
ปิดเกมเอเลียนรุก! มาตรการเข้มข้นทำ ‘ปลาหมอคางดำ’ ลดลงต่อเนื่อง
ปิดเกมเอเลียนรุก! มาตรการเข้มข้นทำ ‘ปลาหมอคางดำ’ ลดลงต่อเนื่อง ยืนยันทุกภาคส่วนร่วมสกัดสำเร็จ พร้อมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ
กรมประมงรายงานผลการดำเนินมาตรการควบคุมปลาหมอคางดำตลอดปีที่ผ่านมา โดยผลสำรวจล่าสุดเดือนกันยายน 2568 พบว่าจำนวนจังหวัดที่พบการแพร่ระบาดเริ่มลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ความชุกชุมของประชากรปลาหมอคางดำในพื้นที่ต่าง ๆ มีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจนเช่นกันโดยอยู่ในระดับปานกลางและระดับน้อย สะท้อนถึงความสำเร็จของการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบร่วมกับภาคีเครือข่าย
นางสาวทิวารัตน์ เถลิงเกียรติลีลา ผู้เชี่ยวชาญด้านความหลากหลายทางชีวภาพด้านการประมงน้ำจืด กรมประมง เปิดเผยว่าจากการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่แพร่ระบาดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ล่าสุดพบว่าจังหวัดพัทลุงและปราจีนบุรีไม่พบการแพร่ระบาดแล้ว ขณะที่พื้นที่กันชนเช่นจังหวัดตราดและปัตตานียังไม่พบการแพร่กระจายของปลาหมอคางดำ เช่นเดียวกับทะเลสาบสงขลาที่ยังคงไม่พบการแพร่ระบาดมาโดยตลอด
กรมประมงใช้จำนวนปลาในพื้นที่ 100 ตารางเมตรเป็นเกณฑ์ประเมินระดับความชุกชุม โดยระดับมากคือมากกว่า 100 ตัว ระดับปานกลางคือ 10 ถึง 100 ตัว และระดับน้อยคือต่ำกว่า 10 ตัว จากผลสำรวจเดือนกันยายน พบว่า 8 จังหวัดอยู่ในระดับปานกลาง และอีก 9 จังหวัดอยู่ในระดับน้อย สอดคล้องกับแนวโน้มการลดลงของประชากรปลาหมอคางดำทั่วประเทศ
การควบคุมปลาหมอคางดำเป็นไปตามแผนบูรณาการ 7 มาตรการที่กรมประมงและภาคีเครือข่ายดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การกำจัดปลา การปล่อยปลาผู้ล่า การส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากปลา การฟื้นฟูระบบนิเวศ การสร้างความตระหนักรู้และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ผลการดำเนินงานด้านการกำจัดปลาหมอคางดำสามารถนำออกจากระบบนิเวศรวมกว่า 7.35 ล้านกิโลกรัม แบ่งเป็นในแหล่งน้ำธรรมชาติประมาณ 2.5 ล้านกิโลกรัม และในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำประมาณ 4.8 ล้านกิโลกรัม ขณะที่การปล่อยปลาผู้ล่า เช่น ปลากะพงขาว ปลาอีกง ปลาช่อน และปลาเทพา รวมกว่า 1.14 ล้านตัว ถูกปล่อยลงทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อควบคุมประชากรปลาหมอคางดำตามกลไกธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านการใช้ประโยชน์จากปลาหมอคางดำที่ถูกกำจัดออก กรมประมงยืนยันว่าสามารถนำไปผลิตเป็นปลาป่น น้ำหมักชีวภาพบำรุงต้นไม้ หรือแปรรูปเป็นอาหารรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนควบคู่กับการควบคุมประชากร นอกจากนี้ยังมีการสร้างความรับรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ประชาชนแจ้งพบปลาหมอคางดำแบบเรียลไทม์ พร้อมทีมสำรวจตรวจสอบทันที
ในส่วนของมาตรการวิจัย กรมประมงกำลังศึกษาชุดโครโมโซม 4n ของปลาหมอคางดำเพื่อทำให้เป็นหมัน ซึ่งถือเป็นแนวทางสำคัญในการควบคุมประชากรในระยะยาว และมาตรการฟื้นฟูระบบนิเวศมีการปล่อยสัตว์น้ำพื้นถิ่นและสัตว์น้ำชายฝั่งกว่า 82 ล้านตัว เช่น ปลากะพงขาว ปลาอีกง ปลานวลจันทร์ทะเล หอยหวาน หอยตลับ หอยลาย และปูม้า เพื่อสร้างความหลากหลายทางชีวภาพและฟื้นสมดุลระบบนิเวศ
นางสาวทิวารัตน์สรุปว่า ข้อมูลล่าสุดสะท้อนชัดว่ามาตรการควบคุมปลาหมอคางดำได้ผลในทิศทางบวก และกรมประมงยังคงร่วมมือกับชุมชน เกษตรกร และเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อควบคุมและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากปลาหมอคางดำ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างยั่งยืน



