ควรยุติ "ร่างพ.ร.บ.การศึกษา" เอาไว้ก่อน หรือ ไปต่อ
ประธานชมรมครู กทม.ออนไลน์ เรียกร้องไปยังผู้เกี่ยวข้อง ควรยุติ "ร่างพ.ร.บ.การศึกษา" เอาไว้ก่อน ร่างใหม่ยังคงมีเวลาอีกมาก ดีกว่าทำไปแล้ว เกิดความขัดแย้ง หวั่นได้ไม่คุ้มเสีย
ปฏิรูปการศึกษา ด้วยการยกเครื่อง “ร่าง.พ.ร.บ.การศึกษา” ฉบับใหม่ เป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 4ในวันอังคารที่ 10 มกราคม 2566 และครั้งที่ 5 ในวันที่ 11 มกราคม 2566 เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.....ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 นายไกรทอง กล้าแข็ง ประธานชมรมครู กทม.ออนไลน์ เปิดเผยกับ “คมชัดลึกออนไลน์” หลังออกแถลงการณ์ ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ปฏิรูปการศึกษา ที่ไม่ได้เกิดจากความต้องการของผู้เกี่ยวข้องที่แท้จริงหรือไม่ ว่า ปัญหาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...ที่จะนำเข้ารัฐสภาเพื่อพิจารณาในวันที่ 10-11 ม.ค.นี้ ต้นเหตุน่าจะมาจากปัญหาทางการเมือง
โดยมีการชุมนุมประท้วง เพราะเกิดข้อขัดแย้งอำนาจทางการเมืองและผู้ที่มีความเชื่อ ความชอบ และความนิยมในฝ่ายที่ต่างกัน ส่งผลให้ทหารทำการรัฐประหารเอาอำนาจอธิปไตย แม้จะสามารถเลือกรักษาสถานการณ์ตามกฎหมายก็ตาม
เมื่อได้อำนาจมาแล้ว ก็ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และทำการปฏิรูปด้านต่าง ๆ เพราะเห็นว่าทำเรื่องการปฏิรูปเป็นเรื่องที่ดี
การปฏิรูปการศึกษาครั้งนี้ ดูเหมือนไม่ได้เกิดจากกระแสเรียกร้องของครู ผู้ปกครอง ชุมชน นักเรียนหรือผู้เกี่ยวข้อง แต่อาจเป็นเพราะได้อำนาจมาก็ทำการปฏิรูปเสียเลย เหมือนจะเห็นในหลายครั้งที่มีคณะรัฐประหารเกิดขึ้นหรือไม่ อาจจะเป็นสูตรตายตัว ที่สำคัญเห็นชัดคือ รัฐธรรมนูญฉบับเก่าจะถูกยกเลิกแล้วร่างใหม่
"เมื่อปัญหามาจากอำนาจทางการเมือง ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งหลักคืออำนาจทางการเมืองกลับปฏิรูปไม่ไปถึงไหน วนมาคล้าย ๆ แบบเดิม อาจหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำหรือไม่แบบนี้ เมื่อการปฏิรูปการเมืองยังไปไม่ถึงไหน การปฏิรูปการศึกษา ที่มีการร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...ผมคิดว่า อาจจะไม่ไปถึงไหนเหมือนกัน เพราะความขัดแย้งยังมีอยู่"
ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องไปยังผู้เกี่ยวข้องว่า ควรยุติ "ร่าง พ.ร.บ.การศึกษา เอาไว้ก่อน ร่างใหม่ยังคงมีเวลาอีกมาก ดีกว่าทำไปแล้วเกิดความขัดแย้ง เพราะยังมีผู้ที่ยังคัดค้านอยู่ ที่สำคัญใครทำอะไร ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เขาอาจจะลงโทษโดยการไม่ให้โอกาสได้มาทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีก จะได้ไม่คุ้มเสียหรือไม่ โปรดไตร่ตรองให้ดี