Lifestyle

เด็กไทยฟันผุถึง78.5%ทำเตี้ยแคระแกรนพัฒนาการช้า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรมอนามัยแฉอนาคตชาติฟันผุพุ่ง 78.5 % ส่งผลเด็กไทยพัฒนาการล่าช้า เตี้ย แคระ แกรน อึ้ง! คุณภาพแปรงเด็กตกมาตรฐาน28.4%ทั้งหัวแปรงใหญ่ ปลายขนแปรงคม คด ขนแปรงหลุด

เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ กรมอนามัย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์  อธิบดีกรมอนามัย แถลงข่าวโครงการคุณภาพแปรงสีฟันเด็กและการส่งเสริมอนามัยช่องปากของเด็กในศูนย์เด็กเล็ก ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในช่วงวัยแม่และเด็ก ที่ถือเป็นช่วงวัยที่สำคัญ ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษตั้งแต่ช่วง 0-5 ปี แต่ที่สำคัญคือปัจจุบันคนไทยมีการเกิดน้อยลง และยังเป็นการเกิดน้อยที่ด้อยคุณภาพ ดังนั้นจึงต้องร่วมกันส่งเสริมนโยบายให้เด็กไทยเกิดมาอย่างมีคุณภาพ พร้อมทั้งร่วมกันแก้ปัญหาเด็ก เตี้ย แคระ แกรน เพราะหากเด็กเตี้ย แคระ แกรน ก็จะนำประเทศแคระแกรนตามไปด้วยเพราะเด็กด้อยคุณภาพ อย่างไรก็ตามปัญหาเด็กไทยฟันผุที่ถึงแม้จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเพราะปัญหาฟันผุหลายซี่ในปากมีความสัมพันธ์กับภาวะ เตี้ย แคระ แกรน ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการล่าช้า เพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เนื่องจากเวลาฟันผุทำให้ไม่อยากเคี้ยวอาหาร ดังนั้นฟันที่ดีจึงถือเป็นประตูด่านแรกที่ทำให้เราได้เด็กที่สุขภาพดีสมส่วน

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ฟันผุในเด็กไทยนั้น น่าเป็นห่วง เพราะจากการสำรวจพบว่าเด็กไทยมีปัญหาฟันผุตั้งแต่อายุ 9 เดือน  และจะผุมากขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงอายุ 1-3ขวบ นอกจากนี้จากข้อมูลสุขภาพช่องปากคนไทยครั้งล่าสุดปี 2555 พบว่าเด็กอายุ 3 ปีมีปัญหาฟันผุ ร้อยละ  51.7 หรือมีฟันผุเฉลี่ย 2.7 ซี่ต่อคน ในขณะที่เด็กอายุ 5 ปีมีปัญหาฟันผุ ร้อยละ 78.5 หรือมีฟันผุเฉลี่ย 4.4 ซี่ต่อคน  ทั้งนี้ในเด็กที่มีฟันน้ำนมผุมากจะมีแนวโน้มว่าฟันแท้จะผุมากขึ้นตามไปด้วย หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที โรคจะลุกลามและเสียฟันในที่สุด การแก้ปัญหาเรื่องช่องปากที่ดี ต้องเริ่มจากผู้ปกครองเป็นหลัก ที่ต้องใส่ใจดูแลอย่างใกล้ชิด สอนให้รู้จักการใช้แปรงสีฟันที่ถูกวิธี และใช้แปรงสีฟันที่มีคุณภาพมาตรฐาน ตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเด็กเติบโตขึ้น จะเป็นหน้าที่ของศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนตามช่วงอายุ ที่ต้องให้การดูแลต่อไป

ทพ.สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีกฎหมาย ควบคุมฉลากแปรงสีฟัน ที่ผู้ผลิตจะต้องระบุข้างกล่องบรรจุว่าเป็นแปรงชนิดขนนุ่ม ปานกลาง หรือแข็ง โดยสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย จะมีการสุ่มตรวจคุณภาพตลอด และหากพบไม่ได้มาตรฐาน ผู้ผลิตจะมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยในปี 2559 มีการสำรวจคุณภาพแปรงสีฟันเด็กในกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 33 ยี่ห้อ 81 รุ่น พบมีคุณภาพผ่านมาตรฐานวิชาการแปรงสีฟันร้อยละ 71.6 ไม่ผ่านมาตรฐานร้อยละ 28.4 สำหรับแปรงสีฟันที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ร้อยละ 2.5 เป็นแปรงสีฟันที่หัวแปรงใหญ่เกินมาตรฐาน ร้อยละ 21 ปลายขนแปรงมีความคม แปรงคด ขนแปรงหลุด เป็นต้น และร้อยละ 16.1 แรงยึดกระจุกแปรงต่ำกว่าเกณฑ์ อย่างไรก็ตามช่องปากจะมีสุขภาพดีได้ แปรงสีฟันถือเป็นเครื่องมือสำคัญ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ผู้ปกครองควรเลือกตามช่วงอายุของเด็กเพื่อความเหมาะสมโดยจะแบ่งเป็นแปรงสีฟันสำหรับเด็กอายุ 3 ปี แปรงสีฟันเด็กอายุ 3-6 ปี และแปรงสีฟันเด็กอายุ 6-12 ปี โดยแปรงจะต้องมีขนนุ่ม ไม่ขุรขระ กระจุกแปรงยึดติดกับหัวแปรงแน่นไม่หลุดร่วงง่าย และที่สำคัญแปรงสีฟันที่เลือกควรเป็นแปรงที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย ซึ่งจะมีตราสัญลักษณ์เป็นรูปดาว 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ