ข่าว

ทำไมเรียนต่อมัธยมที่ นิวซีแลนด์ ถึงน่าสนใจ เป็นทางเลือกสำหรับเด็กสมัยนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การไปเรียนต่อนิวซีแลนด์ในระดับมัธยม หนึ่งในวิธีการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ การใช้ชีวิต รวมไปถึง AQ ได้มากกว่าที่เคย โดยมีค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับการเข้าศึกษาในโรงเรียนนานาชาติของไทย

ทำไมการเรียนต่อมัธยมที่ นิวซีแลนด์ ถึงน่าสนใจ เป็นทางเลือกสำหรับเด็กสมัยนี้

 

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่จะสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ง่ายมากขึ้น เพียงแค่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอินเทอร์เน็ต ก็สามารถเข้าไปโลดแล่นอยู่ในทะเลแห่งข้อมูลข่าวสารได้แล้ว แต่เราจะสามารถเชื่อถือข้อมูลเหล่านั้นได้มากน้อยเพียงใด เพราะในทุกวันนี้ ใครๆ ก็สามารถโพสต์เรื่องราวต่างๆ ลงไปในโลกออนไลน์ด้วยกันทั้งนั้น ทำให้มีข้อมูลที่ถูกและผิดปะปนคน จนยากที่จะแยกความเท็จและความจริงออกจากกันได้

 

 

ดังนั้น การคัดกรองข้อมูลที่ถูกต้องและมีคุณภาพให้แก่คนรุ่นใหม่ จึงทำให้การเรียนรู้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะไม่ต้องไปสับสนกับเรื่องจริงเรื่องหลอกให้วุ่นวาย ทำให้เลือกเรียนต่อในสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ ที่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม ทำให้การเรียนต่อมัธยมที่นิวซีแลนด์กลายเป็นแลนด์มาร์คทางการศึกษาที่น่าสนใจ แถมยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเด็กสมัยนี้ ที่ต้องการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งสังคม สติปัญญา รวมไปถึงทักษะชีวิตให้คุ้นเคยกับการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ซึ่งในอนาคต เด็กๆ จะต้องรู้จักการ Learn, unlearn และ relearn ในอัตราเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความก้าวหน้าของวิทยาการและเทคโนโลยีใหม่ของโลก โดยมีค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับการศึกษาในโรงเรียนนานาชาติที่ประเทศไทย

 

เทอมการศึกษาของโรงเรียนมัธยมนิวซีแลนด์        

จากทฤษฎีความสามารถในการพัฒนาสมอง พบว่าเด็กๆ ในช่วงอายุ 7-20 ปี จะมีความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้สูง โดยหลังจากนั้น สมองจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ช้าลงเรื่อยๆ และจะดำเนินชีวิตตามความเคยชิน จากประสบการณ์ที่ได้รับในช่วงก่อนหน้า ซึ่งทางประเทศนิวซีแลนด์เองก็ได้วางโครงสร้างหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับเด็กๆ ไว้เป็นอย่างดี คือ โดยการเปิดการเรียนระดับมัธยมที่นิวซีแลนด์ออกเป็น 4 ภาคเรียน สลับกับการปิดเทอมสั้นๆ เป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ตลอดทั้งปี เพื่อไม่ให้นักเรียนรู้สึกเหนื่อยกับการเรียนในโรงเรียนมากจนเกินไป ตามช่วงเวลา 4 ฤดูกาลของสภาพอากาศ ดังต่อไปนี้

เทอม 1: เดือนกุมภาพันธ์ - เดือนเมษายน

เทอม 2: เดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน

เทอม 3: เดือนกรกฎาคม - เดือนกันยายน

เทอม 4: เดือนตุลาคม - เดือนธันวาคม        

แต่อย่างไรก็ตาม หากพ่อแม่ผู้ปกครองอยากส่งเสริมศักยภาพทางวิชาการให้แก่บุตรหลาน ก็ควรจะพิจารณาถึงช่วงวัยที่เหมาะสม หากส่งเด็กประถม ที่มีอายุเพียง 6-12 ปี มาเรียนต่อต่างประเทศ อาจจะทำให้พวกเขารู้สึกห่างเหินกับครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก โดยเฉพาะเด็กบางคนที่ต้องอาศัยการพึ่งพาสูง ซึ่งยังไม่สามารถปรับตัวในการออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ดีนัก การส่งน้องๆ มาเรียนต่อต่างประเทศเร็วจนเกินไป อาจทำให้น้องๆ รู้สึกหวาดกลัวและไม่มั่นใจในตัวเองอยู่ภายในลึกๆ ได้ หากผู้ปกครองต้องการส่งน้องๆ มาเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมนิวซีแลนด์ ทางทีมงาน GENT ขอแนะนำว่า ควรรอให้น้องๆ อายุสัก 12-13 ปีเสียก่อน แล้วค่อยมาเริ่มเรียนระดับมัธยมที่นิวซีแลนด์ ใน Grade 7(Year 7)หรือ ม.1 เป็นต้นไป จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อครอบครัวและตัวเด็กเอง

หลักสูตรการเรียนมัธยมประเทศนิวซีแลนด์ ขอบคุณภาพจาก Wellington East Girls’ College, New Zealand

หลักสูตรการเรียนมัธยมประเทศนิวซีแลนด์        

จริงๆ แล้ว โรงเรียนมัธยมในนิวซีแลนด์มีหลักฐานการเรียนการสอนนั้นค่อนข้างยืดหยุ่น และมีความเหมาะสมกับผู้เรียนที่มีความสนใจในการเรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไป แถมยังเปิดกว้างสำหรับคนไม่ถนัดวิชาการด้วยการเปิดหลักสูตรอาชีวะเพื่อการประกอบอาชีพให้เลือกเรียนแทนได้อีกด้วย โดยเนื้อหาวิชาการต่างๆ ที่น้องๆ จะได้เรียนในระดับชั้นมัธยมที่ประเทศนิวซีแลนด์นั้น สามารถแบ่งเป็น 2 หมวดหลักๆ คือ

1.หมวดวิชาการ (Academic Subjects) เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ธุรกิจ บัญชี เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานที่จำเป็นต่อการศึกษาในระดับสูง หากน้องๆ ต้องการเรียนต่อในระดับปริญญาต่อไปในอนาคต

2.หมวดการปฏิบัติ (Vocational Subjects) เช่น การโรงแรมและการท่องเที่ยว การทำอาหาร การถ่ายรูป, การบิน หรือ Outdoor Education เป็นต้น ซึ่งเป็นทักษะวิชาชีวิต ที่พอเรียนกับไฮสกคูล ก็สามารถนำความรู้ความสามารถตรงนี้ไปใช้ในการสมัครงาน หรือเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวของตัวเองต่อได้ทันที

ผู้ปกครองจึงมั่นใจได้เลยว่า การส่งน้องๆ มาเรียนมัธยมที่นิวซีแลนด์จะทำให้เด็กๆ ค้นหาพบตัวเอง ว่าพวกเขามีความสนใจหรือถนัดในการทำอะไร เพราะทางโรงเรียนจะช่วยส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ทั้งในส่วนของวิชาการ และการปฏิบัติจริงด้วย และบางโรงเรียนจะมีหลักสูตรพิเศษ ให้น้องๆ ได้มีโอกาสได้ฝึกงานในสถานที่จริง และสามารถเก็บเป็นหน่วยกิตสำหรับการจบการศึกษาได้ด้วยเช่นกัน

การเตรียมตัวสำหรับการไปเรียนต่อมัธยมที่นิวซีแลนด์ ขอบคุณภาพจาก Rangitoto College, New Zealand

 

การเตรียมตัวสำหรับการไปเรียนต่อมัธยมที่นิวซีแลนด์         

คนที่จะประสบความสำเร็จได้ คือ คนที่เตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่คนที่ไม่บริหารจัดการอะไรแล้วมาคอยแก้ไขเฉพาะหน้า ถึงแม้ว่าการมีชีวิตแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ จะทำให้หลายคนรู้สึกสบายๆ แต่จริงๆ มันอาจจะนำปัญหาใหญ่มาให้ปวดหัวภายหลังได้ ดังนั้น หากมีโอกาสได้เตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อน ก็ย่อมได้เปรียบผู้อื่น แถมหากมีเหตุการณ์อะไรผิดพลาดไปจากที่คาดการณ์ ก็ยังมีเวลาเหลือมากพอ ที่จะไปสะสางจัดการให้เข้ารูปเข้ารอย โดยมี 3 สิ่งที่น้องๆ ต้องเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนเดินทางไปเรียนต่อมัธยม นิวซีแลนด์ ไม่ว่าจะเป็น

 

1.พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ  

จริงๆ เด็กไทยมีทักษะภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างดีกันพอสมควรเลย เพราะหลังๆ เราเริ่มมีหลักสูตร English Program เปิดกระจายไปทั้งในโรงเรียนรัฐและเอกชน ทำให้คนรุ่นใหม่และพูดฟังได้ในระดับที่ดีมาก แต่หากน้องๆ ยังมีอุปสรรคในการสื่อสารภาษาอังกฤษอยู่ล่ะก็ อาจจะต้องมาโฟกัสที่ 2 จุดนี้ คือ

1.1 ภาษาอังกฤษสำหรับการสื่อสาร Communication English เด็กไทยส่วนใหญ่พอที่จะฟังได้ บ้างแต่พูดไม่ค่อยได้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากความไม่มั่นใจและไม่ค่อยได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งทาง GENT แนะนำว่าน้องๆ ควรหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ Communication English หรือ General English เพิ่มเติม เพื่อให้ได้มีโอกาสได้ฝึกฝน โดยมีเวลาเรียนอย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์เป็นระยะเวลา 6 – 12 เดือนก่อนเตรียมตัวไปเรียนต่อ

1.2 ภาษาอังกฤษทางวิชาการ – Academic English เป็นประเด็นที่เด็กไทยมีปัญหากันค่อนข้างมาก เพราะนักเรียนไทยขาดทักษะทางด้านการอ่าน และการเขียน คุ้นกับการทำข้อสอบ Multiple choices หรือ Short answer เแต่ในต่างประเทศ จะเน้นการเขียน Essay เป็นหลัก ทาง GENT จึงขอแนะนำให้น้องๆ ลงเรียน Academic English/ Writing นอกเหนือจาก Communication English เพื่อพัฒนาทักษะในส่วนนี้ก่อนเตรียมตัวไปเรียนมัธยมต่างประเทศ

2.เตรียมความพร้อมในด้านวิชาการ

หากอยู่ประเทศไทยแล้วน้องๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นวิชาบังคับของหลายๆ หลักสูตร แต่เมื่อไปเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น น้องๆ จะมีโอกาสได้เรียนในวิชาที่ตนถนัดมากขึ้น แต่เบื้องต้นแล้ว 2 วิชานี้รวมถึงวิชาภาษาอังกฤษ ล้วนแล้วแต่เป็นวิชาบังคับเป็นส่วนใหญ่ โดยหลักสูตรของแต่ละประเทศ แต่ละโรงเรียนนั้นจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นก็ควรทำการตรวจสอบกับทาง GENT ก่อนว่าหลักสูตรที่น้องจะไปเรียนนั้น ใช้หลักสูตรไหน และประกอบไปด้วยหัวข้อใดบ้าง

3.ปรับทัศนคติในการเรียนและเป้าหมายในชีวิต

สิ่งสำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จในการเรียนคือ การมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน ขยัน และมีความตั้งใจ  และอยากให้น้องๆ ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “อยากเป็นอะไรในอนาคต?” จะได้มีเป้าหมายในการเรียนมากขึ้น

4.เรียนรู้การใช้ชีวิตและ การอยู่ได้ด้วยตนเอง

นอกจากนั้นแล้ว การไปเรียนต่อมัธยมในต่างประเทศนั้น ต้องมีความพร้อมทางด้านจิตใจและความเป็นผู้ใหญ่ที่จะต้องรับผิดชอบชีวิตของตนเองโดยไม่มีผู้ปกครองมาดูแล น้องๆ ต้องเข้าใจว่าอิสระต้องมาพร้อมกับขอบเขตและกฎระเบียบต่างๆ ด้วย เพราะทุกที่มีกฎระเบียบหมด และการที่น้องๆ ยังเป็นนักเรียนอยู่นั้น นอกจากมีหน้าที่ในการเรียนวิชาการแล้ว ก็ยังต้องเรียนรู้ในการเข้าใจและอยู่ได้ด้วยกฎของสังคม

เรียนต่อนิวซีแลนด์ มัธยม ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

 

เรียนต่อนิวซีแลนด์ มัธยม ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่        

ค่าเทอมนิวซีแลนด์ระดับมัธยมไม่แพงอย่างที่คิด โดยเฉพาะคนที่เลือกเรียนต่อในโรงเรียนรัฐบาล จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ประมาณ 28,000 เหรียญนิวซีแลนด์ดอลล่าร์ (หรือประมาณ 7 แสนบาท) เท่านั้น ซึ่งราคานี้ได้รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่าเครื่องแบบนักเรียน ค่าประกันสุขภาพเอาไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ถ้าน้องๆ อยากเรียนโรงเรียนเอกชน ค่าใช้จ่ายก็อาจจะพุ่งสูงกว่านี้ได้เกือบอีก 1 เท่าตัวเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็ขึ้นกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของน้องๆ ด้วย ถ้าไม่เที่ยวหนัก กินหรู อยู่แพง และช้อปปิ้งบ่อยๆ งบ 7 แสนบาทก็เอาอยู่นะ แถมถูกกว่าค่าเทมอโรงเรียนนานาชาติบางแห่งในประเทศไทยอีกด้วย

 

การเรียนมัธยมที่นิวซีแลนด์ ยืดหยุ่น 1 ปีก็จบได้

อีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้คนนิยมไปเรียนมัธยมที่นิวซีแลนด์นั้น คือเราสามารถเรียนจบม.ปลายง่ายทันใจ ไม่ต้องสอบ GED ก็เรียนต่อมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้ แค่ไปเรียนต่อ Year 12 (NCEA Level 2) ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ใช้เวลาเพียง 1 ปี ก็ได้วุฒิไฮสคูลแล้ว ระบบการเรียนก็คล้ายๆ กศน ที่สามารถสอบเทียบวุฒิม.6 ได้ ถ้าคะแนนถึงเกณฑ์ แค่น้องๆ มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ก็เริ่มเก็บหน่วยกิตตามนี้ได้เลย

1.สะสมหน่วยกิตวิชาทั่วไปให้ครบ 80 หน่วยกิต

2.ภายใน 80 หน่วยกิตนั้น จะต้องมีอย่างน้อย 10 หน่วยกิตสำหรับวิชาที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณ (Numeracy) และอีก 10 หน่วยกิตที่เกี่ยวข้องกับทักษะภาษาอังกฤษ (Literacy)

3.หากต้องการให้ทางสถานทูตทำการโอนเกรดให้เป็นระบบ GPA 4.00 เหมือนของประเทศไทย จะต้องทำการลงทะเบียนเรียนมากกว่า 90 หน่วยกิต

แต่ถ้าใครอยากเรียนปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ บางสถาบันจะมีเงื่อนไชเพิ่มเติม ทำให้น้องๆ ต้องเรียนต่ออีก 1 ปี Year 13 เพื่อให้ได้วุฒิ NCEA Level 3 หรืออาจจะเป็นหลักสูตร University Foundation จึงจะสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศได้

 

สรุป        

เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินทอง เพราะเราไม่สามารถดึงเวลาให้หวนย้อนคืนมาได้ ต่างจากเงินทอง ที่ถ้ายังมีลมหายใจ ก็ยังมีโอกาสหาใหม่ได้เรื่อยๆ และวันเวลาในช่วงวัยอันเหมาะสมของน้องๆ ที่ควรได้รับการบ่มเพาะการศึกษาที่ดี ก็ไม่ควรถูกปล่อยให้ล่วงเลยไปอย่างน่าเสียดาย หากพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถหยิบยื่นโอกาสที่จะเตรียมความพร้อมนี้ให้กับน้องๆ ได้ การเรียนมัธยมที่นิวซีแลนด์หรือประเทศอื่นๆ ก็จะเป็นพื้นฐานความรู้ดีๆ ให้กับน้องๆ ในการต่อยอดต่อไปได้ในอนาคต หากท่านมีข้อมูลใดๆ ที่ต้องการจะสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อกับบริษัท GENT ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการวางแผนการเรียนต่อมัธยมในต่างประเทศ และเป็นเอเจนซี่แห่งเดียวของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลเอเจนซี่ยอดเยี่ยมของเอเชีย สำหรับการแนะแนวการศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษา (Asian Agency – Secondary Focus) โดย Study and Travel Magazine ในปี 2022

 

ติดต่อได้ที่ Line: @gentedutainment

ข้อมูลเพิ่มเติม www.gentstudyabroad.com

 

อัพเดทประเด็นที่เป็นกระแส กับ คมชัดลึก เพิ่มเติม ที่นี่

Twitter - https://twitter.com/Kom_chad_luek

Instagram - https://www.instagram.com/komchadluek_online/

 

คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565 ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote  ในครั้งนี้

รู้พร้อมกันที่ คมชัดลึก ทุก Platform

(https://awards.komchadluek.net/#)

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ