'มอเตอร์เวย์ M6' บางปะอิน-โคราช เช็ก 2 ข้อห้าม ก่อนเจอปรับ 2,000
เช็ก 2 ข้อห้าม ก่อนใช้ 'มอเตอร์เวย์ M6' บางปะอิน-โคราช ห้ามหยุดรถ - เซลฟี่ ฝ่าฝืน เจอปรับ 2,000 บาท ดีเดย์ 28 ธ.ค. 2566
เตรียมเปิดใช้ฟรี สำหรับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 (M6) หรือ “มอเตอร์เวย์ M6” บางปะอิน-โคราช ระยะทาง 77.493 กิโลเมตร เพื่อรองรับการจราจร และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการเดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 28 ธ.ค. 2566 เป็นต้นไป ก่อนเก็บค่าบริการในปี 2568
นายชิตพล เหล่าอัน แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจสอบ การเตรียมเปิดใช้ “มอเตอร์เวย์ M6” บางปะอิน-โคราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ปรับภูมิทัศน์ พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งป้ายห้าม, ป้ายเตือน, ป้ายแนะนำเส้นทาง รวมทั้งป้ายขอความร่วมมือ ห้ามหยุดรถถ่ายรูป, ประชาสัมพันธ์จุดเข้า-ออก มอเตอร์เวย์ M6 เริ่มที่
- ทางหลวงหมายเลข (ทล.) 2 ถ.มิตรภาพ กม.65 บริเวณหน้าศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดนครชัยบุรินทร์ อ.ปากช่อง
- ทล.201 ถ.สีคิ้ว-ชัยภูมิ กม.5+500
- วงแหวนนครราชสีมา ทล.290 กม.14+775 อ.ขามทะเลสอ
- จุดเชื่อมต่อ ทล.204 ถ.เลี่ยงเมืองนครราชสีมา กม.3-230 กำหนดเฉพาะรถยนต์ 4 ล้อเท่านั้น ไม่มีสัญญาณไฟจราจรและจุดตัด มีจุดพักรถ กม.147 ให้บริการห้องน้ำชั่วคราว รวม 20 ห้อง
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่เน้นย้ำ ในการใช้มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน-โคราช คือ ไม่อนุญาตให้หยุดแวะถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่ระลึก รวมทั้งห้ามจอดรถบนไหล่ทางโดยพลการ ซึ่งมีความเสี่ยงสูง หากละเมิดมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
กรณีพบเหตุขัดข้อง ขอรับการช่วยเหลือฉุกเฉินสามารถ ติดต่อหมายเลข 1586 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ทล.2 ช่วงปกติ มีจำนวนยานพานะใช้เส้นทางผ่านวันละ 5-6 หมื่นคัน ช่วงเทศกาล หรือวันหยุดยาว เพิ่มขึ้นเท่าตัว ประมาณ 1-1.2 แสนคัน ข้อมูลหลังเปิดมาแล้ว 8 ครั้ง ซึ่งเปิดสลับเฉพาะขาเดียว มียานพานะใช้เส้นทางเฉลี่ยวันละ 25% หากเปิดทั้ง 2 ทิศทาง คาดว่า จะมีมากกว่า 40 %
อย่างไรก็ตาม ภาพรวม มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน-โคราช ระยะทาง 196 กม.วงเงิน 84,600 ล้านบาท งานโยธาฯ แบ่งการก่อสร้างเป็น 40 ตอน ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 28 ตอน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 12 ตอน ความคืบหน้า 95% งานโยธาบางส่วนอยู่ระหว่างดำเนินการเกี่ยวกับระบบจัดเก็บเงินผ่านทาง ติดตั้งกล้อง CCTV รวมทั้งระบบที่เกี่ยวกับความปลอดภัยต่างๆ คาดว่า จะแล้วเสร็จตลอดสายทาง ประมาณเดือน มิ.ย. 2568 อนาคตจะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญ ช่วยเติมเต็มโครงข่ายการคมนาคมขนส่ง และโลจิสติกส์ เปิดประตูการค้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ เพิ่มความสะดวกสบาย