Lifestyle

นำร่อง"ร.ร.นิติบุคคล"ต้องคัดที่ไม่พร้อม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"หมอธี" ชี้นำร่องโรงเรียนนิติบุคคลยึดข้อสั่งการนายกฯ เลือกร.ร.ที่ไม่พร้อมและพัฒนาให้มีคุณภาพ พร้อมกำชับเร่งพัฒนาครูเข้มข้น หาวิธีนำเด็กอ่อนมาเรียนรู้กับครูเก่ง

      เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ที่โรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ จ.สงขลา นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมการเรียนการสอนโรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์  ว่า โรงเรียนมอ.วิทยานุสรณ์ เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีสถานะเป็นนิติบุคคล ได้รับการสนับสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อการศึกษาโรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดการเรียนการสอนระดับแนวหน้า ใช้นวัตกรรมและมุ่งเน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ และนำรูปแบบสะเต็มศึกษามาใช้ในการจัดการเรียนการสอนด้วย 
      ทั้งนี้ คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฎิรูปการศึกษา มองว่า ประเทศไทยมีปัญหาอยู่ 2 เรื่อง คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และ คุณภาพ แต่ตนมองว่าปัญหามีแค่เรื่องของคุณภาพเท่านั้น ส่วนความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นแค่สาเหตุ หากสามารถแก้ไขเหตุได้ผลก็จะดีเอง ซึ่งที่ผ่านมาได้มอบให้แต่ละจังหวัดไปคัดเลือกโรงเรียนที่มีความเป็นเลิศ เพื่อเป็นสถานเทียบเคียงในการยกระดับให้กับสถานศึกษาในจังหวัด โดยที่สงขลาได้ขอให้โรงเรียนมอ.วิทยานุสรณ์ เป็นหลัก

นำร่อง"ร.ร.นิติบุคคล"ต้องคัดที่ไม่พร้อม
       รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำลังจะดำเนินโครงการจัดการศึกษาในรูปแบบโรงเรียนนิติบุคคล หรือ public school ที่ให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมบริหารจัดการ อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่าการทำโครงการโรงเรียนนิติบุคคล ต้องไม่ทำในโรงเรียนที่มีความพร้อม เนื่องจากมีผลลัพธ์ที่ดีอยู่แล้ว แต่ควรให้เริ่มจากโรงเรียนที่ไม่พร้อม และทำให้โรงเรียนเหล่านั้นมีความพร้อมจัดการศึกษาที่มีคุณภาพให้ได้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการอิสระฯก็มีข้อเสนอในการดำเนินการโรงเรียนนิติบุคคล ซึ่งตนได้แจ้งศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานกรรมการอิสระฯแล้วว่าให้ยึดตามแนวทางที่นายกฯ สั่งการ

นำร่อง"ร.ร.นิติบุคคล"ต้องคัดที่ไม่พร้อม
       “นายกรัฐมนตรียังได้พูดในเวทีการประชุมผู้เขตเศรษฐกิจเอเปค ที่ประเทศเวียดนาม ว่า การเรียนการสอนสะเต็มศึกษาจะพัฒนาประเทศไทยไปสู่ 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นโรงเรียนทุกแห่งจะต้องนำรูปแบบสะเต็มศึกษามาใช้แย่างจริงจังให้มากขึ้นด้วย เพราะโรงเรียนแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่นำสะเต็มศึกษามาใช้แล้วเห็นผลสำเร็จคือคะแนนผลทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ทุกกลุ่มสาระสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ นอกจากนี้นายกฯยังได้เน้นย้ำให้ ศธ.เร่งการพัฒนาครูและผู้เรียนมากกว่าการปรับโครงสร้างของกระทรวง โดยเฉพาะการนำเด็กอ่อนได้มาเรียนกับครูที่เก่งๆ ทั้งนี้ได้มอบให้สภาการศึกษา (สกศ.) และ ปลัด ศธ.ไปดูเรื่องการพัฒนาครูให้มากขึ้น” รมว.ศธ. กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ