สอบ ‘ครูผู้ช่วย 2566’ มีผู้สอบผ่าน 25.59 % เฉพาะ 'คณิต-อังกฤษ' ไม่ผ่าน 60%

นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ให้มีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย รอบทั่วไปสอบ "ครูผู้ช่วย 2566" สังกัด สพฐ. ปี2566 ซึ่งการสอบภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป และสอบภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพได้ดำเนินการสอบเสร็จสิ้นไปแล้ว

 

โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2566 คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่การศึกษาต่างๆและสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.)ได้มีการประกาศผลสอบ "ครูผู้ช่วย 2566" ซึ่งก็มีประเด็นถกเถียงในเรื่องของข้อสอบ พบว่า 

 

กลุ่มคลัสเตอร์เขตพื้นที่การศึกษา ที่ใช้ข้อสอบของมหาวิทาลัยสวนดุสิต (มสด.) มีเกณฑ์ผู้สอบผ่านเฉลี่ย 30% , อ.ก.ค.ศ.สศศ.ซึ่งใช้ข้อสอบของ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เกณฑ์ผู้สอบผ่าน 40% ขณะที่กลุ่มคลัสเตอร์ที่ใช้ข้อสอบของ มหาวิทยาลัยราชภัฏ มีเกณฑ์ผู้สอบผ่าน 10%

 

วิชาเอกที่มีผู้สอบผ่านไฟเขียวใช้บัญชีอื่น

รวมถึงมีบางเขตพื้นที่การศึกษา ในบางวิชาเอกไม่มีผู้สอบผ่านเลย ซึ่งอาจทำให้บางเขตพื้นที่ฯได้ครูไม่ทันใช้ อย่างไรก็ตาม สพฐ.ได้วางแผนเบื้องต้นว่า หากเขตพื้นที่ฯไหนไม่มีผู้สอบผ่าน ทำให้ไม่ได้ครูเข้าไปสอนทดแทนในอัตราว่างนั้น จะให้ทำเรื่องขอใช้บัญชีจากเขตพื้นที่ฯอื่นแทน แต่มีหลักการว่าจะต้องขอใช้บัญชีในจังหวัดเดียวกันก่อน หากจังหวัดเดียวกันไม่มีก็ขอใช้บัญชีข้ามเขตพื้นที่ฯได้

 

สอบไม่ผ่านคณิต-อังกฤษ 60%

เมื่อถามถึงเสียงสะท้อนจากผู้เข้าสอบที่ต้องการให้ใช้ข้อสอบที่เป็นมาตรฐานกลาง นั้น นายอัมพร ชี้แจงว่า ตนไม่อยากให้เปรียบเทียบกันระหว่างสาขาวิชาเอก 

 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการสอบ "ครูผู้ช่วย 2566" ครั้งนี้ สพฐ.จะนำไปวิเคราะห์ต่อไปว่า ผู้ที่สอบไม่ผ่านจำนวนมากอาจมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ข้อสอบยากเกินไปหรือไม่ และข้อสอบวิชาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ที่กลุ่มผู้สมัครสอบวิชาเอกอื่น เช่น พลศึกษา ดนตรีสากล สอบไม่ผ่านเกณฑ์ 60% เป็นต้น

 

“ประเด็นต่างๆ เหล่านี้ สพฐ.จะให้มหาวิทยาลัยที่ออกข้อสอบวิเคราะห์ผลการสอบว่า มีจุดด้อยอย่างไร และผู้สมัครที่สอบผ่านและที่สอบไม่ผ่านมาจากสาเหตุใดบ้าง เพื่อวางแนวทางการสอบในอนาคตที่เป็นมาตรฐานกลางต่อไป”

ราชภัฏออกข้อสอบให้ลูกศิษย์

ทั้งนี้ สพฐ.เคยจ้างมหาวิทยาลัยเดียวออกข้อสอบเอง แต่พอทำแล้วกลับมีเสียงสะท้อนออกมาว่า เหตุใดไม่ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏแต่ละแห่งที่อยู่ตามภูมิภาคเป็นผู้ออกข้อสอบ จะดีกว่าหรือไม่ เพราะมหาวิทยาลัยราชภัฏก็เป็นมหาวิทยาลัยที่ผลิตบัณฑิตครูอยู่แล้ว

 

อีกทั้งเมื่อเรียนอยู่ภูมิภาคไหนก็จัดสอบตามภูมิภาคนั้น จึงเป็นที่มาของการกระจายอำนาจให้เขตพื้นที่การศึกษาตามกลุ่มคลัสเตอร์จับคู่กับมหาวิทยาลัยในท้องถิ่นออกข้อสอบ และถือว่ามหาวิทยาลัยได้ออกข้อสอบให้ลูกศิษย์ตัวเองได้สอบ

 

“แต่จากนี้ไปจะต้องไปดูว่า มหาวิทยาลัยควรมีเป้าหมายและนำข้อมูลจากเสียงสะท้อนต่าง ๆ ไปปรับปรุง เพื่อการสอบครูผู้ช่วยครั้งต่อไปจะต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม”

 

ทั้งนี้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา/อ.ก.ค.ศ.สศศ.ที่เปิดสอบบรรจุครูผู้ช่วย สพฐ. รอบทั่วไป ครั้งนี้ จำนวน 205 แห่ง มีตำแหน่งว่าง 7,813 อัตรา , กลุ่มวิชาที่เปิดสอบ 63 กลุ่มวิชา , ผู้มีสิทธิสอบภาค ก และภาค ข จำนวน 169,595 คน , เข้าสอบภาค ก และภาค ข จำนวน 167,862 คน มีผู้สอบผ่านภาค ก และภาค ข 42,952 คน หรือคิดเป็น 25.59%

 

กลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอกที่ไม่มีผู้สอบผ่าน ได้แก่ ภาษาเวียดนาม เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เลย และหนองบัวลำภู , วิชาพุทธศาสนา สพม.ยะลา ขณะที่กลุ่มวิชา หรือทาง หรือสาขาวิชาเอกที่ไม่มีผู้เข้าสอบ ได้แก่ ภาษาอังกฤษธุรกิจ สพม.แม่ฮ่องสอน และ อรรถบำบัด สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.)

 

สมพ.นครราชสีมา สอบผ่านมากสุด

สำหรับเขตพื้นที่การศึกษาที่มีเปอร์เซ็นต์หรืออัตราการสอบผ่านสูงสุด ได้แก่ สพม.นครราชสีมา ผู้มีสิทธิสอบ 277 คน เข้าสอบ 277 คน สอบผ่าน 193 คน สอบไม่ผ่าน 84 คน ผู้สอบผ่านคิดเป็น 69.68%

 

สพป.กาญจน์ สอบผ่านน้อยที่สุด

ส่วนเขตพื้นที่การศึกษาที่มีเปอร์เซ็นต์หรืออัตราการสอบผ่านน้อยสุด ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) กาญจนบุรี เขต 3 ผู้มีสิทธิสอบ 472 คน เข้าสอบ 464 คน ขาดสอบ 8 คน สอบผ่าน 85 คน สอบไม่ผ่าน 379 คน ผู้สอบผ่านคิดเป็น 18.32%