
"ศุลกากร" เริ่มเก็บ 1 ม.ค.69 ภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ทุกชิ้น! มูลค่าตั้งแต่บาทแรก
"ศุลกากร" เริ่มเก็บ 1 ม.ค.69 ภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ทุกชิ้น! มูลค่าตั้งแต่บาทแรก ประกาศยกเลิกกำหนดมูลค่าขั้นต่ำ (De Minimis) เตรียมถกแพลตฟอร์มออนไลน์รายใหญ่ เชื่อมข้อมูลตรวจสอบสินค้า
นายพันทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า สินค้าทุกชิ้นที่นำเข้าจากร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศ เช่น Shopee และ Lazada จะต้องเสีย ภาษีนำเข้าตามพิกัดอัตราศุลกากร พร้อม ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% จากเดิมที่เคยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าหากมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท โดยมุ่งเน้นสินค้าที่สั่งซื้อโดยตรงจากต่างประเทศ ซึ่งไม่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ และได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งทำให้เกิดการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการในประเทศ
ซึ่งที่ผ่านมามีการยกเว้นการจัดเก็บทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และอากรนำเข้า สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ตามข้อกำหนด De minimis Value เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าสินค้า ซึ่งต่อมาในเดือนก.ค.2567 ได้ประกาศเริ่มเก็บ VAT สำหรับสินค้านำเข้าแล้วทุกรายการ อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดดังกล่าวทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้ค้าในประเทศที่มีการนำเข้าผ่านช่องทางปกติ อีกทั้งยังขาดการตรวจสอบมาตรฐานของสินค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดสินค้าราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานทะลักเข้ามา และส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ
ทั้งนี้ ภายในวันที่ 7 พ.ย. 2568 จะมีการเชิญแพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามาหารือ เพื่อขอให้มีการส่งข้อมูลว่า มีสินค้ากี่ชิ้น มูลค่าเท่าไหร่ เสียภาษีนำเข้าและ VAT เท่าไหร่ โดยเป็นการขอความร่วมมือ เนื่องจากกรมศุลกากรไม่มีอำนาจในการไปบังคับส่วนนี้ หากแพลตฟอร์มไหนให้ความร่วมมือก็จะทำให้กรมฯ มีข้อมูลในการตรวจปล่อยสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและเร็วมากขึ้น แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือ ไม่มีข้อมูลมาก็อาจจะส่งผลให้การตรวจปล่อยทำได้ช้า เพราะสินค้าแต่ละปีที่เข้ามามีหลายหมื่นชิ้น สำหรับแนวทางการดำเนินการ คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 กรมศุลกากรจะเริ่มเก็บอากรสินค้านำเข้าตามพิกัดอัตราภาษีศุลกากร สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป ซึ่งสินค้าแต่ละชนิดจะเสียอากรเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับว่าสินค้านั้นเป็นอะไร ทำด้วยอะไร เช่น สินค้าที่ทำด้วยพลาสติก อาจจะเสียอากร 20% บวกด้วย VAT 7% โดยในแต่ละปีกรมฯ เก็บภาษี VAT ได้ราว 2,000 กว่าล้านบาท ตรงนี้เป็นแนวทางระยะสั้น แต่ในระยะยาวกรมฯ อยากเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าแบบเหมารวมทุกพิกัดภาษี เช่น ทุกสินค้าที่มาเป็นกล่องเก็บภาษีที่ 20-30% แต่ตรงนี้ต้องมีการแก้ไขกฎหมายซึ่งใช้เวลานาน
ทั้งนี้ ภายในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 กรมศุลกากรจะเชิญตัวแทนแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าหารือ เพื่อขอข้อมูลการนำเข้าสินค้า ทั้งจำนวน มูลค่า และยอดภาษี โดยเป็นการขอความร่วมมือ เนื่องจากกรมฯ ไม่มีอำนาจบังคับ หากได้รับข้อมูลครบถ้วนจะช่วยให้การตรวจปล่อยสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากไม่ให้ข้อมูล การตรวจปล่อยอาจล่าช้า
" ปัจจุบันสินค้าต่างประเทศทะลักเข้ามาในไทยกว่า 200 ล้านชิ้นต่อปี มูลค่ารวม 45,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาท มาตรการใหม่นี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มรายได้รัฐ แต่ยังสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย และช่วยสกัดสินค้าผิดกฎหมาย เช่น บุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่ต้นทาง” นายพันทองกล่าว
นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังเตรียม ปรับระบบตรวจปล่อยสินค้าให้เป็นสากล โดยจัดกลุ่มผู้ประกอบการเพื่อลดภาระของผู้ประกอบการสุจริต และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงเร่งคืนภาษีที่ค้างอยู่กว่า 100 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง



