นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า การหาทางออก กรณี "หยก ธนลภย์" เยาวชนวัย 15 ปี กับทางสถานศึกษาคือ "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ"
จนถึงขณะนี้พยายามจะทำให้มีการพูดคุยกันเป็นหลัก ซึ่งตนมองว่าปัญหาที่เห็นไม่ตรงกัน สุดท้ายก็ต้องแก้ด้วยการพูดคุยกัน ไม่ว่าใครจะถูกหรือผิด เอาผลประโยชน์ของเด็ก ทั้งตัว "หยก" และเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ด้วย ซึ่งคิดว่าน่าจะหาทางออกได้
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ในฐานะผู้แทนราษฏร ทั้งตัว "หยก ธนลภย์" เด็กคนอื่น ๆ และผู้ปกครอง และหวังว่ากระทรวงศึกษาธิการจะเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ "หลายครั้งเราก็ต้องมาคิดเหมือนกันว่า ทำไมการพูดเรื่องนี้ต่อสาธารณะ เราจะต้องระมัดระวัง เพราะเราก็คิดว่าการพูดของเรามันจะทำให้สถานการณ์มันคลี่คลาย หรือจะทำให้สถานการณ์ถูกตีความ ที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือเกิดความหวาดระแวงขึ้นอีก"
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า เด็กทุกคนรวมถึง หยก จะต้องมีสิทธิได้รับการศึกษา และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ในนิยามของคำว่าผู้ปกครอง จะต้องถูกเหมารวมผู้ที่อุปการะ และบุคคลที่เด็กได้พักอาศัยร่วมอยู่ด้วย ซึ่งหากยึดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ไม่ว่าพ่อ แม่ เด็กจะทอดทิ้ง รัฐจะต้องไม่ทอดทิ้งเด็กคนนั้นซ้ำอีก โดยตนเชื่อว่า หากมีการพูดคุยกันก็จะหาข้อสรุปที่เป็นบวกกับทุกฝ่ายได้ในเร็ววันนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง