ข่าว

"ก.ค.ศ." เมินเสียงคัดค้าน ไฟเขียว อ.ก.ค.ศ. 245 เขตทั่ว ปท. มีผล 6 ก.พ.66

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตรีนุช นั่งหัวโต๊ะ "ก.ค.ศ." เมินเสียงคัดค้าน อนุมัติรายชื่อ/แต่งตั้งผู้รับคัดเลือก-เสนอชื่อเป็น อ.ก.ค.ศ.183 เขตพื้นที่การศึกษาประถมฯ และ 62 เขตฯมัธยมฯ รวม 245 เขตทั่ว ปท. มีผล 6 ก.พ.66

มีเสียงคัดค้านจากครูและบุคลากรทางการศึกษา ถึงที่มาของตัวแทนวิชาชีพ ที่เขตพื้นที่การศึกษาต้องเสนอมา 2 รายชื่อ เพื่อให้ส่วนกลางเลือกเอาไว้เพียงคนเดียวจากเดิมแต่ละพื้นที่จะเลือกตัวแทนเข้ามาเพียงคนเดียวและเป็นตัวแทนองค์กรวิชาชีพอัตโนมัติ ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวของ “ก.ค.ศ.” ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.)เป็นประธานโดยตำแหน่ง

 

"คมชัดลึก" ตรวจสอบเรื่องนี้พบว่ามีรายงานข่าวผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2566 โดยมี “ตรีนุช เทียนทอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเรื่องสำคัญ ดังนี้

 

1.เห็นชอบรายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)

 

สืบเนื่องจาก สพฐ.ได้ขอให้พิจารณารายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกฯ ว16/2565 ซึ่งในปัจจุบัน สพฐ.ไม่มีบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกฯ ประกอบกับจะต้องนำตำแหน่งว่างมากำหนดสัดส่วนเพื่อใช้ในการรับย้ายและสำหรับการคัดเลือก เพื่อให้การบริหารงานบุคคลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ และได้ผู้บริหารสถานศึกษามาทำหน้าที่ในการบริหารการศึกษาโดยเร็ว

 

ก.ค.ศ.จึงเห็นควรให้มีการดำเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษาสังกัด สพฐ.ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ.กำหนด (ว 16/2565) โดยได้ปรับปรุงรายละเอียดการดำเนินการเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งฯในส่วนของหลักสูตรการคัดเลือก ให้สอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ว 10/2564)

 

โดยมีรายละเอียดสาระสำคัญ ดังนี้ภาค ก ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ โดยปรับเนื้อหาการประเมินให้สอดคล้องกับลักษณะงานที่ปฏิบัติของตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ตามมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ว 3/2564) ซึ่งต้องมีการบูรณาการงานทั้ง 5 ด้าน ให้เชื่อมโยงและสอดคล้องกัน

 

ภาค ข ผลงาน ประเมินจากผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานตำแหน่งที่มีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน (ว 3/2564) และภาค ค วิสัยทัศน์และแนวคิดในการบริหารจัดการสถานศึกษาในการที่จะปฏิบัติงานในตำแหน่งที่สมัครเข้ารับการคัดเลือก โดยกำหนดองค์ประกอบ/ตัวชี้วัด ประเด็นท้าทายเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงการปรับประยุกต์ แก้ไขปัญหา ริเริ่ม พัฒนา คิดค้น ปรับเปลี่ยน หรือสร้างการเปลี่ยนแปลงตามที่กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ว 10/2564)

 

ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ค.ศ.ยังได้เห็นชอบเรื่องที่ 2.รายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกและผู้ได้รับการเสนอชื่อและแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาเพื่อให้การดำเนินการให้ได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 ได้ภายในระยะเวลา 90 วัน

 

ประกอบกับ ก.ค.ศ.ในคราวประชุมครั้งที่ 11/2565 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ได้มีมติอนุมัติให้แต่งตั้ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเฉพาะกิจคัดเลือกบุคคลเพื่อเสนอ ก.ค.ศ.แต่งตั้งเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 3 คณะซึ่งขณะนี้ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจคัดเลือกบุคคลทั้ง 3 คณะ รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ได้ดำเนินการพิจารณาบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นประธานอนุกรรมการ, อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ, อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา, อนุกรรมการผู้แทน กศจ., อนุกรรมการนายอำเภอหรือผู้แทน, อนุกรรมการผู้อำนวยการเขตหรือผู้แทน และอนุกรรมการผู้แทน ก.ค.ศ.ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 183 เขต และ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 62 เขต รวมทั้งสิ้น 245 เขต เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ก.ค.ศ.จึงมีมติเห็นชอบรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกและแต่งตั้งบุคคลเป็นคณะอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 183 เขต และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 62 เขต รวมทั้งสิ้น 245 เขต โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป 

 

แต่มีเงื่อนไขว่า หากตรวจสอบภายหลังพบว่าประธานอนุกรรมการ หรืออนุกรรมการรายใดมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม หรือมีกรณีใดกรณีหนึ่งที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด จะถูกเพิกถอนการดำรงตำแหน่งประธานอนุกรรมการ หรืออนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา

 

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ตรวจสอบความถูกต้องก่อนแจ้งให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ