าใจและมาเล่าให้ฟังในสิ่งที่ไปหารือกับ ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(รมว.อว.) เมื่อวันที่ 25 ต.ค. โดยเฉพาะประเด็นเรื่องนักศึกษาอาจจะไม่สบายใจ จะกระทบการเรียน และหลังจากนี้ รมว.อว. ก็จะหารืออีกครั้ง หลังมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อมาหารือในการหาทางออกร่วมกัน

 

โดยคณะกรรมการชุดที่ตั้งขึ้น ประกอบด้วย ปลัดกระทรวง อว.เป็นชุดขับเคลื่อน และอธิการบดีฯจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,อธิการบดีอุเทนถวาย ,กรมธนารักษ์ สำนักงบประมาณ ,สำนักอัยการสูงสุด, สมาคมศิษย์เก่า อุเทนถวาย และนายกสโมสรนักศึกษา เพื่อหารือร่วมกัน และคาดว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องกรอบระยะเวลาด้วยเพราะการหารือไม่ใช่แค่มิติทางการศึกษา แต่มีมติด้านของวัฒนธรรมด้วย

 

 

ส่วนพื้นที่ของอุเทนถวายจะยังอยู่ที่นี่หรือไม่นั้น มองว่า วันนี้ต้องขอบคุณรมว.อว. เพราะถือเป็นครั้งที่เป็นการมาหาทางออกร่วมกัน และมีนักศึกษาเข้าไปร่วมเป็นกรรมการ และศิษย์เก่า ส่วนจะเดินต่อไปอย่างไรต้องรอผลการหารือ โดยทาง รมว.อว.จะมีการแจ้งนีดหมายมาอีกครั้ง

 

 

ทั้งนี้ รมว.อว.ไม่ได้พูดถึงเรื่องย้าย แต่พูดถึงการขยายพื้นที่และยกระดับ และจะต้องไปรอดูว่าทางออกเป็นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าประเทศไทยมีทางออกที่สบายใจเสมอ โดยรมว.อว.จะทำให้เกิดความชัดเจน ตามที่มีการหารือ ในการตั้งคณะกรรมการ และวันนี้จะต้องเริ่มเดินด้วยกัน

 

 

ส่วนกรณีคำสั่งของศาลปกครองที่ให้อุเทนถวายต้องย้ายนั้น มองว่า รมว.อว. มองไกลกว่านั้น ในการขยายพื้นที่หากทุกอย่างลงตัวทางออกก็จะออกมาดีที่สุด วันนี้เป็นการมาคุยเรื่องอุเทนถวายเป็นสมบัติของชาติมากกว่า

 

 

"ไม่ได้บอกว่าจะย้าย ท่านบอกว่าเป็นการขยาย และท่านก็ไม่ได้ฟันธง เป็นการเริ่มต้นในการพูดคุยกัน ถ้าถามใจทุกคนรักที่นี่ แต่จะเดินอย่างไรอีกเรื่อง"

 

 

สำหรับความชัดเจนที่ให้ความมั่นคงได้ก็คือ นักศึกษาที่เข้ามาเรียนอุเทนถวาย ก็จะได้รับการศึกษาที่ถูกต้องตามมาตรฐาน และคงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของอุเทนถวายอย่างแน่นอน ส่วนการขยายในพื้นที่เดิมหรือพื้นที่ใหม่อย่างไรนั้น ตนเองคงตอบไม่ได้ แต่ต้องขยายเรื่องเชิงโครงสร้างอย่างแน่นอน

 

 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า อุเทนถวายไม่ได้ทะเลาะกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสามารถพูดคุยกับจุฬาฯได้เพราะเป็นพี่น้องกันรั้วเดียวกัน ส่วนการแสดงออกของศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันนั้นก็เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และเชื่อว่า อุเทนถวายมีความเป็นลูกผู้ชายมากพอ

 

 

“อุเทนถวายควรเป็นสถาบันก่อสร้างหลักของประเทศไทย เป็นมรดก เป็นสิ่งที่ใครก็ซื้อเวลา 90 กว่าปีมาไม่ได้ ส่วนจะเดินต่อไปอย่างไรคงต้องรอการประชุม” ดร.ฤกษ์ชัย ฟูประทีปศิริ อธิบการดีมทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย กล่าว

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ระหว่างการประชุม และรอฟังผลการหารือนักศึกษาศิษย์ปัจจุบัน และศิษย์เก่า ต่างก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง ถึงที่มาที่ไปอุเทนถวาย และเหตุผลที่ไม่ต้องการย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมกับมีการนำป้ายข้อความมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการคัดค้านการย้ายออกจากพื้นที่ โดยหลังจากประชุมเสร็จสิ้น ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันได้รวมตัวกันชูป้ายแสดงออกยืนยันคัดค้ายการย้ายอุเทนถวาย

 

 

นายเดชา เดชะตุงคะ อุปนายกสมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย เป็นตัวแทนชี้แจงว่า การประชุมในครั้งหน้ากับคณะกรรมการฯ ตัวแทนอุเทนถวาย จะไปเสนอเรื่องของการปรับแก้กฎหมาย ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงประชุมสมาคม ภาคประชาชน ในการล่ารายชื่อทั้งศิษย์เก่า ปัจจุบัน และประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องดังกล่าวให้มาลงประชามติ

 

 

ซึ่งการหารือ ที่มีการพูดว่าจะขยายและยกระดับอุเทนถวายให้สมศักดิ์ศรี ตนเองยืนยันว่า สามารถย้ายได้ถ้ามีมติ แต่เป็นการขยายพื้นที่การศึกษา ไม่ใช่ย้ายออกไปจากที่เดิม และจุดหลักจะยังคงอยู่ที่เดิม และจะไม่มีการย้ายไปไหน ส่วนที่ว่าจะมีปัญหากับทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันย้ำว่า ไม่ได้มีปัญหา และไม่ได้ขัดแย้งกัน เพราะก็อยู่รั้วเดียวกัน มานาน 93 ปี

 

 

“และสุดท้ายหากมีมติจะต้องคืนที่ดินดังกล่าวนั้นจริงๆ ทั้งศิษย์เก่าและปัจจุบันจะไม่ยอมคืนให้จุฬาฯ แต่จะยินยอมคืนให้สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เท่านั้น” เดชา เดชะตุงคะ อุปนายกสมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย กล่าว