เล่าสู่กันฟัง-หุ้นกับทางเลือกในการบริหารถังน้ำ

 ปกติแล้วการที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมักมีสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนมีความมั่นใจในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ หรือของโลกมากขึ้น ดังนั้นการที่ดัชนีเพิ่มสูงสวนกระแสอาจเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเวลานี้คนเริ่มมองว่าเหตุการณ์ระเบิดรายเดือนกลายเป็นเรื่องปกติจิ๊บๆ ของบ้านเราไปเสียแล้ว นอกจากจะไม่ได้บั่นทอนความรู้สึกเชื่อมั่นแต่อย่างใด หากยังสวนหมัดด้วยการปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้นอย่างสุดๆ อีกด้วย   ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจหรือน่าเป็นห่วง

 แต่ที่น่าเป็นห่วงแน่ๆ เห็นจะเป็นบรรดาแมลงเม่าทั้งหลายที่โบยบินเข้ามาในวงจรโดยไม่รู้เหนือรู้ใต้ เพราะโดยกฎธรรมชาติอะไรที่มันร้อนแรงก็มักจะมีทั้งคุณและโทษ ดังนั้นจะลงทุนอะไรก็น่าจะเผื่อใจกันไว้บ้าง เพราะไม่มีอะไรแน่นอนเท่ากับความไม่แน่นอน โดยเฉพาะได้ข่าวว่าตอนนี้มีคนรุ่นใหม่ๆ บางคนยังเรียนหนังสือไม่จบโดดเข้ามาในวงการนี้มากขึ้นเพราะอยากรวยเร็วๆ ก็ยิ่งน่าเป็นห่วง

 และทำให้ย้อนนึกไปถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว คือราวๆ ปี 2521 เห็นจะได้ เวลานั้นราคาหุ้นร้อนแรงมากๆ มากกว่าวันนี้ หุ้นบางตัวจากราคาที่เคยขายกันแค่ร้อยกว่าบาทดีดตัวขึ้นไปถึงพันกว่าบาท คนก็แห่หาเงินมาลงทุนอย่างบ้าคลั่ง บางคนถึงกับขายบ้านขายรถมาซื้อหุ้นเพราะเห็นคนอื่นเขารวยกันไปมาก ก็เกิดความโลภอยากรวยกับเขาบ้าง เวลาผ่านไปแค่ปีเดียวสถานการณ์กลับไปในทางตรงกันข้าม จากราคาร้อยก็กลายเป็นเศษสตางค์ มีคนไม่น้อยที่ล้มละลาย บางคนก็หนีหายไปจากวงสังคม บางคนเสียสติ และบางคนโดดตึกฆ่าตัวตาย

 จึงมีข้อคิดที่ได้จากการอ่านเรื่องราวของมหาเศรษฐีอันดับ 2-3 ของโลกมาฝากเป็นอุทาหรณ์ คนนั้นคือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ อภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกันวัย 80 ปี ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นที่รวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สินที่มีอยู่ราวๆ 2 ล้านล้านบาท เริ่มเล่นหุ้นตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยมีหลักการในการลงทุน คือเลือกลงทุนในบริษัทที่มีกระแสเงินสดที่ดี มีผลตอบแทนจากส่วนของเงินลงทุน(ROE)สูงกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ เป็นธุรกิจที่ไม่สลับซับซ้อนไม่ต้องใช้บุคลากรที่เป็นเทคนิเชียนมากมาย สามารถคาดเดาผลการดำเนินงานได้ง่ายๆ เป็นธุรกิจที่มีค่านิยมในยี่ห้อหรือแบรนด์แวลูสูง มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ มีสินค้าหรือบริการที่แตกต่างไปจากคนอื่น และข้อสำคัญมีผู้บริหารที่ดี ให้ความสำคัญต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก

 แม้จะรวยล้นฟ้า แต่บัฟเฟตต์ก็มีวิถีทางดำรงชีวิตที่แตกต่างและน่าสนใจยิ่ง ปัจจุบันเขายังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าที่ซื้อไว้เมื่อ 50 ปีก่อน บ้านหลังเล็กๆที่มีเพียงสามห้องนอน ยังคงขับรถด้วยตนเอง ไม่เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวทั้งที่เป็นเจ้าของบริษัทจำหน่ายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน ใช้เวลาว่างด้วยการดูทีวีไปกินข้าวโพดคั่วไปอยู่กับบ้าน ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่รวมกลุ่มไฮโซ แต่ทำบุญอย่างสม่ำเสมอ เมื่อปี 2549 ได้สร้างปรากฏการณ์ให้แก่โลกของการทำบุญ ด้วยการบริจาคเงินกว่า 1 ล้านล้านบาทให้แก่มูลนิธิที่สนับสนุนงานวิจัยค้นคว้ายาป้องกันโรคเอดส์

 ที่น่าแปลกคือยิ่งบริจาคมากเท่าไร บัฟเฟตต์ก็ยังคงรวยไม่เลิก หลายคนเชื่อว่าเป็นเพราะทรัพย์สินเงินทองนั้นเปรียบเสมือนน้ำในถัง หากเมื่อน้ำเต็มแล้วเราปิดฝาเงียบเก็บเอาไว้ใช้เป็นของตนเองแต่ผู้เดียว นับวันก็จะพร่องไปเรื่อยๆ ตรงกันข้าม หากเรานำน้ำนั้นแจกจ่ายให้แก่ผู้ต้องการ ผู้หิวกระหาย แม้น้ำจะแห้งไปบ้างแต่กลับจะมีแรงดึงดูดให้แหล่งน้ำใหม่ๆ รอบข้างรินไหลเข้ามาเติมถังน้ำของเราอย่างไม่ขาดสาย ไม่รู้จักหมดจักสิ้น แล้วคุณล่ะอยากบริหารถังน้ำของคุณแบบไหน

บัญญัติ คำนูณวัฒน์