ข่าว

"คนละครึ่ง พลัส" วันแรก คึกคักทั่วประเทศ ใช้จ่าย 2.49 ล้านราย

"คนละครึ่ง พลัส" วันแรก คึกคักทั่วประเทศ ใช้จ่าย 2.49 ล้านราย

29 ต.ค. 2568

กระทรวงการคลัง เผย "คนละครึ่ง พลัส" วันแรก คึกคักทั่วประเทศ ใช้จ่าย 2.49 ล้านราย ภายในครึ่งวัน ยอดพุ่ง 500 ล้าน

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568 ประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัส (โครงการฯ) สามารถเริ่มใช้จ่ายได้เป็นวันแรกกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยตั้งแต่เวลา 06.00 น. มีประชาชนให้ความสนใจใช้จ่ายผ่านโครงการฯ เป็นจำนวนมาก และ ณ เวลา 12.30 น. มีผู้ใช้จ่ายผ่านโครงการฯ สำเร็จแล้วกว่า 2.49 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 501.11 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 252.40 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 248.71 ล้านบาท ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น. ผ่าน G Wallet ในแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" โดยในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายให้เต็มสิทธิ 200 บาท

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวย้ำว่า ร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ยังคงสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยร้านค้าที่ประสงค์จะขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) สามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการฯ ได้ 1 ราย ผ่านแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายเพื่อซื้ออาหารและเครื่องดื่มจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 21.00 น. ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” 
 

\"คนละครึ่ง พลัส\" วันแรก คึกคักทั่วประเทศ ใช้จ่าย 2.49 ล้านราย

ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่า ประชาชนจะต้องเริ่มใช้ครั้งแรกภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น. ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ และสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ จะไม่มีการนำส่งข้อมูลรายได้ของร้านค้าให้แก่กรมสรรพากรแต่อย่างใด

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (Central Investigation Bureau: CIB) แถลงเปิดปฏิบัติการทลายกลโกงร้านค้าที่โฆษณาเชิญชวนประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการฯ ให้นำวงเงินตามสิทธิมาแลกเป็นเงินสด โดยมีส่วนต่างที่ต้องหักให้ร้านค้า ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริงตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ โดยได้จับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 3 รายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พร้อมทั้งเน้นกำชับเตือนประชาชนและร้านค้าห้ามซื้อขายสิทธิหรือใช้สิทธิโครงการฯ โดยไม่มีการซื้อขายจริง และโปรดอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนให้แลกวงเงินสิทธิโครงการฯ เป็นเงินสด เนื่องจากเป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) ทั้งนี้ หากมีการแลกวงเงินสิทธิโครงการฯ เป็นเงินสดสำเร็จ จะถือเป็นความผิดทางอาญาฐานร่วมกันฉ้อโกง ทั้งผู้แลกและผู้รับแลก (ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) ตลอดจนต้องคืนเงินให้แก่รัฐบาลทั้งจำนวนที่เคยได้รับไป รวมถึงอาจถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่นของรัฐบาลอีกด้วย

\"คนละครึ่ง พลัส\" วันแรก คึกคักทั่วประเทศ ใช้จ่าย 2.49 ล้านราย